“น้องหมา” ก็คล้ายกับคนทั่วไป เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่ง ย่อมต้องแก่ตัวลง และที่ลืมไม่ได้สุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อเลี้ยงแล้วก็ย่อมต้องดูแลอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะในยามที่เจ้าสี่ขาเริ่มมีปัญหาสุขภาพ หรือเดินเหินและวิ่งเล่นไม่ได้เหมือนเก่าจากวัยที่เพิ่มขึ้น 

    โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้ จึงได้เปิดบริการ “Senior care center” เพื่อตอบโจทย์เจ้าของสุนัขสูงวัย บริการครบวงจร ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อช่วยดูแลและแบ่งเบาภาระให้กับเจ้าของที่รักน้องหมา แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการดูแล อีกทั้งผู้เลี้ยงจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะโรคเมื่อสัตว์ป่วย บริการดังกล่าวจึงเริ่มเปิดตัวขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ใน 3 สาขา ได้แก่ พระราม 9, พระราม 2, ปิ่นเกล้า และสาขาอื่นๆ ก็ให้บริการได้เช่นกัน

(เมสินี วิสิฐนรภัทร)

    นางสาวเมสินี วิสิฐนรภัทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า “ที่มาของการเปิดให้บริการ Senior care center หรือศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงสูงวัย ปัจจุบันมีสุนัขสูงวัยจำนวนมากที่เจ้าของไม่มีเวลาเพียงพอที่จะดูแลได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากสุนัขสูงวัยต้องการความดูแลเอาใจใส่มากกว่าปกติ และการที่จะบอกว่าสุนัขมีอายุมากนั้นจะดูจากสายพันธุ์เป็นหลัก เช่น ถ้าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ, พูเดิล ถ้าอายุเกิน 10 ปีขึ้นไปจึงจะอยู่ในข่ายสูงวัย ส่วนสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์ บางตัวอายุ 7 ปีก็ถือว่าแก่แล้ว ที่ผ่านมาผู้ใช้บริการจะเป็นกลุ่มของคนรักสัตว์ทั่วไป และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน 
    “สำหรับสุนัขสูงวัยส่วนมากที่มารับบริการ Senior care center จะมีปัญหาสุขภาพที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ 1.เจ็บป่วยด้านระบบประสาท หรือเป็น “โรคอัลไซเมอร์” ซึ่งถือเป็นอาการที่คล้ายกับมนุษย์เช่นเดียวกัน และมักมาพร้อมกับอาการที่สุนัขช่วยเหลือเองไม่ได้ อีกทั้งขาไม่มีแรง 2.สุนัขที่ได้รับการ “ผ่าตัดหนัก” เช่น ผ่ากระดูกมา ซึ่งทำให้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดนานเป็นเดือน อีกทั้งต้องมีการตรวจแผลเพื่อป้องกันแผลกดทับ จึงเป็นที่มาของบริการดังกล่าว

    ในส่วนของ “สุนัขสูงวัยปกติ” ที่ไม่ได้เป็นโรค แต่ติดข้อจำกัดที่เจ้าของไม่มีเวลาดูแล ก็สามารถนำมาใช้บริการ Senior care center ได้เช่นกัน เป็นต้นว่าน้องหมากินอาหารเองไม่ได้ และเจ้าของก็ไม่มีเวลาป้อน ทางศูนย์ของเราก็จะมีพยาบาลที่จบตรงด้านสัตวบาล หรือได้รับการอบรมวิธีดูแลสุนัข มาคอยดูแลและป้อนข้าวป้อนน้ำ รวมถึงป้อนยาให้ ส่วนในรายที่สุนัขเป็นอัมพาต เจ้าหน้าที่ของเราก็จะคอยพลิกตัวให้ทุกๆ 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันแผลกดทับอย่างที่เรียนไปข้างต้น”
    นอกจากนี้ “สุนัขที่ไม่สามารถควบคุมปัสสาวะได้” หรือน้องหมาบางตัวที่ต้อง “บีบกระเพาะ” เพื่อช่วยเรื่องการขับถ่าย ตรงนี้หากเจ้าของทำไม่ได้ หรือไม่มีความรู้เพียงพอ สามารถนำสุนัขมาที่ศูนย์ของเราได้ เพราะจะมีพยาบาลคอยช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ดังนั้น Senior Care Center ถือเป็นวอร์ดเฉพาะสุนัขสูงวัยโดยเฉพาะ โดยจัดพื้นที่ให้อยู่ในห้องที่ใช้คอกไม้กั้นแทนการใช้กรง เพื่อให้สุนัขรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัด โดยมีพยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรมคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบอาการผิดปกติสามารถแจ้งสัตวแพทย์ให้เข้ามาตรวจได้ทันที
    สำหรับ “ศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงสูงวัย” จะให้บริการดูแลสุนัขเป็นรายเดือน ทั้งนี้ คิดค่าบริการตามน้ำหนักตัวของสุนัข โดยหากน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม อยู่ที่เดือนละ 25,300 บาท แต่หากน้ำหนักเกิน 10 กิโลกรัมขึ้นไป ค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 27,000 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวจะรวมค่าดูแล โดยพยาบาลเฉพาะทางตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่การดูแล, เช็ดตัว, พลิกตัว, ทำความสะอาด, ป้อนข้าว, ป้อนยา, สัตวแพทย์มาตรวจเช็กสุขภาพทั่วๆ ไป เช่น แผลกดทับ (ในส่วนของการตรวจสุขภาพสุนัขที่เป็นโรคเฉพาะทางโดยสัตวแพทย์, ค่าอุปกรณ์สำหรับการขับถ่าย, อาหารพิเศษสำหรับสุนัข จะมีค่าบริการต่างหาก) ที่สำคัญเจ้าของสามารถมาเยี่ยมน้องหมาได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถให้พยาบาลถ่ายคลิปวิดีโอสุนัขเพื่อให้ผู้เลี้ยงรับชมอยู่ทางบ้านได้เช่นกัน
    “ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขสูงอายุ ให้เริ่มจากการสังเกตพฤติกรรมของน้องหมาที่เมื่อมีอายุก็มักจะนอนเยอะ ดังนั้นเจ้าของควรเฝ้าดูว่าสุนัขป่วยหรือไม่ ที่สำคัญก็ควรพาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและรับวัคซีนป้องกันโรค ที่สำคัญจะทำให้รู้ว่าน้องหมามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ เพื่อจะได้รับการรักษาและดูแลอย่างถูกต้องค่ะ”.