พรรคซีพีพีของ "ฮุน เซน" กินรวบเก้าอี้ ส.ส.เกลี้ยงสภา 125 ที่นั่งไม่เผื่อแผ่ใคร จากการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ไม่มีพรรคฝ่ายค้านเพราะโดนยุบ อดีตสมาชิกพรรคซีเอ็นอาร์พีชี้เป็นมรณกรรมของประชาธิปไตยในกัมพูชา ทำเนียบขาวโวยเลือกตั้งทั้งไม่เสรีและไม่ยุติธรรมเตรียมพิจารณาแซงก์ชันเพิ่ม
     คณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชายังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ในวันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม 2561 สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานอ้างคำกล่าวของสก อีสาน โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่ครองอำนาจมานาน 33 ปี ว่า ซีพีพีได้คะแนนสนับสนุนถึง 77.5% และชนะที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกที่นั่งของสภาซึ่งมี 125 ที่นั่ง โดยไม่เหลือที่นั่งให้พรรคอื่นเลย
     การเลือกตั้งครั้งนี้นอกจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักที่ต่อสู้กับซีพีพีในการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อนและการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปีที่แล้วได้อย่างสูสี ก่อนจะถูกศาลตัดสินยุบพรรคเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 พรรคคู่แข่งที่เหลืออีก 19 พรรคถูกมองว่าเป็นเพียงไม้ประดับที่ไม่เป็นที่รู้จัก และเป็นแค่ตรายางเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ซีพีพีในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
     โฆษกซีพีพีผู้นี้เคยประกาศไว้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ โดยอ้างผลคะแนนเบื้องต้นว่าซีพีพีจะชนะอย่างถล่มทลาย คาดกันว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาจะประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม
     การเลือกตั้งของกัมพูชาครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 นับแต่ปี 2536 ที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้อุปถัมภ์ ซึ่งซีพีพีชนะมาทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้นักวิจารณ์โจมตีกันมากว่าเป็นการก้าวถอยหลังสำหรับประชาธิปไตยในประเทศนี้ ภายหลังพรรคฝ่ายค้านหลักโดนยุบด้วยข้อกล่าวหาว่าขายชาติ แกม สุขะ ผู้นำพรรคสมคบกับสหรัฐวางแผนโค่นล้มรัฐบาลฮุน เซน นอกจากนั้นรัฐบาลยังปราบปรามฝ่ายต่อต้าน สื่ออิสระ และภาคประชาสังคมที่วิจารณ์รัฐ 
     สม รังสี อดีตประธานพรรคซีเอ็นอาร์พีที่ลี้ภัยไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศส ประณามผลการเลือกตั้งที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นชัยชนะ "กลวง" ของฮุน เซน ประชาชนกัมพูชาไม่มีตัวเลือกที่แท้จริงเพราะไม่มีพรรคซีเอ็นอาร์พี ผลของการเลือกตั้งปลอมๆ นี้เกิดขึ้นในบรรยากาศของความหวาดกลัวที่เป็นการทรยศต่อเจตจำนงของประชาชน
     ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกาวิจารณ์เช่นกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีข้อบกพร่องเพราะไม่มีพรรคฝ่ายค้านหลักลงสมัคร และเป็นความเสื่อมถอยอีกครั้งของระบอบประชาธิปไตยในกัมพูชา 
     ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในแถลงการณ์ด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ "ไม่มีทั้งความเสรีและความยุติธรรม ทั้งยังไม่สะท้อนถึงเจตจำนงของประชาชนชาวกัมพูชา" สหรัฐอเมริกาจะพิจารณามาตรการเพิ่มเติมตอบโต้การเลือกตั้งครั้งนี้ และการเสื่อมถอยของประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ซึ่งรวมถึงการขยายการจำกัดวีซ่าที่เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 6  ธันวาคม 2560
     ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ใช้มาตรการจำกัดการออกวีซ่าแก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของฮุน เซน ตอบโต้การปราบปรามฝ่ายที่วิจารณ์รัฐ และใช้มาตรการแซงก์ชันเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งที่ใกล้ชิดกับฮุน เซน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหภาพยุโรปก็เคยขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อกัมพูชาด้วย
     พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวกับรอยเตอร์ตอบโต้แถลงการณ์ของทำเนียบขาวว่า เป็นความพยายามข่มขู่กัมพูชา เป็นการต่อต้านประชาชนกัมพูชาที่มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเพื่อตัดสินชะตากรรมของพวกเขาเอง
     ในทางตรงกันข้าม จีนซึ่งเป็นพันธมิตรชาติสำคัญของกัมพูชาที่ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและเงินสดสนับสนุนรัฐบาลฮุน เซน โดยไม่เคยตั้งคำถามด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ได้ "แสดงความยินดีอย่างจริงใจ" ต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ ตามรายงานของเอเอฟพีที่อ้างคำแถลงของเกิ้งซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
     อดีตสมาชิกพรรคซีเอ็นอาร์พีพากันดาหน้าออกมาประณามการเลือกตั้ง มโนวิทยา แกม รองผู้อำนวยการพรรคด้านการต่างประเทศ เปิดแถลงข่าวที่กรุงจาการ์ตาเมื่อวันจันทร์ว่า พรรคยินดีกับแถลงการณ์ของสหรัฐอเมริกา และหวังว่าประเทศอื่นๆ จะปฏิบัติตาม ขณะที่มู สุขัว รองประธานพรรค เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศปฏิเสธผลการเลือกตั้งด้วย "วันที่ 29 กรกฎาคม 2561 เป็นวันมรณะของประชาธิปไตยในกัมพูชา" 
     แม้ซีเอ็นอาร์พีจะรณรงค์ให้ชาวกัมพูชาคว่ำบาตรการเลือกตั้ง แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์มากกว่า 82% จากรายงานประชาชนที่ขึ้นทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งซึ่งกฎหมายไม่ได้บังคับ การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้วในปี 2556 มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ 69.61% ซึ่งครั้งนั้นพรรคซีเอ็นอาร์พีได้คะแนนสนับสนุนถึง 44% ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปีที่แล้วมีผู้ใช้สิทธิ์ 90% โดยซีเอ็นอาร์พีได้คะแนนใกล้เคียงกับการเลือกตั้งระดับประเทศ ก่อนที่พรรคจะโดนศาลสั่งยุบตอนปลายปี.