เปิดแนวทางหารายได้ของกรมประชาสัมพันธ์ กสทช.อนุมัติให้มีโฆษณาได้สูงสุดไม่เกิน 8 นาทีต่อชั่วโมงและทั้งวันห้ามเกิน ชั่วโมงละหกนาที และสามารถหารายได้จากการแบ่งเวลาให้บุคคลอื่นดำเนินรายการ ได้แต่ทำเท่าที่จำเป็น ห้ามมุ่งหากำไร

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ยกร่างประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ........... เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในร่างดังกล่าว เป็นการดำเนินการ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่ ๙/๒๕๖๑ เรื่อง มาตรการ บรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ 

โดยสาระของร่างประกาศฉบับนี้คือ การประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การหารายได้จากการโฆษณาของกรมประชาสัมพันธ์ ตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.  ๒๕๕๑ โดยให้คำนึงถึงผู้บริโภค  ต้นทุนในการผลิตรายการ และความเป็นธรรมในการแข่งขันที่จะมีผลกระทบต่อผู้รับใบอนุญาตประเภทอื่นประโยชน์ในการอนุญาตและกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง (๖)  และ  (๒๔) แหงพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม .ศ. ๒๕๕๓ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.
๒๕๕๑ ประกอบข้อ ๑๐ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๙/๒๕๖๑ เรื่อง มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ 

กสทช.จึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพิ่มเติม ดังนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ บรรดาประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับหรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่มีกำหนดไว้แล้วในประกาศนี้ ซึ่งขัดหรือแย้งกับประกาศนี้ ให้ใช้ประกาศนี้แทน
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ การหารายได้ ภาคผนวก ก ของประกาศคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการ กระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

    “๔. การหารายได้
๔.๑ ผู้รับใบอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ประเภทกิจการบริการสาธารณะ ประเภทที่หนึ่งและประเภทที่สาม จะหารายได้จากการโฆษณาไม่ได้ เว้นแต่เป็นการหารายได้ โดยการโฆษณาหรือเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับงานหรือกิจการของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ สมาคม มูลนิธิหรือนิติบุคคลอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่แสวงหากาไรในทางธรกิจ หรือการเสนอภาพลักษณ์ขององคกร์ บริษท และกิจการโดยมิได้มีการโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ หรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม

๔.๒ ผู้รับใบอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรอโทรทัศน์ ประเภทกิจการบริการสาธารณะประเภทที่สอง อาจหารายได้ตามข้อ ๔.๑ หรือโฆษณาบริการทางธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมก็ได้แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละสิบนาที โดยเมื่อรวมเวลาโฆษณาตลอดทั้งวันเฉลี่ยแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละแปดนาที และสามารถหารายได้จากการแบ่งเวลาให้บุคคลอื่นดำเนินรายการ และรายได้จากการขอรับบริจาค สนับสนุนหรืออุดหนุนก็ได้ แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมรายได้แล้ว จะต้องเป็นไปเท่าที่เพียงพอต่อการประกอบ กิจการ โดยไม่เน้นการแสวงหากำไร

๔.๓ ผู้รับใบอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ประเภทกิจการ บริการ สาธารณะ ประเภทที่สาม กล่าวคือ กรมประชาสัมพันธ์ อาจหารายได้ตามขอ ๔.๑ หรือโฆษณาบริการทางธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมก็ได้ แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละแปดนาที โดยเมื่อรวมเวลาโฆษณา ตลอดทั้งวันเฉลี่ยแล้วต้องไม่เกินชั่วโมงละหกนาที และสามารถหารายได้จากการแบ่งเวลาให้บุคคลอื่นดำเนินรายการ และรายได้จากการขอรับบริจาค สนับสนุนหรืออุดหนุนก็ได้ เมื่อรวมรายได้แล้ว จะต้องเป็นไปเท่าที่ จำเป็นและเพียงพอต่อการผลิตรายการตามวัตถุประสงค์โดยต้องไม่เป็นการมุ่งต่อการแสวงหากำไรทางธรกิจ แต่ทั้งนี้ หากรวมรายได้ดังกล่าวแล้วเกินความจำเป็นและเพียงพอต่อการผลิตรายการตามวัตถุประสงค์ให้นำส่ง เป็นรายได้แผ่นดิน

๔.๔ คณะกรรมการจะพิจารณาทบทวนกำหนดระยะเวลาสูงสุดสำหรับการโฆษณาตามข้อ ๔.๒ และข้อ ๔.๓ เมื่อมีการประกอบกิจการไปแล้วสามปี โดยพิจารณาจากงบการเงินประจำปีที่ผู้รับใบอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์จัดส่งต่อคณะกรรมการ