28 ก.ค. 61 - เพจเฟซบุ๊ก  Army times Thailand เผยแพร่รายงานพิเศษ ระบุว่า "ทราบไหมครับ ทำไมไทยจึงไม่ส่งทหารไปช่วยลาวทันทีที่เกิดเหตุ ทำไมต้องรอเขาร้องขอกำลัง ทำไม ทำได้แค่ส่งสิ่งของช่วยเหลือไปก่อน ทำไมนักข่าว จะต้องขออนุญาต เข้าไปทำข่าว

มาครับๆๆๆ มา ... ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง

แบบนี้นะครับ เมื่อเกิดภาวะวิกฤติ ภัยพิบัติในประเทศเพื่อนบ้าน จนส่งผลถึงความเสียหาย ขั้นสูงสุดในประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค หรือแม้แต่ในแถบอาเซียน เช่นแผ่นดินไหวอย่างหนัก เสียหายทั้งเมือง อย่างเนปาล หรือ น้ำท่วมหนัก จนอย่างลาว แล้วจู่ๆ 
พี่ทหารไทย จะพรวดพราด ยก ฮ ยก C 130 ขนพี่ทหารล่ำบึกเข้าไปช่วยเขาประเทศเขาทันใด ไม่ได้ นะพี่ครับ

พี่ไทย และพี่ๆจากมิตรประเทศ ทั้งหลายต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและ การบรรเทาภัยพิบัติหรือ Humanitarian Assistance / Disaster Relief) หรือ (HA/DR) ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบของอาเซียน และความร่วมมือระหว่างประเทศ

ทำไหมน่ะเหรอครับ

ก็เพราะว่า การเคลื่อนย้ายกำลังทหารพร้อมยุทธโธปกรณ์ ใดๆ ออกนอก ต้องได้รับการอนุมัติ จากกองทัพ และ กระทรวงกลาโหม และรัฐบาล ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี

และจะไปได้ก็ต่อเมื่อทางประเทศผู้ประสบภัยพิบัติ ร้องขอกำลังสนับสนุน ว่า ทางประเทศเขาไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ และต้องการกำลังทหารที่มีความสามารถ และ ความถนัดในด้านนั้นๆ มาช่วย ซึ่งหมายความว่า จู่ พี่ไทย จะส่งซีลไทย ส่งรบพิเศษ ไทยเข้าไปไม่ได้ครับ ต้องส่งไปเฉพาะที่เขาร้องขอมา หรือ พุดง่ายๆ คือ เขาขอให้ช่วยมานั่นแหล่ะครับ

ทีนี้เขาจะขอมาทางไหน เขาก็จะขอผ่านมายังกระทรวงการต่างประเทศของประเทศผู้ประสบภัย ผ่านทางสถานทูตไทย เพื่อประสานกระทรวงการต่างประเทศ ว่าเขาต้องการอะไร ซึ่งการร้องขอความช่วยเหลือ จะมีระดับของเขานะครับ ไม่ใช่อะไรก็พี่ทหารนะครับ

ระดับแรกเลยครับ ข้าวสารอาหารแห้ง ถัดมาก็ยารักษาโรค ถัดมาก็แพทย์สนาม แล้วค่อยมาเป็นกำลังทหาร ครับ ทีนี้ มาถึงขั้นตอนอันแสนสนุกครับ นั่นคือ ขั้นตอนการส่ง กำลังไปนี่แหล่ะครับ เช่นทางเขาบอกว่า เขาอยากได้แพทย์สนาม หรือแพทย์ทหาร พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทางเราก็จะจัดส่งกำลังและยุทธโธปกรณ์ ครับ แต่ มันอยู่ตรงนี้ครับ พอเราขนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และ เครื่องมือแพทย์ และแพทย์เข้าไป เราต้องส่งรายชื่อ และลิสรายการทุกอย่าง ของทางการแพทย์ ส่งไปให้เขาด้วยนะครับว่ามีอะไรบ้าง แล้วพอเราบินถึงสนามบินบ้านเขาปุ๊บ ก็จะมีการด่านศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง มาตรวจอุปกรณ์ ทั้งหมด ครับ ว่า มีรายการตามที่แจ้งไหม แล้วเราก็ต้องคือการประกาศ..แจ้ง ... หรือ...(สำแดง) ต่อเจ้าหน้าที่สนามบินหรือ ด่านศุลกากรว่าเรามีสิ่งของที่นำมาจากประเทศไทยนั้นมีสิ่งต้องห้ามมั้ย และอุปกรณ์ทุกชนิดนะครับ ว่า ราคาเท่าไหร่ มีอะไร เพราะบางประเทศเขาเข้มงวดกับเรื่องพวกนี้ครับ ซึ่งขั้นตอนนี้ถ้ามีการประสานงานกันล่วงหน้า ก็จะมีขั้นตอนพิเศษ ว่า อุปกรณ์ทางการแพทย์อะไรที่ต้องใช้เร่งด่วนและจะให้ผ่านเข้าไปก่อน เพื่อปฎิบัติกภารกิจ ครับ

จากนั้นพอผ่านการตรวจแล้ว ไม่ว่าจะสุ่มสี่สุ่มห้า สุ่มหก ลุยดุ่ย แบบ เฮ้ พวก เราไป ช่วยชาวบ้านนะครับ บอส ไม่ได้นะ พี่ทหาร และเจ้าหน้าทุกคนต้องไปรายงานตัวกับ กองอำนวยการร่วม ที่เขาจัดขึ้นามา เพื่อบริหารสถานการณ์ นั้นๆ ก่อนนะครับเพื่อลงทะเบียน และรอให้ ผู้บริหารสถานการณ์นั้นๆ สั่งว่า ทีมไทยแลนด์ จะทำอะไร ถ้าเขาไม่สั่งให้ทำ ก็ไปทำไม่ได้นะครับ

และพี่ต้องรับผิดชอบตัวเองนะครับ เช่น ที่พัก อาหารการกิน เขาจะกำหนดให้พี่ว่า พี่ตั้งเต้นท์ตรงนี้นะ พัพในสนามตรงนี้ แล้วถ้าพี่จะเปิดโรงแรม นอน จ่ายเองนะครัช

นักข่าวพี่ไทย ก็เช่นเดียวกันนะครับ จะไปสุ่มหก สุ่มเจ็ด ไปดุ่ยๆ เฮ้ เรามาช่วยนะ ไม่ได้นะพี่นะ ต้องไปลงทะเบียน และพี่จะไปจุดไหน จะมีพี่ทหารจากประเทศนั้นหรือเจ้าหน้าที่ประสบภัย พาไป เท่านั้น และต้องรายงานแต่เฉพาะที่เขาพาพี่นักข่าวไปนะครับ แต่ถ้าทางการของประเทศผู้ประสบภัย ไม่อนุญาต ก็ว่าเขาไม่ได้นะครับ เพราะประเทศของเขา ครับ เราต้องเคารพครับ

มีคำถามว่า แล้วพลเรือนล่ะ พลเรือน จะเข้าไป ก็ต้องรายงานตัวกับทางศุนย์ควบคุมสถานการณ์ที่เขากำหนดนะคะรับ เพราะเกิดพี่ไปตายที่โน่น จะได้ส่งพี่กลับ แผ่นดินมาตุภูมิถูกครับ

เพราะแม้แต่ เครื่องบินกองทัพอากาศที่จะขนส่งของพระราชทานไป ยังต้องขอประสานเปิดน่านฟ้า ให้กับเครื่องบินเลยครับ เพราะมันอยู่ในแผนการฝึกที่เคยทำมาครับ

ทั้งหมดนี้คือ แบบแผนของการ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและ การบรรเทาภัยพิบัติหรือ Humanitarian Assistance / Disaster Relief) หรือ (HA/DR) ซึ่งมีกฎหมายรองรับทุกขั้นตอน ที่ทุกประเทศในแถบเอเชีย หรือเอเชียแปฟิฟืค ฝึกฝนกันมานานนับสิบๆๆปี ขั้นตอนทุกอย่าง ต้องเป็นตามแผน และระดับขั้น ต่างๆ ที่มีการฝึกเอาไว้ ทั้งการฝึกร่วม ต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ จะมาฝึกในประเทศไทย ซึ่งการฝึกลักษณะนีมีฝึกกันทุกปี ทั้งของกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพ และมีหน่วยบรรเทาสาธารณภัย มาร่วมกันฝึกฝน เพื่อให้เกิด การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะตามมาด้วยการเยียวยา และบรรเทาให้ดีขึ้น ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟู

ถ้าอยากเห็นภาพชัดเจนเหรอครับ เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ หมู่ป่า นั่นคือ การนำแผน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและ การบรรเทาภัยพิบัติหรือ Humanitarian Assistance / Disaster Relief) หรือ (HA/DR) มาใช้ได้อย่างถูกต้องที่สุดครับ และแกะแผนออกมาใช้ได้อย่างชัดเจนที่สุด

ถามว่าทำไมทำไมทหารไม่ออกมาคุมสถานการณ์ ก็เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้นถูกกำหนดให้เป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตามพรบ.บรรเทาสาธารณะภัยปี 50-59และเป็นไปตสมลำดับขั้นของสถานการณ์ ที่ถูกกำหนดไว้ตามแบบแผนการฝึกและตามพรบ.ครับ ซึ่งเหตุการณ์ก็ถูกแบ่งออกเป็นตามลำดับความรุนแรงเดือดร้อน และจะให้อำนาจ ตามลำดับไป ตั้งแต่ผู้นำท้องถิ่น ถึงนยกรัฐตรี

และเหตุการณ์หมูป่า ผู้ว่าฯ เองก็มีภาวะผู้นำสูงครับ เลยทำให้ ท่านควบคุมสถานการณ์​และตัดสินใจได้ แต่ถ้าเมื่อใด สถานการณ์ใด ผู้นำท้องถิ่นนั้นๆ ไม่สามารถบริหารแผนสถานการณ์ได้ สถานการณ์จะถูกส่งต่อให้ทหารรับช่วงต่อทันทีครับ นั่นหมายความว่า สถานการณ์หนักเข้าสู่ขั้นที่ต้อง ให้ทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ครับ

นี่จึงเป็นการตอบคำถามว่า ทำไมทหารไม่ทำเอง และทำไมนายก ลุงตู่ มาแค่ให้กำลังใจ แล้วสร้างเสียงหัวเราะครื้นเครง ก็เพราะ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ เขาเอาอยู่ และมีทีมเวริ์คที่ดี จากเหล่าพี่ๆทหาร นี่แหล่ะครับ ที่ช่วยกันวางแผน ทุกขั้นตอน จู่ๆพี่ตู่จะพุ่งไปแบบเฮ้ย มานี่ๆ มาฟังผมสั่ง แบบนี้ไม่ได้ครับ ทกอย่าง มันตัองมีกฎหมายรองรับครับพี่ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก อันดับสองคือกฎหมายรองรับ

ทีนี้พอเข้าใจกันบ้างยังครับ ฝึกเพื่อนำมาใช้ ใช้แล้วนำมาฝึก เพี่อนำไปใช้ให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากมากเท่าไหร่ นั้นคือ ความสำเร็จของแผน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและ การบรรเทาภัยพิบัติหรือ Humanitarian Assistance / Disaster Relief) หรือ (HA/DR)

ฉะนั้นประเทศไทย จึงทำได้เพียงแต่ คอยครับ คอยรัฐบาลลาว ขอให้ช่วย แล้วเราจะไปในทันทีครับ เพราะเราได้แสดงพลังออกมาแล้วว่า เรามีอะไร และเราพร้อมไป ครับ"