หลังจากผ่านเหตุการณ์เฉียดตายจาการบินไปทำศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลี ผ่านเอเจนซี่คนไทย อดีตนักร้องค่ายอาร์เอส เม-จีระนันท์ กิจประสาน ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อาการปางตาย มีโอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็น ก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเธอเพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับสาวๆ ที่อยากทำศัลยกรรม
และนอกจากนี้ทางเม จีระนันท์ และครอบครัว ก็ได้เรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลที่เกาหลีแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ ให้ชดเชยค่าเสียหายซึ่งมีตัวเลขเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยเม จีระนันท์ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมเพื่อชี้แจงในเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายในนครั้งนี้ว่า
“ขอชี้แจงเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนนะคะ ในเรื่องของการเรียกร้องให้ชดเชยค่าเสียหาย มีตัวเลขเกิดขึ้น 2 ครั้ง
ครั้งแรก ประมาณเดือน ก.พ. 61 ตอนที่เมยังรักษาตัวอยู่รพ.ไทยแห่งที่ 2 คุณแม่ของเม ได้ไปพบตัวแทนของ รพ.Grand และตัวแทนคุณอุ้ม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเรียกร้องค่าเสียหายไปจำนวน 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่คุณแม่เรียกร้องไป จากความรู้สึก และสภาพของเมในเวลานั้น ที่เสมือนคนทุพพลภาพ หน้าอกของเมแบนราบ เป็นไม้กระดาน มีบาดแผลขนาดใหญ่ บริเวณรักแร้ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นแผลติดเชื้อ และถูกผ่าซ้ำที่บริเวณเดิมถึง 4 ครั้ง
แม้ในระยะยาว จะสามารถแก้ไขตกแต่งแผลให้ดีขึ้นได้ แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม 100% และปัญหาหนักที่เมเป็นคือ แขนและไหล่ติดเป็นผังผืด ไม่สามารถยกแขนขึ้นได้ ต้องใช้เวลาทำกายภาพระยะยาว ซึ่งก็ยังบอกไม่ได้ว่าใช้เวลานานแค่ไหน และจะหายเป็นปกติ 100% มั๊ย แต่ได้มีการประเมินกันว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี
ปอดของเมก็มีปัญหา คือ ปอดแฟบ ต้องทำกายภาพในส่วนปอด ซึ่งก็ทำให้เมเสียใจมาก เพราะไม่รู้ว่าจะสามารถกลับมาร้องเพลงได้อีกหรือไม่ ยังไม่นับ การสูญเสียรายได้จากธุรกิจ เมไม่สามารถทำงานได้ นับตั้งแต่เจ็บป่วยสาหัส ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเวลาอีกกี่เดือน กี่ปี
ในตอนนั้น คุณแม่ประเมินจากสภาพที่เมเป็น และคาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษาตัว อย่างน้อยอีก 1 ปี และไม่รู้ว่าเมจะกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมมั๊ย จะกลับมาร้องเพลงได้มั้ย จะใช้ชีวิตให้ปกติยังไง คุณแม่คิดไปถึง การมีคู่ครอง ว่าจะมีคนยอมรับเมที่เมเป็นแบบนี้ได้ไหม คุณแม่นอนร้องไห้ทุกคืนที่รพ. แม่ได้แต่โทษตัวเอง ว่าแม่ผิดเองที่พาเมไปทำ แม่ผิดเอง (นี่คือสภาพแม่เมในตอนนั้น)
และถึงแม้ว่าเมจะหาย แต่สภาพร่างกายของเม ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม ยังไม่รวมถึงสภาพจิตใจของเมและคุณแม่ ที่เงินเท่าไรก็คงไม่สามารถเยียวยาได้
ซึ่งทางรพ.แกรนด์ ได้ตอบกลับมาดังนี้
