ชาวไทย-ต่างประเทศกว่าพันห้าร่วมวิ่งสนั่นคันนากับนักชกก้องโลก บัวขาว บัญชาเมฆ ที่บ้านเกิดสุรินทร์ เผยต่างประทับใจวิถีชนบท เจ้าตัวลั่นปีหน้าหากิจกรรมแปลกๆ มาเสนอ

    เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคมนี้ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ เพื่อเกาะติดรายการแข่งขันวิ่ง บัวขาว คันทรี มาราธอน ปีที่ 3 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดานักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 1,500 คน มาลงทะเบียนวิ่งและรับเสื้อพร้อมหมายเลข มีนักวิ่งรุ่นจิ๋วที่สุดในงาน อายุเพียง 4 ขวบ คือ เด็กชายภคินต์ เงินลาด เดินทางมา อ.จักราช จ.นครราชสีมา พร้อมกับพ่อแม่ซึ่งเป็นนักวิ่ง นอกจากนี้ยังมีนักเรียน-นักศึกษาได้เข้ามาลงทะเบียนวิ่งมากกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์  
    ในการวิ่ง “บัวขาว คันทรี มาราธอน ปีที่ 3” ครั้งนี้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ฟูลมาราธอน 42 กิโลเมตร 2.ฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร 3.มินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร และ 4.ฟันรัน 4 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นสตาร์ทจากโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ วิ่งรอบคลองผ่านจุดสำคัญหลายแห่ง อาทิ วัดโพธิ์ศรีธาตุบ้านเกิดบัวขาว บ้านสองหนอง อ่างเก็บน้ำบ้านเกาะแก้ว เข้าป่ายาง หมู่บ้านป่าเวย มาสู่วัดตะเคียน ไปบ้านอาลึ (หมู่บ้านโฮมสเตย์) เข้าเขตห้วยลำพอก ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ มาบ้านกุดหวาย เข้าสู่เส้นชัย โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ วัดโพธิ์ศรีธาตุ บ้านสองหนอง และเข้าจุดฟินิชโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์  
    เส้นทางการวิ่งดังกล่าวถือเป็นการวิ่งบนเส้นทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวสุรินทร์ ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม มนต์เสน่ห์แบบบ้านๆ ท้องทุ่ง ห้วย ลำธาร สัตว์เลี้ยง วัว ควาย ป่าไม้ พบปะผู้คนมากมาย ท่ามกลางวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตชาวอีสานใต้ ภายใต้ความรักความผูกพันของพี่น้องชาวจังหวัดสุรินทร์ในเส้นทางย้อนตำนานที่วิ่งบัวขาว วิ่งซ้อมมวยตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดยในปีนี้ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก อาทิ ชาวจีน ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เคนยา 
    นักวิ่งชาวต่างชาติคนหนึ่งกล่าวว่า ตนและครอบครัวดีใจมากที่ได้มีโอกาสเดินทางมาจากประเทศแคนาดาเพื่อเข้าร่วมวิ่งในรายการนี้ เพราะอยากสัมผัสชีวิตจริงของคนไทยในชนบท ร่วมวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติกับบัวขาว บัญชาเมฆ
    บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณพี่น้องนักกีฬาทุกๆ คนที่มาร่วมวิ่งในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีอีกขั้นหนึ่ง ตนพยายามจัดกิจกรรมให้ทุกคนมากร่วมสนุกที่บ้านเกิด ยินดีกับน้องๆ ทุกๆ คนที่เข้าร่วมกิจกรรมและได้รับเหรียญที่ระลึก ตลอดเส้นทางที่ทรหด นักวิ่งทุกๆ คนใจเกินร้อยจนสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้อย่างยิ่งใหญ่ ผ่านทุ่งนา ป่า ลำห้วย วัด หมู่บ้านต่างๆ ก็ถือว่าทุกๆ คนชอบและสนุกกับเส้นทาง สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม มนต์เสน่ห์แบบบ้านๆ ตนได้ยินทุกคนชื่นชมก็รู้สึกดีใจที่ทำให้เขามีความสุขได้ สำหรับปีหน้าจะมีกิจกรรมที่แปลกๆ ให้ผู้คนสนใจขึ้นมากกว่านี้ และกลับมาร่วมวิ่ง สนั่นคันนา ในเส้นทางย้อนตำนานที่บัวขาววิ่งซ้อมมวยตั้งแต่สมัยเด็กๆ.