ชักจะพร่ำเพรื่อ
กับวาทกรรม "ฝ่ายประชาธิปไตย"
หลายปีมานี้ จุดอ่อนของการเมืองไทยคือ รัฐบาลมาจากการรัฐประหาร และได้กลายเป็นช่องโหว่ให้ นักการเมือง แกนนำมวลชน ที่ยืนตรงข้ามรัฐบาลจากการรัฐประหาร ใช้เรียกตัวเองว่า
ฝ่ายประชาธิปไตย
จนวันนี้ โจรปล้นชาติ คนเผาบ้านเผาเมืองเพียงแค่อยากให้อำนาจ สามารถยืดอก อ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเต็มปากเต็มคำ
๘๖ ปี ประชาธิปไตยไทย ลุ่มๆ ดอนๆ แม้จะมีความพยายามสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของนักการเมือง
เพราะหากนักการเมืองคำนึงถึงประชาธิปไตยมากกว่าผลประโยชน์ตนเอง การรัฐประหารจบไปนานแล้ว
ถึงแม้นจะมีการยึดอำนาจ ประชาชนก็ไม่ยอมรับ
และประชาชนไม่ต้องมาพะวงว่า รัฐบาลเลือกตั้งกับรัฐบาลรัฐประหาร อะไรดีกว่ากัน
ฉะนั้น การอ้างวาทกรรม "ฝ่ายประชาธิปไตย" ของนักการเมือง เพื่อให้ตัวเองดูดี จึงเป็นการกล่าวอ้างที่น่าละอายที่สุด
เช่นกรณีที่ "นคร มาฉิม" ย้ายไปซบทักษิณ แล้วบอกว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย
นั่นมันฝนตกขี้หมูไหลชัดๆ
คนที่ละทิ้งอุดมการณ์ตัวเอง มีพฤติกรรมการเมืองสุดขั้วได้ขนาดนี้
ประชาธิปไตยคืออะไร
ในมุมของพรรคเพื่อไทยมักจะนำไปเป็นเรื่องเดียวกับการเลือกตั้ง
มีเลือกตั้งก็คือมีประชาธิปไตย
ผิดถนัด!
ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมีการเลือกตั้งท่ามกลางห่ากระสุนสีเทาและสีม่วง
พรรคที่ชนะการเลือกตั้งบอกว่านั่นคือประชาธิปไตย
และกล่าวอ้างต่อๆ กันมาเป็นทอดๆ อย่างพร่ำเพรื่อว่า เมื่อตัวเองชนะการเลือกตั้งมาตลอด ก็แสดงว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย
ย้อนกลับไปดูการประชุมของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย มักพบเห็นนายทุนพรรคบงการเสมอ
เมื่อทักษิณไม่อยู่ หญิงอ้อก็คุมแทน
เรื่องนี้คนในพรรคระบอบทักษิณต่างรู้ดีว่า ประชาธิปไตยในพรรคนั้น....ไม่มีจริง
มีแต่การชี้นิ้วสั่งว่าจะเอาอย่างไร หรือจะให้เป็นอย่างไร
เมื่อในพรรคยังไม่มีประชาธิปไตย แล้วนอกพรรคจะหาคำว่าประชาธิปไตยจากไหน
คำว่า "ฝ่ายประชาธิปไตย" ในวันนี้ จึงเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างเพื่อลบปมด้อยของคนที่อยู่ในคอกการเมือง
และถูกชี้นิ้วสั่งโดยนายหญิง นายใหญ่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |