ชักเริ่มเสียวว์ว์ว์ๆ


เพิ่มเพื่อน    

    เห็นว่าหล่นฮวบบ์บ์บ์...ไปเหลือแค่ 36 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง สำหรับคะแนนนิยมของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ตามการสำรวจล่าสุดของสำนัก กรุงเทพโพลล์ เขา ลดจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ลงไปแบบเน้นๆ เนื้อๆ ถึง 16 เปอร์เซ็นต์เอาเลยถึงขั้นนั้น ด้วยลักษณะอาการเช่นนี้ คงต้องเรียกว่า...ออกไปทาง รูดมหาราช หรือแทบหล่นมากองกับพื้น ถึงจะเอาเข่ายัน พยักหน้า บอกกรรมการว่าสู้ได้ สู้ต่อ แต่อะไรต่อมิอะไรมันน่าจะ ลำบาก ยิ่งขึ้นทุกที...
          ----------------------------------------
    แถม มุกใหม่ล่าสุด ว่าด้วย ประชาธิปไตยไทยนิยม ดูๆ จะออกไปทาง วิเศษนิยม เข้าไปทุกที คือมันอาจเป็นอะไรที่ดีอย่างที่พวก กองหนุน เท่าที่เหลืออยู่ เขาพยายามออกเรี่ยว ออกแรง ทำให้ ดูดี ให้มากที่สุดเท่าที่พอจะทำได้นั่นแหละ แต่มันอาจจะใช้ยาก แปรงยาก สำหรับบรรดาผู้ตอบแบบสำรวจการวิจัยของกรุงเทพโพลล์ในแต่ละราย เช่นรสชาติมันอาจจะเค็มไปหน่อย ไม่ซาบซ่า หวานปะแล่มๆ แบบพวกคอลเกต ดาร์ลี่ ใกล้ชิด ซอลท์ หรือแซคท์ ฯลฯ อะไรทำนองนั้น แถมยังเป็นผงๆ กว่าจะใช้ทีต้องเอาแปรงสีฟันเข้าไปแงะ ไม่สามารถบีบออกมาได้เป็นลิ่มๆ ใช้ง่าย ใช้สะดวก เหมือนบรรดายาสีฟันโดยปกติทั้งหลาย ดังนั้น...ยังไม่ทันจะลองแปรง ลองใช้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยเขาก็กลัวเหงือกพัง ฟันพัง ไม่คิดจะเอาด้วยกับ ประชาธิปไตยไทยนิยม หรือ ประชาธิปไตยวิเศษนิยม กันไปเป็นแถบๆ...
       ----------------------------------------    
    แล้วคราวนี้...จะเอาไงดี??? จะไปหวังพึ่งวุฒิสมาชิก 250 รายล้วนๆ ก็คงลำบาก คือนอกจากต้องคัดเอาประเภทสั่งได้ หันซ้าย-ต้องหันซ้าย หันขวา-ต้องหันขวา สั่งให้ลังกาหน้า-ลังกาหลังต้องทำได้ทั้งหมด หรือต้องหนักไปทาง หุ่นยนต์ ล้วนๆ นั่นแหละถึงพอจะวางใจได้มั่ง เพราะถ้ายังคงหลงเหลือความเป็นมนุษย์ ความเป็นตัวตนของตน เอาไว้เท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดความลังเล ความยับยั้ง ชั่งใจ แม้แต่ประเภทที่เคยหันซ้าย-หันขวามาโดยตลอด อย่างพวก ทหาร เป็นต้น แต่ถ้าดันหันไปชั่งน้ำหนักระหว่าง ความเป็นสถาบัน กับ ตัวบุคคล ขึ้นมาแล้ว โอกาสที่จะชูมือพรึ่บบ์บ์บ์พร้อมกันทั้ง 250 ราย อาจเป็นไปได้ยากซ์ซ์ซ์ยิ่งขึ้นเท่านั้น เผลอๆ...อาจต้อง หันหน้าชนกัน เอาเลยก็ไม่แน่!!!
 ------------------------------------------
    ยิ่งถ้าคิดจะไปหวังพึ่งพวกที่ถนัดในการเรียงอิฐ เรียงหิน พวกปลาไหลใส่สเกต หรือพวกที่ชอบสะสมทรัพย์ไปพร้อมๆ กับสะสมนาฬิกาเอาไว้ด้วยหรือไม่ก็ตามแต่ ฯลฯ ยิ่งน่าจะลำบากหนักขึ้นไปอีก คือบรรดาประเภทนี้โดยส่วนใหญ่ หนักไปทางพวก มะกอกร้อยตะกร้าก็ปาไม่ถูก ไม่ใช่แค่สอง-สามตะกร้าเท่านั้น แต่ละรายเขี้ยวงอก เกล็ดแตกลายงา มีหาง มีปีก แถมพ่นไฟได้ด้วย เมื่อไหร่ที่ชักเริ่มไม่แน่ใจว่า ประชารัฐ อาจรัดมือ รัดตีนตัวเอง ไม่ให้หยิบ ไม่ให้คว้าอะไรได้ถนัดถนี่ตามวาสนา สันดาน ที่ขุดยังไงก็ขุดไม่ออก โอกาสที่จะเกิดการลื่นไหล หันไปใส่สกีแทนสเกต เปลี่ยนไปใช้ผนังสำเร็จรูป แทนการเรียงอิฐ เรียงหินทีละก้อน หรือหันไปสะสมทรัพย์พร้อมกับสะสมปืน เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาและเป็นไป สุดท้าย...ใครก็ตามที่คิดจะเอามาใช้งาน ใช้การ ใช้เป็นบันไดพาดไปสู่เป้าหมาย ย่อมมีสิทธิบันไดเลื่อน ไปจนถึงไส้เลื่อนด้วยกันทั้งสิ้น...
       -------------------------------------
    สรุปแล้ว...อะไรต่อมิอะไรมันจึง ไม่ง่าย หรือออกจะ ยากซ์ซ์ซ์ เอามากๆ โดยเฉพาะถ้าหาก กองหนุน ประเภทที่พร้อมจะตอบแบบสำรวจของกรุงเทพโพลล์ทั้งหลาย ดันหันไปปลดประจำการกลายเป็น กองเกิน กันซะเป็นส่วนใหญ่ เหลือที่พอเรียกระดมอยู่ได้เพียงแค่ 36 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง อันนี้นี่แหละ...เมื่อไหร่ที่เหลียวหลังไปรอบๆ ย่อมมีสิทธิเสียววาบขึ้นมาได้เมื่อนั้น ส่วนเมื่อเสียวแล้ว ยังคงจะเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางเดิมๆ อีกหรือไม่ อย่างไร อันนั้น...คงต้องหันไปใช้ สติ และ ปัญญา พิจารณากันเอาเอง เพราะเรื่องความเสียว-ไม่เสียวนั้นถือเป็นคุณสมบัติส่วนตัว ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปัจเจกบุคคล จะเอามาเทียบเคียงกันและกันไม่น่าจะได้...
   ----------------------------------------------
    แต่ถ้าดูจากความเคลื่อนไหวของพวกที่มันไม่ชอบของดี ไม่ชอบประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ไม่ชอบแปรงฟันด้วยยาสีฟันวิเศษนิยม หลังๆ นี้...ก็ออกจะ น่าเสียว อยู่พอสมควรเหมือนกัน คือมันชั่งประดิษฐ์ คิดค้น กรรมวิธีใหม่ๆ ได้อย่างประณีตแยบยล เอามากๆ เมื่อไม่ยอมให้มันชุมนุมเกิน 5 คน มันดันจัดแถวเดินเรียงหน้ากันคราวละ 4 คน ตามสไตล์พีเพิล โก เน็ตเวิร์ก อะไรทำนองนั้น เล่นเอาไม่รู้จะไปคว้าเอากฎหมายมาตราไหนต่อมาตราไหน กระทั่งมาตราฉี่ฉิบฉี่ ยังจับไม่ได้-ไล่ ไม่ทันเอาดื้อๆ!!! คล้ายๆ ยุคที่พวก มวลชน 14 ตุลาฯ เคยประดิษฐ์ คิดค้น หนังสติ๊กยักษ์ เอาไว้สู้กับทหารเป็นกองทัพๆ นั่นแหละ เมื่อไหร่ที่ เงื่อนไข หรือ เหตุปัจจัย ในการที่ทำให้เกิดการต่อสู้ ต่อต้าน มันไม่ได้ถูกขจัดปัดเป่าให้ผ่อนคลายลง ไป การประดิษฐ์ คิดค้น วิธีการใหม่ๆ มันจะพัฒนาของมันไปเรื่อย จนท้ายที่สุด...กองทัพทั้งกองทัพ ก็อาจ เอาไม่อยู่ เอา ง่ายๆ ภายใต้บรรยากาศทำนองนี้ มันเลยออกจะ น่าเสียว มิใช่น้อย... 
   ------------------------------------------ 
    ก็เอาเถอะ...ไหนๆ เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว การ เดินหน้าประเทศไทย ต่อไป มันควรจะเดินไปตาม โรดแมป หรือ โรดหมับ คงต้องไปคิดๆ ไปตัดสินใจกันเอาเอง ถ้าเป็นไปตามโรดแมป ก็คงอีกไม่กี่แหมบ น่าจะได้เวลา กลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ตามสถานะ ตามฐานานุรูป ของใคร-ของมันไปตามสภาพ แต่ถ้าหากคิดจะ โรดหมับ หมุบๆ หมับๆ เขาจับ เขาจี๋ ไปอีกซักสิบปี ยี่สิบปีตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ คงต้องหา ยาแก้เสียว มารับประทานกันเอาเอง เพราะโอกาศเสียวซ่านไปโดยตลอดนั้นน่าจะเป็นไปได้สูงเอามากๆ ขออย่างเดียว...ถ้าหากถือ ผลประโยชน์แห่งชาติ หรือ ผลประโยชน์ส่วนรวม เป็นที่ตั้งกัน จริงๆ แล้ว ขออย่าให้ประเทศต้อง เดินหน้าลงคลอง หรือ ถอยหลังลงคลอง ตามตัวเองไปด้วยแล้วกัน... 
----------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Victor Hugo... “An invasion of armies can be resisted, but not an idea whose time has come.- การบุกรุกของกองทัพนั้นต้านทานได้ แต่การบุกของความคิดเมื่อมาถึง ไม่มีใครต้านทานได้...”
 -------------------------------------------  
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"