กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

อนุโมทนาบุญกับพล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ สีลาเขตต์ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล(ผบก.ทพ.) , พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รองผู้บังคับการนครบาล 9 (รอง ผบก.น.9) , พ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย นว.(สบ4) ตร. , พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง , พ.ต.อ.สุรินทร์ ชุมวรฐายี ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.8 , พ.ต.อ.ประสาร หารโกธา ผกก.สภ.กะรน จ.ภูเก็ต และข้าราชการตำรวจ รวม 67 นาย ที่เข้าร่วมโครงการ “อุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจเฉลิมพระเกียรติเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9“ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร  ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2561 ๐

                น่าจะเป็นอีกหนึ่งคดีสำคัญในการพิสูจน์ "ฝีมือ" นักสืบของ บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) ก่อนเข้าสู่ช่วงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ "นายพล" วาระประจำปี 2561 ที่ปีนี้ "บิ๊กอู๊ด" มีลุ้นเต็มตัวจะติดยศ พล.ต.ท. นั่งเก้าอี้ "ผู้บัญชาการ" หรือ "ผบช." แต่จะเหมาะกับเก้าอี้ "ผบช." ตัวไหน อาจมีปัจจัยสนับสนุนจากผลงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนวนคดีอาญาที่ 418/2559 ของสน.ดินแดง ที่มีคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธมีดและกำลังทำร้ายนายธนิต ทัฬหสุนทร จนถึงแก่ความตาย ต่อมาได้สรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้อง นายณัฐพงษ์ หรือ โจ้ เงินคีรี และ นายอาร์รีชัย หรือ เบ๊นซ์ บุดดาวงศ์ ผู้ต้องหาทั้งสองในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่งพนักงานอัยการและพนักงานอัยการได้ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาลอาญา ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2561 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิด และญาติของผู้ตายได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่าคดีดังกล่าวนั้นไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนของสน.ดินแดง ที่ บิ๊กหยม-พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. มอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพราะไม่ว่าผลการตรวจสอบจะออกมาอย่างไร แต่ถ้าตอบคำถาม ตอบข้อสงสัยของสังคมได้กระจ่างทุกประเด็น ไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลง ก็จะถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ "บิ๊กอู๊ด" ๐ 

                กลุ่มนี้คงไม่ต้องลุ้นติดยศ "พล.ต.ท." แค่ลุ้นจะได้นั่งเก้าอี้ "ผบช."ที่ไหนมากกว่า สำหรับ 7-8 ลำดับแรกในบัญชีอาวุโสระดับ รองผู้บัญชาการ(รองผบช.) ประกอบด้วย พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.สุรพล อยู่นุช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.อัตชัย ดวงอัมพร รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด  และพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพราะทั้งหมดอยู่ในข่าย 33% ตามกฎ ก.ตร. ที่ต้องขยับสูงขึ้น โดยปีนี้เก้าอี้ "ผบช." ว่างจากขยับขึ้น ผู้ช่วยผบ.ตร. 9 ราย และว่างจาก "ผบช." เกษียณอายุราชการ 14 ราย ทำให้ยอดรวม "ผบช."ว่างทั้งสิ้น 23 ตำแหน่ง ตัดกลุ่มอาวุโสออกไปก็เหลืออีก 15 เก้าอี้ ให้ "นักวิ่ง" กลุ่มที่มีผลงาน ความรู้ ความสามารถ  ได้ลุ้น ได้สู้  อย่างไรก็ต้องไม่ลืม 15 เก้าอี้ ถูกตีตราจองไปแล้ว 1 ของผู้ที่อยู่ลำดับ 124 บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) นอกนั้นรับประกัน ไฟแลบ!!! ๐ 

                แม้ เดอะแจ๊ค-พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกปฎิเสธเรื่องที่มีข่าวตำรวจโรงพักเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไม่รับแจ้งความกรณีหญิงสัญชาติรัสเซียมีน้ำใจให้ชายไทยดื่มน้ำ แต่กลับถูกลักเอาโทรศัพท์มือถือแล้วหลบหนีไป ยืนยันพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองพัทยา ได้ลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายแล้ว แต่ก็ยอมรับในประเด็นที่ถูกกล่าวหาพนักงานสอบสวนไม่ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุในทันที เป็นเรื่องจริง ซึ่งถือเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ และทางผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาโทษทัณฑ์แล้ว รวมทั้งกำชับทุกฝ่ายให้เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไปแล้ว พร้อมกับย้ำ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเรื่องในลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด ตั้งแต่การรับแจ้งเหตุ เมื่อได้รับแจ้งต้องรีบเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อรักษาสถานที่เกิดเหตุ หรือระงับเหตุโดยเร็ว และเมื่อรับแจ้งความร้องทุกข์ก็ต้องรีบสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย... เมื่อกำชับกำชากันมาตลอดดังอ้างแล้ว เกิดความบกพร่องแบบนี้ ระดับหัวหน้าโรงพัก ระดับหัวหน้ากองบังคับการ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ ฝาก "เดอะแจ๊ค" นำเรียนท่านผบ.ตร.ที ๐

                เป็นอันว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม งดเปิดบ้านรับประทานอาหารเช้ากับ ผบ.เหล่าทัพ" ประจำสัปดาห์  หลังจากกลับจากการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุบลราชธานี เจอกับอาการอาหารเป็นพิษ  ทำให้การหารือกับ รมว.กลาโหม อาจต้องเลื่อนออกไป  คาดว่าวันที่ 3 ก.ค.นี้คงได้ "โผแรก" ที่เขย่าแค่ในส่วนของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ  หลังจากนั้นจึงส่งถึงมือ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ถ้าหากไม่มีอะไรน่าเกลียดเกินงาม  เชื่อว่า "บิ๊กตู่" ต้องปล่อยผ่าน เพราะในปีนี้ ผบ.เหล่าทัพ และ แม่ทัพภาค  จะต้อง "เป๊ะ" และ ผ่านการเห็นชอบมาตามลำดับชั้น ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ๐

                ว่าด้วยเรื่องการขยับปรับทัพ ในส่วนของกองทัพภาค ไล่ตั้งแต่กองทัพภาคที่ 1 ชื่อของ "บิ๊กบี้" พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รองแม่ทัพภาคที่ 1 คงได้ขยับขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 ตามคาด ส่วนกองทัพภาคที่ 2 คาดว่า "บิ๊กแบล็ค" พล.ท. ธรากร ธรรมวินทร  น่าจะเก้าอี้ติดกาว ได้นั่งต่ออีก 6 เดือน ขณะที่ กองทัพภาคที่ 3 พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3  เตรียมทหารรุ่น 20 ( ตท.20)ที่นั่งในแผงแถลงข่าว "ถ้าหลวง" น่าจะได้ขยับขึ้นมา เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่ แทน "บิ๊กตี๋" พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ  ที่เข้าไปนั่งอยู่ใน 5 เสือ ทบ.  ส่วนแม่ทัพภาคที่ 4 ยังเป็นชื่อของ "บิ๊กเดฟ" พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์  รองแม่ทัพภาคที่ 4 ( ตท.20) และยังมีชื่อของ "บิ๊กตั้ง" พล.ต.สมพล ปานกุล รองแม่ทัพน้อยที่ 4 ขึ้นเป็น แม่ทัพน้อยที่ 4   แต่การโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ ไม่ได้ปิดซองแค่การหารือจบแล้วลงตัว อาจต้องดูกันถึงรากถึงแก่นมากกว่าเมื่อก่อน  สรุปสุดท้ายจะเป็นไปอย่างที่คาดเดาหรือไม่ต้องรอชม ๐

                 ในช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายประจำปีของ ผู้บังคับหน่วยกองทัพบก ตั้งแต่ระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไปตาม นโยบายของ "บิ๊กเจี้ยบ" พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ( ผบ.ทบ) ตามนโยบาย " Smartman-Smartsoldier" ปีนี้หลายคนอยากเห็น "หมอภาคย์"  พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน  ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 " ฟิต แอนด์ เฟิร์ม  เพราะทุกปี "หมอภาคย์" ทำคะแนนได้ 100 หรือ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์  ปีนี้เลยถูกจับจ้องกับฉายา "หมอที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" จะรักษาสถิติตัวเองได้หรือไม่ แต่คาดว่าผลทดสอบคงไม่หล่นลงจากเดิม  แต่ที่แน่ๆ สปอร์ตไลท์คงจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวของหมอผู้นี้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน  ที่ครั้งนี้ย้ายการทดสอบจาก สนามกีฬากองทัพบก วิภาวดีรังสิต มาที่ สนามกีฬาแห่งใหม่ภายใน โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ๐

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"