การลงพื้นที่ไปประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ “ครม.สัญจร” ตามต่างจังหวัดของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูจะเป็นอีเวนต์เปิดตัว “แนวร่วม” มากกว่าลงไปดูด
เพราะจังหวัดที่ลงพื้นที่ไป ส่วนใหญ่มักจะมีข่าวคราวอดีต ส.ส.โซนนั้นถูก “กลุ่มสามมิตร” ภายใต้ “3 ส.” สมศักดิ์ เทพสุทิน–สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ–สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รวบเข้ารังตั้งแต่ “บิ๊กตู่” เท้าจะเหยียบดินในพื้นที่นั้นเสียด้วยซ้ำ
ที่ผ่านมา พลันมีกำหนดลงพื้นที่ต่างจังหวัดของ “บิ๊กตู่” อดีต ส.ส.ละแวกนั้นมักจะมีข่าวพาดพิงก่อนแล้วทั้งสิ้น แล้วจะจบลงด้วยการออกมาเปิดประตูเมืองต้อนรับ เพื่อเป็นการตอกย้ำข่าวลือว่า
“เป็นจริง”
แน่นอนว่า “การเจรจา” น่าจะจบลงบนโต๊ะก่อนแล้วโดย “กลุ่มสามมิตร” ขณะที่ “บิ๊กตู่” เสมือนลงไปเพื่อ “ปักธง” ว่า นี่คือพื้นที่แนวร่วม
การใช้ช่วงลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร เพื่อเปิดโต๊ะเจรจาคงมีเวลาน้อยเกินไปสำหรับการพูดคุยเรื่องพวกนี้ หากแต่มีการ “กรุยทาง” ไว้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้งานสมบูรณ์แบบ
อย่างที่รับรู้กัน การประชุม ครม.สัญจรและการลงพื้นที่อย่างถี่ยิบในระยะหลังของคนริเริ่มให้ปัดฝุ่นกลับมาคือ “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ขณะที่การเลือกโซน เลือกจังหวัด สมัยปีแรกเป็นทีมงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่จะเลือกทัวร์เป็นรายภาค เวียนไปเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตก
จังหวัดที่ลงจะเน้นเป็นจังหวัดใหญ่ เพื่อความสะดวกในการประชุม ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมเพียงพอต่อเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน รวมไปถึงเรื่องของการรักษาความปลอดภัยที่ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดที่มี “ค่ายทหาร”
แต่เมื่อ “สมคิด” เข้ามา และมีการปรับกระบวนทำพื้นที่ของ “บิ๊กตู่” การเลือกว่าจะลงจังหวัดใดจะต้องผ่านความเห็นชอบจากอดีตแม่ทัพเศรษฐกิจของพรรคไทยรักไทยรายนี้ก่อน
สังเกตว่า ในช่วงปีสุดท้ายที่ “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ จังหวัดต่างๆ ที่ลงไป มักถูกพาดพิงว่าต้องการไปดูดอดีต ส.ส.มาเข้าสู่ “พรรคพลังประชารัฐ” เสมอ
นั่นเพราะในช่วงที่ผ่านมา “กลุ่มสามมิตร” ได้ใช้คอนเน็กชั่นของ “3 ส.” เพื่อเกลี้ยกล่อมให้นักการเมืองที่เคยทำงานด้วยกันสมัยไทยรักไทยมาลงเรือลำใหม่
เมื่อ “ดีล” สำเร็จ จากนั้นการลงพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กตู่” ฉายเดี่ยว หรือ ครม.สัญจร ก็จะตามไป “กระชับพื้นที่” เสมือนหนึ่งเป็นการ “เปิดตัว” พร้อมด้วยงบประมาณที่ลงไปภายใต้โครงการต่างๆ
ย้อนกลับไปตั้งแต่การประชุม ครม. ที่ จ.สุโขทัย ก่อนเดินทางไป หลายคนรู้ว่า “สมคิด” และ “สมศักดิ์” ซี้ปึ้กกันขนาดไหน ภาพการต้อนรับขับสู้สู่ “ราชธานีเก่า” ที่หวานชื่น จึงไม่น่าแปลกใจนัก
จากนั้นที่ จ.จันทบุรี โซนนี้อดีต ส.ส.หลายคนตกอยู่ในขุมข่าย รวมทั้งพรรคพลังชลของ “บิ๊กแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม ซึ่งก็นำสมาชิกออกมารับช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง ได้ไม่น้อยหน้ากัน
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ “เนวิน ชิดชอบ” แกนนำพรรคภูมิใจไทย จัดได้อลังการงานสร้างที่สุดก็ว่าได้ พาประชาชนออกมาต้อนรับที่สนามฟุตบอลของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบเต็มความจุ จน “บิ๊กตู่” ยิ้มไม่หุบ
มาถึงภาคเหนือตอนล่าง ที่ จ.นครสวรรค์ อดีต ส.ส.หลายกลุ่มถูกพาดพิงอยู่แล้วก่อนหน้า สุดท้ายคนที่มาต้อนรับนำโดย “อนุชา นาคาศัย” อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคไทยรักไทย ก็มาเป็นคีย์แมนคนสำคัญให้กับ “กลุ่มสามมิตร”
ที่ จ.อุบลราชธานี ที่มี “สุพล ฟองงาม” อยู่ก็เช่นเดียวกัน เขาตกเป็นเป้าก่อน “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่หลายวัน ที่สุดก็ออกมาต้อนรับเพื่อตอกย้ำข่าวลือว่า ย้ายขั้วแล้ว
ย้อนกลับไปตอนคิกออฟ “ไทยนิยม” ที่ จ.นครปฐม ก็ปรากฏว่า กลุ่มบ้านใหญ่ของตระกูล “สะสมทรัพย์” ที่สุดก็เปลี่ยนใจมาร่วมชายคา "ท็อปบูต" อย่างเซอร์ไพรส์มาแล้ว
จังหวัดอื่นๆ ที่ตกลงปลงใจไปแล้ว แต่ “บิ๊กตู่” ยังไม่ลงพื้นที่ ไม่ว่าจะที่ จ.เลย หรือที่อื่นๆ ก็น่าจะมีโปรแกรมให้คาราวานของรัฐบาลไปเจิมเอาฤกษ์เอาชัยเหมือนที่อื่นๆ
มันเหมือนเป็น “โปรแกรม” ที่ “กลุ่มสามมิตร” เป็น “หน่วยล่วงหน้า” ไป “ขายขนมจีบ” เสร็จแล้วก็ให้รัฐบาลลงไปประกาศยึดอย่างเป็นทางการ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |