ต้องยอมรับว่าปัจจุบันสภาพ “ธรรมชาติ” ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่ว โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย “เมียนมาและไทย” เจอสภาพน้ำท่วม ขณะที่ “ญี่ปุ่น” เองก็เจอทั้งน้ำท่วมและคลื่นความร้อน  เหมือนกับแดนกิมจิที่อุณหภูมิสูงสุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งหากพินิจพิเคราะห์ตามดวงจากโหรดังอย่าง “โสรัจจะ นวลอยู่” เจ้าของฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” ก็ไม่น่าแปลก เพราะระบุว่าเป็นช่วงดาวอังคารเข้าใกล้โลก หรือที่เรียกกันว่า “อังคารสีเลือด” จึงทำให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงไปทั่ว เพราะดาวอังคารนั้นก็เป็นดาวแห่งสงคราม และการเสียเลือดเสียเนื้อ ...๐ กรณี “พี่ไทย” นั้น นอกจากมีภัยธรรมชาติแล้ว ยังมีเรื่องสารพัดร้อนแรงทั้งแวดวงการเมืองของปุถุชนและแวดวง “ผ้าเหลือง” โดยเฉพาะในวงการพระสงฆ์องคเจ้านั้น ความร้อนฉ่าคงไม่เกินกรณีการประกาศแต่งตั้ง “มหาเถรสมาคม” ชุดใหม่ ซึ่งน่าลุ้นว่ารายชื่อเดิมๆ นั้นจะคัมแบ็กกลับมาได้กี่รูป ...๐ นอกจากนี้ยังมีผลพวงจากกรณี ”ปฏิรูปวงการสงฆ์” อีก นั่นคือเรื่องของเงินทอนวัด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังปูพรมหวังรวบผู้ต้องหาจำนวน 10 ราย ซึ่งต้องบอกว่าสำเร็จเสร็จสิ้น 90% เพราะ มี 1 ราย คือ “น.ส.ประนอม คงพิกุล” ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาฯ จ.สมุทรปราการ ที่ได้หนีออกนอกไปตั้งแต่ปีมะโว้ ไม่อยู่ให้ใครมารวบตัว ...๐ ต้องบอกว่า แล้ว บรรดา “ฆราวาส” และปุถุชนเหล่านี้ จริงๆ ควรต้องถูกรวบถูกควบคุมก่อนบรรดา “พระชั้นผู้ใหญ่” ที่ถูกจับกุมคากุฏิคาวัด ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ...๐ แต่ก็ยังดีที่ไม่ปล่อยให้บรรดาคนเหล่านี้ “ลอยนวล” และที่น่าผงะ! อย่างยิ่งคือ “ชยพล พงษ์สีดา” อดีตรอง ผอ.พศ. หนึ่งในผู้ต้องหาที่ระบุว่า ปีๆ หนึ่งนั้นงบของ พศ.ที่จะให้วัดทั่วประเทศตกปีละ 5,000 ล้านบาท ที่สำคัญเงินส่วนใหญ่จะตกอยู่กับวัดใหญ่ๆ ดังๆ ในกรุงเทพฯ เท่านั้น โอ้! มายก๊อด มิน่าถึงทำให้ทั้งพระทั้งฆราวาสถึงกับน้ำลายหกหยดแหมะที่จะหาช่องทางหาเงินหากินกับวัด เพราะปีๆ หนึ่งก็ มีเค้กรอสวาปามในระดับพันๆ ล้านบาทนี่เอง ...๐ ได้ชื่อว่าที่ประธาน กกต.ไปแล้ว คือ “อิทธิพร บุญประคอง” ซึ่ง “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธาน สนช. ก็เตรียม นำรายชื่อประธาน กกต. และว่าที่ กกต.ทั้ง 4 รายขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในวันศุกร์ที่ 3 ส.ค. ซึ่งก็เท่ากับ กกต.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ เพลานี้ก็เป็นเพียง กกต.รักษาการรอส่งไม้ต่อเท่านั้น แต่ที่ไหนได้ “ศุภชัย สมเจริญ” ประธาน กกต.กลับมีการประชุม กกต.คัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด จำนวน 616 คนเรียบร้อยแล้ว แบบนี้มันทิ้งทวนทิ้งทุ่นให้ “กกต.” ชุดใหม่กันแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมกันเลยทีเดียว ...๐ เรียกว่าไม่ต่างจากรัฐบาล “ลุงตู่” เลยนะเนี่ย เพราะ ครม.เมื่อวันอังคารที่ 31 ก.ค.ก็เพิ่งอนุมัติเมกะโปรเจ็กต์มูลค่ากว่า 8.5 หมื่นล้านในการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ ล่าสุด “กอบศักดิ์ ฟูตระกูล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ประกาศกลางเวทีสัมมนาว่า ใน 1-2 เดือนข้างหน้าจะประกาศทีโออาร์ 6 โครงการ ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี มูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านบาท!!! แล้วอย่างนี้รัฐบาลใหม่เขาจะมี “โปรเจ็กต์” ทำมาหากินกันไหมเนี่ย ...๐ หรือเพราะการเลือกตั้งจะเลื่อนยาวออกไป จึงมีเสียงกระซิบหนาหูว่า “ก.พ.2562” นั้น เชื่อขนมกินได้แล้วว่าไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ยิ่งได้ฟังท่าทีจาก “ภิรมย์ พลวิเศษ” อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ในฐานะเลขากลุ่มสามมิตร ขาคุยเกทับบลัฟแหลก ที่หลุดบอกว่าการเลือกตั้งในปี 2562 นั้น เมษาฯ ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่กุมภาฯ ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ก.พ.62 ไม่มีการหย่อนบัตรก็น่าเชื่อถือมากขึ้นทุกที เพราะดูจากท่วงทำนองของรัฐบาลและรัฐมนตรีเองในยามนี้ก็ไม่มีใครบอกวันเดือนปีที่ชัดๆ เพียงแต่บอกว่าปีหน้ามีเลือกตั้งแน่เท่านั้น ...๐ อ้าว! บรรดาคนเสื้อแดงและบรรดา แม่ยก “ตู่” ทั้งหลาย เตรียมอาบน้ำแต่งตัวรอรับ “จตุพร พรหมพันธุ์” แกนนำ นปช.ที่จะพ้นคุกเรือนจำกรุงเทพมหานครในวันเสาร์ที่ 4 ส.ค.นี้แล้ว ซึ่งล่าสุด “กฤช กระแสร์ทิพย์” ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครก็ระบุว่า  สุขภาพนายจตุพรตอนนี้แข็งแรงดี ไม่มีอาการเจ็บปวด หุ่นดีขึ้น เพราะน้ำหนักตัวลดลงไป 30 กก. แหม! นี่ถ้าบรรดานักโทษหนีคดีทั้งหลายได้ยินอาจอยากกลับมารับโทษกันบ้างก็ได้น่ะ เพราะสุขภาพก็ดี รูปร่างก็สะโอดสะองขึ้น ส่วน เรื่องของอุปนิสัย หรือ “สันดาน” นั้น คงต้องติดตามกันต่อไปว่า “คุก” จะเปลี่ยนอะไรใครได้หรือไม่ …๐

...ท.ศักดิ์