เครือใบหยก ลุยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม วางแผนปี 2563 นำบริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ หวังระดมทุนขยายธุรกิจโฟรเซ่น ล่าสุดเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “แกรม แพนเค้ก” เสริมแกร่งขนมหวาน
นายปิยะเลิศ ใบหยก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเอส โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจภายในปี 2563 วางเป้าหมายสร้างยอดขาย 350-400 ล้านบาท ในการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อใช้ระดมทุนขยายธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ควบคู่ไปกับธุรกิจอาหารในกลุ่มอื่น โดยเฉพาะอาหารแช่แข็งที่มองว่าเป็นโอกาส คาดว่าต้องใช้เงินลงทุนสำหรับธุรกิจดังกล่าวประมาณ 100 ล้านบาท
ส่วนการเติบโตทางธุรกิจแต่ละปีจะค่อยเป็นค่อยไป หรือต้องการมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อเนื่องทุกปี จากปี 2559 ปิดยอดไปประมาณ 150 ล้านบาท และปี 2560 มียอดขายที่ 220 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงเน้นทำร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มีความเป็นญี่ปุ่น จากปัจจุบันเปิดให้บริการรวมแล้วกว่า 21 สาขา แบ่งเป็นขนมหวาน ได้แก่แบรนด์พาโบล ชีส ทาร์ต ขณะที่กลุ่มราเมนจะเป็นแบรนด์อิคโคฉะ ราเมน , อูชิดายะ และโมโมทาโร่ รวมถึงร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ ภายใต้แบรนด์เซไค โนะ ยามะจัง โดยในปีนี้ภาพรวมมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 6 สาขา ภายใต้เงินลงทุน 70 ล้านบาท นับว่ามากกว่าปี 2561 ใช้งบประมาณที่ 30-40 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจ
ล่าสุดบริษัทต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มร้านขนมหวาน จึงได้เปิดตัว “แกรม แพนเค้ก” จากประเทศญี่ปุ่น เป็นสาขาแรกที่สยามพารากอน ขนาดของพื้นที่ 73 ตารางเมตร โดยการเลือกทำเลดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าชาวไทยเอง หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าสยามพารากอน
“แม้ว่าตลาดขนามหวานประเภทแพนเค้กในบ้านเราจะมีอยู่หลายแบรนด์ และการแข่งขันก็ค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ส่วนตัวยังมองว่ามีโอกาสทางธุรกิจอยู่ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ยังคงได้รับความนิยมและมีผลตอบรับดีในเมืองไทย เราจะเน้นใช้กลยุทธ์สร้างแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”นายปิยะเลิศ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการนำแบรนด์เกี๊ยวซ่าภายใต้ชื่อไทโช เข้าเปิดให้บริการเพิ่มเติมและเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคทางหนึ่ง รวมถึงการพิจารณาทำร้านอาหารประเภทชาบูและปิ้งย่าง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปี 2562
อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟและธุรกิจจัดเลี้ยง นับเป็นตัวที่สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ทางหนึ่ง โดยมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี แบ่งออกเป็นธุรกิจโรงแรม 5.27 แสนล้านบาท ธุรกิจร้านอาหาร 3.85 แสนล้านบาท ธุรกิจกาแฟ เบเกอรี่ ไอศกรีม จัดเลี้ยงมูลค่ามากกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท โดยหากมองย้อนกลับไปช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-20% อีกด้วย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |