“คลัง” จ่อชง ครม. ไฟเขียวผู้ถือบัตรสวัสดิการคนจนเข้ารับการรักษาพยาบาลตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคฟรี หวังช่วยแบ่งเบาภาระ พร้อมดีเดย์คืนภาษีแวตผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 2561 ตีกรอบเพดานไม่เกิน 7 พันบาทต่อราย แจงสูงกว่านี้ไม่ถือเป็นคนจน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการภาครัฐ จำนวน 11.4 ล้านคน ให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน เพียงแสดงบัตรสวัสดิการกับโรงพยาบาลก็สามารถรับการรับบริการได้ทันที โดยหลังจากนี้จะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลทุกแห่งถึงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเงินชดเชยนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพราะคาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินมาตรการไม่มาก
“เบื้องต้นคาดว่าผู้ถือบัตรสวัสดิการจะเริ่มรับบริการตามโครงการ 30 บาทโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 เป็นต้นไป โดยมาตรการนี้จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่มาตรการชั่วคราว ซึ่งหลักคิดของมาตรการคือ ผู้มีรายได้น้อยไม่ควรมีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ โดยบัตรสวัสดิการจะเป็นเครื่องยืนยันตัวตนที่จะได้รับการบริการจากโรงพยาบาล ซึ่งสิทธิการรักษาทุกอย่างจะได้ตามปกติ” นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด และการวางระบบไอทีเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของกรมสรรพากร โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2561 คิดเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนเพดานการคืนภาษีแวตนั้น ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน คงต้องรอให้การวางระบบไอทีต่าง ๆ เรียบร้อยก่อน
ทั้งนี้ ในหลักการเบื้องต้นนั้น ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ดังนั้น การคืนเงินภาษีแวต จึงจะคิดเป็นจำนวนเท่ากับภาษีแวตที่เสียไปผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือไม่ควรเกิน 7 พันบาทต่อราย เพราะหากการขอคืนภาษีแวตสูงกว่าจำนวนดังกล่าว ก็ถือว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยแล้ว
สำหรับการคืนภาษีแวตนั้น จะคำนวณให้ทั้งในส่วนเงินช่วยเหลือที่รัฐจ่ายให้ผ่านบัตรทุกเดือน และในส่วนที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเงินใส่เข้าไปในบัตรสวัสดิการเองเพื่อใช้จ่ายในการซื้อสินค้าต่าง ๆ ส่วนหลักการในการคืนภาษีแวตนั้น จะคืนเงินภาษีเข้าไปในบัตรสวัสดิการ โดยผู้ถือบัตรสามารถนำเงินในส่วนที่ได้รับคืนจากภาษีแวตไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ต่อ หรือสามารถกดเป็นเงินสดออกมาใช้จ่ายได้ด้วย ขณะที่กระบวนการคืนภาษีนั้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะคืนให้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือจะคืนครั้งเดียวหลังสิ้นสุดโครงการ
“ตอนนี้กำลังวางระบบ ในส่วนของวงเงินที่รัฐให้ผ่านบัตรทุกเดือนนั้น ธนาคารกรุงไทยจะรับหน้าที่เก็บข้อมูลจากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรเพื่อส่งให้กรมสรรพากร ส่วนวงเงินที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเอง ได้ประสานกับสมาคมธนาคารไทยให้เป็นผู้เก็บข้อมูลเพื่อส่งให้กรมสรรพากรต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเก็บใบกำกับภาษีเพื่อใช้ขอคืนภาษีแวต ส่วนการคืนภาษีนั้นกำลังพิจารณาว่าจะคืนให้ผู้ถือบัตรทุกเดือน หรือคืนครั้งเดียวตอนสิ้นปี เบื้องต้นมองว่าการคืนแบบรายเดือนน่าจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจมากกว่า เพราะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจได้ดีขึ้น” นายอภิศักดิ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |