จ่อปลดล็อกพรบ.ป่าไม้!ปลูกไม้มีค่าในที่ดินตัวเอง-รวย


เพิ่มเพื่อน    

1 ส.ค61 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์  รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าไม้ พ.ศ.2484 ในมาตรา 7เพื่อให้ประชาชนที่ปลูกไม้ยืนต้น มูลค่าสูงในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือพื้นที่ของตนเองสามารถตัดไม้ไปขายได้ หรือสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินได้ ซึ่งต้องเป็นต้นไม้ตามบัญชีท้ายกฎหมายว่าด้วยสวนป่าจำนวน58 ชนิด  อาทิ ไม้สัก ไม้พะยูง ชิงชัน ประดู่ มะค่า ตะเคียน สะเดา นางพญาเสือโคร่ง ฯลฯ ว่า คนที่มีต้นไม้มีค่าอยู่ในครอบครองก็อยากจะได้ประโยชน์จากต้นไม้นั้น ซึ่งเดิมทางกระทรวงพบว่ามีคนไม่ดี ทำไม้เถื่อน  จึงต้องกำหนดเป็นไม้หวงห้าม เช่น ไม้พะยูงพื้นที่บ้านใครแล้วถูกตัด ก็จะถือว่ามีความผิด ดังนั้นจึงต้องขอปลดล็อกตรงนี้ โดยทางกระทรวงเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในสัปดาห์หน้า เพื่อขอยกเลิกมาตรา 7 ของพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวผ่านขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงหมดแล้ว รวมทั้งผ่านการทำประชาพิจารณ์ของประชาชนเรียบร้อยแล้วด้วย

“ถ้าเรื่องนี้ผ่าน ไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ก็จะเป็นประโยชน์ทางทรัพย์สินของเจ้าของ ซึ่งสามารถขายได้ ส่วนรายละเอียดในกติกาเรื่องการรับรองไม้ต่างๆนั้น จะอยู่ในรายละเอียดต่อไป ประชาชนหากมีที่ดินก็สามารถปลูกเอาไว้ เพื่อเป็นเงินออมในอนาคตเพราะอีก 20-30 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าสูง ดีกว่าการหยอดกระปุก เพราะกระปุกไม่แตก ปลูกให้เป็นทรัพย์สินได้  แต่มูลค่าของไม้แต่ละชนิดจะ ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด และตลาดจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าของต้นไม้ชนิดนั้นๆ  ดังนั้นใครที่มีที่ดินจำนวนมากก็น่าจูงใจให้ปลูกไม้มีค่ากันมากๆ” พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมจึงไม่มีการกำหนดราคากลางของไม้มีค่าเอาไว้  พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ราคากลางจะเป็นไปตามกลไกตลาด อาทิ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ซึ่งตลาดกลางรับซื้อไม้สักอยู่แล้วในปัจจุบัน ซึ่งไม้พะยูงเป็นไม้ที่มีราคาสูงที่สุด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"