น้ำมันแพงดัน "เงินเฟ้อ" เพิ่ม 1.46% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 พาณิชย์ชี้อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งจากบริโภคกำลังซื้อประชาชนฟื้นตัว รายได้ภาคเกษตรกระเตื้อง คาดทั้งปีโต 1.2% อยู่ในกรอบที่ประเมินไว้
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน ก.ค.2561 เท่ากับ 102.00 สูงขึ้น 1.46% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.2560 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน แต่ลดลง 0.05% เทียบกับเดือน มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เงินเฟ้อช่วง 7 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ค.) สูงขึ้น 1.04%
สาเหตุหลักที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น มาจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่ม 2.29% สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่ม 13.85% สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20, หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 5.86%, ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าหอพัก เพิ่ม 1.12%, ค่าโดยสารสาธารณะ เพิ่ม 0.70% ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.02% สินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องประกอบอาหาร เพิ่ม 1.74%, เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.48%, อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 1.10% นอกบ้าน เพิ่ม 1.23% และข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เพิ่ม 3.65% แต่ผักสด ลด 5.33% ผลไม้สด ลด 2.35%
ทั้งนี้ เมื่อแยกรายการสินค้า 422 รายการ ที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อ พบว่า สินค้าสูงขึ้น 224 รายการ ได้แก่ ข้าวสารเจ้า เพิ่ม 6.91%, ครีมเทียม เพิ่ม 1.07%, ซีอิ๊ว เพิ่ม 1.63%, กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพิ่ม 11.07%, กาแฟผงสำเร็จรูป เพิ่ม 1.15%, กับข้าวสำเร็จรูป เพิ่ม 1.29%, ก๋วยเตี๋ยว เพิ่ม 1.51%, ข้าวราดแกง เพิ่ม 1.22%, อาหารตามสั่ง เพิ่ม 1.37%, ก๊าซหุงต้ม เพิ่ม 10.76%, ค่ากระแสไฟฟ้า เพิ่ม 2.62%, น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพิ่ม 3.13%, แชมพูสระผม เพิ่ม 1.01%, ค่าโดยสารเรือ เพิ่ม 10.38%, น้ำมันดีเซล เพิ่ม 17.52%, บุหรี่ เพิ่ม 12.02%, เบียร์ เพิ่ม 1.16% และสุรา เพิ่ม 0.37% ส่วนสินค้าราคาไม่เปลี่ยนแปลง 84 รายการ และสินค้าราคาลดลง 114 รายการ
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า สนค.คาดว่าเงินเฟ้อไตรมาส 3 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.35% และไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งทั้งปีจะทำให้เงินเฟ้อขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.2% หรืออยู่ในกรอบที่ประเมินไว้ 0.8-1.6% ภายใต้สมมุติฐานคือ อัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยเติบโต 4.2-4.7% น้ำมันดิบตลาดดูไบ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในกรอบ 65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนทั้งปี 32-34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมา
“เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และต้องดูราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกว่าจะขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่อีกส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อของประชาชนดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการเกษตร ที่มีรายได้จากราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว มัน ข้าวโพด ราคาดีขึ้น และเงินบาทอ่อนที่ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรดีขึ้น รวมทั้งยังมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่น รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่จะทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น” ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (เงินเฟ้อพื้นฐาน) ที่หักรายการสินค้าอาหารสดและพลังงานออกไปเดือนก.ค.2561 เท่ากับ 102.10 สูงขึ้น 0.79% และสูงขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.2561 ส่วนยอดเฉลี่ย 7 เดือน สูงขึ้น 0.70%.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |