เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. จ่อชง ครม. ลุยโครงการพักชำระหนี้-ลดดอกเบี้ย


เพิ่มเพื่อน    

เกษตรกรเฮ! บอร์ด ธ.ก.ส. ไฟเขียวโครงการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย 3% หวังช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 3.81 ล้านราย เล็งอ้อน ครม. ขอชดเชยดอกเบี้ย 1.63 หมื่นล้านบาท 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เป็นประธาน ได้เห็นชอบโครงการลดภาระหนี้เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปภาคเกษตรตามแนวทางเกษตรประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว และจะมีการเสนอโครงการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาวันที่ 31 ก.ค.นี้ พร้อมกับขอวงเงินชดเชยดอกเบี้ยจากรัฐบาล 1.63 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปช่วยลดภาระหนี้ให้กับเกษตรกร โดยมีเกษตรกรที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย 3.81 ล้านราย

ทั้งนี้ในรายละเอียดประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกเป็นการขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ โดยธ.ก.ส.จะพักชำระเงินต้นตามความสมัครใจแก่เกษตรกรที่มีหนี้กับธ.ก.ส.ก่อนวันที่ 31 ก.ค. 2561 ระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1ส.ค. 2561- 31 ก.ค. 2564 และให้มีการผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย โดยถ้าเป็นดอกเบี้ยเดิมก่อนเข้าโครงการ จะให้ชำระตามงวดอย่างน้อยปีละ1ครั้ง ส่วนต่อมาเป็นการลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยธ.ก.ส.จะลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่เกิดขึ้นใหม่เป็นเวลา 1ปี สำหรับเงินกู้ 3แสนบาทแรก ในอัตรา 3% ต่อปี

“ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดให้เกษตรกร 3% เวลา 1 ปี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2561-31 ก.ค. 2562 โดยเป็นส่วนที่ ธ.ก.ส.ลดให้ 0.5% อีกส่วนมาจากที่รัฐบาลช่วยชดเชยอีก 2.5% นอกจากนี้ในระหว่างที่มีการพักชำระหนี้ ธนาคารยังเปิดให้เกษตรกรสามารถกู้เงินปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ หรือกู้ทำการผลิตโครงการใหม่ได้ใหม่ได้ ทั้งโครงการของตนเองหรือโครงการปฏิรูปการเกษตรของกระทรวงเกษตร” รายงานข่าว ระบุ

นอกจากนี้ ลูกหนี้ที่เป็นภาระหนี้เสีย ธนาคารยังเปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้พร้อมกับ ให้ขอใช้สินเชื่อฉุกเฉินและจัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหนี้นอกระบบซ้ำ รวมถึงกรณีลูกหนี้ที่ไม่เข้าร่วมโครงการขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ สามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพการประกอบอาชีพดอกเบี้ยพิเศษได้ด้วย อีกทั้งยังมีโครงการส่งเสริมการออมเงิน เช่น เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการพักชำระเงินต้นของลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เข้า ครม. มูลหนี้ไม่เกินคนละ 3 แสนบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมถึงการช่วยเหลืออุดหนุนดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ธ.ก.ส.เพื่อแบ่งเบาภาระการชำระหนี้แก่เกษตรกรรายย่อย โดยการช่วยเหลือจะเป็นโครงการแบบภาคสมัครใจ ใครจะเข้าหรือไม่ก็ได้ หากคนที่มีปัญหาผ่อนไม่ไหวก็ขอให้ไปเจรจากับธ.ก.ส.ในการพักชำระเงินต้นได้เอง ส่วนใครที่คิดว่ายังผ่อนไหวและไม่อยากเสียดอกเบี้ยเพิ่มก็ยังสามารถผ่อนชำระได้ตามปกติ

ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายในการเน้นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสให้พึ่งพาตัวเองได้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ส่วนใหญ่ยังเป็นคนยากจนกว่า 30 ล้านคน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของคนทั้งประเทศ โดยที่ผ่านมาภาครัฐมีการตั้งงบกลางปีเพิ่มเติม 1.5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินการด้านปฎิรูปเกษตรกร เพื่อเน้นการลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การเพาะปลูกสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของตลาด

“การแก้ปัญหาความยากจนให้เกษตรกรจะเป็นหัวใจหลักในการแก้ปัญหาความยากจนของประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประเมินว่า หากเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้เฉลี่ย 4% ต่อเนื่อง จะทำให้ไทยหลุดพ้นประเทศความยากจนได้ภายใน 18 ปีข้างหน้า แต่หากจีดีพีขยายตัวได้ถึง5%จะทำให้ไทยหลุดพ้นความยากจนได้ภายใน 11 ปี ดังนั้นรัฐบาบลจึงพยายามปฎิรูปภาคการเกษตร ให้มีรายได้มากขึ้นอย่างยั่งยืน เพราะถ้าเกษตรกรหายจนได้เมื่อไร  มั่นใจว่าจะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางขึ้นไปเป็นประเทศที่มีรายได้สูงอย่างแน่นอน”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"