“ทางโรงพยาบาลขออนุญาติให้คำตอบคุณเมค่ะ เบื้องต้นทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับคุณเมเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ค่ะ ทางโรงพยาบาลพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ขอให้คำตอบคุณเมตามนี้ค่ะ
เท่าที่ทางรพ.ปรึกษาหารือมา เกี่ยวกับตัวอย่างคำพิพากษาและเคสต่าง ๆ ที่ผ่านมาในเกาหลี โดยปกติทางรพ. (รพ.อื่นที่เคยมีเหตุการณ์ที่คล้ายกัน) โดยจะออกให้คุณลูกค้าโดยเฉลี่ย 15-20 ล้านวอน รวมทั้ง ค่าปลอบขวัญ ค่ารักษาที่ผ่านมาและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามกฏหมายเกาหลีค่ะ
แต่ทางโรงพยาบาลมองในแง่มนุษยธรรม ทางโรงพยาบาลจะเสนอให้ตามจำนวนนี้ค่ะ
1. ค่าผ่าตัดหน้าอก 14.7ล้านวอน (***ประมาณ 440,000 บาท)
2. ค่าชดเชย 40 ล้านวอน ( 2 เท่าของตัวอย่างคำพิพากษาในกฏหมายเกาหลี) (***ประมาณ 1,200,000 บาท)
3. ค่ารักษาที่คุณเมได้รับการรักษาที่ผ่านมาในไทย 28 ล้านวอน (ทางรพ.จ่ายที่โรงพยาบาลนครธนและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เรียบร้อยแล้วโดยตรง) (***ประมาณ 840,000 บาท)
หากรวมจำนวนเงิน ตาม 3 ข้อเสนอดังกล่าว ทางโรงพยาบาลชดเชยให้คุณเมประมาณ 82 ล้านวอน (***ประมาณ 2,460,000 บาท) ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของตัวอย่างคำพิพากษาในกฏหมายเกาหลีค่ะ
(อันนี้เมเอาอัตราแลกเปลี่ยน 0.03 คูณตัวเลขเงินวอนที่เค้าแจ้งมา)
เมได้ปฏิเสธข้อตกลงนี้ และยังยืนยันตัวเลขเดิม คือ 60 ล้านบาท คุณอุ้ม ได้บอกว่าจะนำกลับไปแจ้งทางรพ.ให้พิจารณาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่เมจะได้รับคำตอบจากทางรพ.แกรนด์ คุณแม่ได้ส่งข้อความไปบอกคุณอุ้มว่า ไม่ขอเจรจาหรือฟังคำตอบจากทางแกรนด์อีกต่อไป คุณอุ้มจึงบอกว่า ต่อไปนี้อุ้มคงไม่ต้องประสานงานอะไรต่อ และให้เมติดต่อกับทางรพ.โดยตรง
ซึ่งหลังจากนั้น เมก็ไม่ได้ติดต่อไปยัง รพ.Grand หรือคุณอุ้มอีกเลย และทาง รพ.Grand และคุณอุ้มเอง ก็ไม่เคยติดต่อกลับ ถามไถ่ หรือดูแลรับผิดชอบเม ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษา follow up ทำกายภาพ ภายหลังที่ออกจากรพ.บำรุงราษฎร์ อีกเลย
เมได้มาคิดไตร่ตรองดูแล้ว หากเมนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการใดใด ทั้งเอเจนท์ และรพ.Grand ซึ่งยังคงไม่ได้รับผิดชอบ กับสิ่งที่เค้าได้ทำให้เมบาดเจ็บปางตายเกือบถึงแก่ชีวิต เมไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้วซึ่งไม่อาจแก้ไขอะไรให้กลับมาเป็นดังเดิมได้
เมจึงได้ปรึกษาทนายความ อาจารย์วันชัย สอนสิริ จึงมีความเห็นว่า ควรดำเนินการเบื้องต้น โดยการทำหนังสือโนติส ไปยัง 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ รพ.Grand , คุณหมอลี เซ ฮวาน ,คุณอุ้ม เอเจนท์ และ KTOP Clinic เรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย ***จำนวน 20 ล้านบาท *** ซึ่งพิจารณาแล้วว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม แต่ก็ไม่มีการตอบกลับใดใด จากทางรพ.Grand และคุณอุ้ม จนมาถึงวันนี้ มีเพียงแค่ KTOP Clinic ที่ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า KTOP ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดในเรื่องนี้ เพราะการผ่าตัดเกิดขึ้นที่เกาหลี ดังนั้นการเรียกร้องใดใด ให้เมไปเรียกร้องรพ.แกรนด์ ที่เกาหลี
การที่เมบอกว่า เมไม่ขอรับฟังคำตอบ หรือไม่ต้องการเจรจารับข้อเสนอของรพ.Grand จำนวน 1.2 ล้านบาท ไม่ได้หมายความว่า พวกคุณจะไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่คุณเกือบทำให้เมเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสปางตาย การที่คุณแม่เรียกร้องไป 60 ล้าน ก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่นึกไม่ถึงว่าคุณจะดูถูก เห็นชีวิตเมไม่มีค่าขนาดนี้ สิ่งที่คุณทำ เมรู้สึกเหมือนคุณโยนเงิน 1.2 ล้านบาท แล้วบอกว่า ผมให้คุณเท่านี้ จะรับก็รับ ไม่รับก็ไปฟ้องเอาที่เกาหลี ผมเห็นแก่มนุษยธรรมแล้วนะ นี่เป็นตัวเลขที่มากกว่าคำพิพากษากรณีเทียบเคียงของศาลเกาหลี ถึง 4 เท่า โดยรวมเอา ค่าทำหน้าอก และค่ารักษาพยาบาลในไทยทั้ง 2 แห่งมารวมไว้ด้วย เมรับไม่ได้ค่ะ จึงปฏิเสธไม่ขอรับไป
เมมีอาชีพทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ไม่ได้รับจ้างติดเชื้อในกระแสเลือด และอยากได้เงิน ถึงขนาดลงทุนเสี่ยงชีวิตเสี่ยงตายแบบนี้
หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายเดือน คุณก็เงียบ ไม่มีการติดตามถามไถ่ รับผิดชอบใดใดอีกเลย ทั้งๆ ที่พวกคุณก็รู้ว่า เมยังต้องรักษาตัวอีกต่อเนื่องในระยะยาว แล้วจะให้เมทำยังไง? เงียบ นิ่ง หดอยู่ในกระดอง ก้มหน้ารับชะตากรรมงั้นหรือ?
พวกคุณก็ยิ่งได้ใจ เดินหน้าทำธุรกิจ ขนคนไทยและเงินไปทำศัลยกรรมที่ รพ.ของคุณเป็นจำนวนมากทุกเดือน โดยไม่เหลียวแลคนที่ได้รับความเสียหาย ทุกข์ทรมานใจจากคุณเลย
แม้ทนายของเม จะมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไปเพื่อเปิดให้มีการเจรจาขึ้นอีกครั้ง พวกคุณก็ไม่มีแม้จะตอบกลับใดใด ทั้งรพ.Grand ,คุณหมอลี เซ ฮวาน และคุณอุ้ม เอเจนท์ มีเพียง KTOP Clinic ที่ตอบกลับมาว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ การผ่าตัดเกิดขึ้นที่เกาหลี เมต้องไปดำเนินการทางกฎหมายกับรพ.Grand ที่เกาหลีเอง
เมจึงตัดสินใจที่จะฟ้องต่อสังคม และยกเอากรณีของเม เป็นอุทาหรณ์ และจะดำเนินการทางกฎหมายเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป หากบทเรียนความเจ็บปวดของเมในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ป้องกันไม่ให้ใครที่อาจโชคร้าย ได้รับความเสียหายแบบเมได้บ้าง แม้เมจะไม่ได้เงินจำนวนใดใดก็ตาม อย่างน้อยเมก็ยังรู้สึกว่าชีวิตของเมมีค่า ไม่ใช่อย่างที่รพ.Grand และคุณอุ้ม เอเจนท์ ได้กระทำกับเมมาโดยตลอด”
และงานนี้เมื่อยังหาขอสรุปไม่ได้ ทางเม จีระนันท์ ก็ได้เดินหน้าต่อ โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความแจ้งต่อพี่ๆ สื่อมวลชน ใจความว่า
“สวัสดีค่ะ พี่ๆนักข่าว น้องเม จีระนันท์ กิจประสาน นะคะ พรุ่งนี้ เมจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้น 3 หน่วยงาน เพื่อขอความช่วยเหลือ ตรวจสอบ และดำเนินการ ดังนี้ กำหนดการ วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2561
1. ยื่นหนังสือถึง แพทยสภา เวลา 10.00 น.
2. ยื่นหนังสือถึง สบส. เวลา 11.00 - 12.00 น.
3. ยื่นหนังสือถึง สคบ. เวลา 14.00 น.
จึงขอเรียนเชิญพี่ๆ นักข่าว มาเพื่อทำการเผยแพร่ต่อสาธารณะ เป็นกระบอกเสียง และขอความช่วยเหลือจากพี่ๆ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @ may_aprilandmay
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |