แม่ทัพ4ฟุ้งไร้‘พูโล-BRN’  มีแค่กลุ่มอิทธิพลคิดร้าย! 


เพิ่มเพื่อน    

แม่ทัพภาค 4 ยันกับสื่อไทย-มาเลเซีย    สถานการณ์ใต้ดีขึ้น ไม่มีกลุ่มพูโลและ BRN แล้ว มีแต่ผู้มีอิทธิพลและผู้ที่คิดร้ายกับประเทศชาติ เอาชื่อกลุ่มก่อความไม่สงบมาหาประโยชน์ แสวงอิทธิพล เผยผ่านคำว่า เข้าใจ เข้าถึง ไปแล้ว อยู่ระหว่างพัฒนา
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ม.ค.61 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้นำสื่อมวลชนมาเลเซียจากสมาคมสื่อมวลชนรัฐเกดะห์ ที่นำโดยนายมูหะมัดราฟิ ราฟีอี นายกสมาคมฯ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าพบกับ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ณ ห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินทร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อรับทราบสถานการณ์และการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสื่อมวลชนประเทศมาเลเซียได้ให้ความสนใจซักถาม
     โดย พล.ท.ปิยวัฒน์พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายประชาสัมพันธ์และการข่าว ได้ตอบข้อซักถามที่สำคัญๆเช่น การแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ ให้ความร่วมมือกับ กอ.รมน.ในการแก้ปัญหา ทำให้เหตุร้ายลดลงถึงร้อยละ 45 และประชาชนเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาของ กอ.รมน.ถึงร้อยละ 95 
    "วันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องอดีตของพูโลและบีอาร์เอ็น แต่เราจะพูดและทำเรื่องปัจจุบันและอนาคต ซึ่งขอยืนยันว่าพูโลและบีอาร์เอ็นไม่มีแล้ว มีแต่ผู้มีอิทธิพลและผู้ที่คิดร้ายกับประเทศชาติ นำเอาเรื่องของบีอาร์เอ็นและพูโลมาสร้างขึ้น เพื่อที่จะได้ใช้ในการสร้างอิทธิพล แสวงหาผลประโยชน์"
    เขากล่าวว่า วันนี้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจและร่วมมือกับ กอ.รมน.ในการสร้างเศรษฐกิจ จนมีความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ มีการลงทุน เช่น โชว์รูม ปั๊มน้ำมัน สวนกาแฟ และอื่นๆ ที่ อ.เบตง มีการสนับสนุนให้เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา และอื่นๆ วันนี้เราให้เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน  เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในพื้นที่ จากการทำสวนยางอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องให้เขาทำสิ่งอื่นด้วย เช่นการปลูกกาแฟ ปลูกทุเรียน มะพร้าว เป็นต้น เพราะราคายางมีแต่ทรงกับทรุด เราต้องสร้างอาชีพใหม่ สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ เพื่อที่เขาจะไม่ตกเป็นเหยื่อของ กลุ่มอิทธิพลในการก่อการร้าย
    เรื่องการพูดคุยกับมาราปาตานีนั้น พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในส่วนกลาง ซึ่งตนไม่ขอตอบ แต่สิ่งที่ตนทำในพื้นที่เป็นสิ่งที่ประจักษ์นั้นคือ เศรษฐกิจดีขึ้น การลงทุนมากขึ้น ประชาชนให้เบาะแสคนร้ายจนเจ้าหน้าที่สามารถจับได้จำนวนมาก และเหตุที่ลดลงร้อยละ 45 คือคำตอบของความสำเร็จ วันนี้เราผ่านคำว่าเข้าใจและเข้าถึง ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น และอยู่ในช่วงของการพัฒนาร่วมกัน ระหว่าง กอ.รมน. และคนในพื้นที่
    สำหรับเรื่องของผู้นำศาสนาที่สื่อมาเลเซียให้ความสนใจนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า การแก้ปัญหาที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ เนื่องจากผู้นำศาสนาส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่ยังพยายามทำให้เกิดปัญหาขึ้น
     ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายไชยยงค์และนายมูหะมัดราฟิ ราฟีอี นายกสมาคมสื่อมวลชนรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย พร้อมกับกรรมการสมาคมฯ 15 คน  เข้าพบนายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวมาเลเซียสงสัยเกี่ยวกับการเข้ามาเที่ยวใน จ.สงขลา ผ่านด่านสะเดาเกี่ยวกับทัวร์สองเหรียญ มีเงิน 1,000 เหรียญฯ ห้ามเข้าประเทศไทย และความคืบหน้าเรื่องการเปิดด่าน 24 ชม.และเขตเศรษฐกิจพิเศษ
     นายดลเดชกล่าวว่า เรื่องทัวร์สองเหรียญ ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าใจผิดอยู่ว่าหากต้องการผ่านด่านสะเดารวดเร็วต้องจ่ายเงินให้กับ ตม.คนละ 2 เหรียญมาเลเซีย ตนลงตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่ไม่มีพฤติกรรมเรียกเก็บเงิน ที่ล่าช้าเพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่มีจำกัด นักท่องเที่ยวต้องยืนรอนานในบางครั้งจริง ต่อไปเหตุการณ์คลี่คลายลงแล้ว เมื่อมีการขยายด่านใหม่ เพิ่มเจ้าหน้าที่จะรอเวลาลงได้มาก
     เขากล่าวว่า เรื่องห้ามนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้า จ.สงขลา หากไม่มีเงิน 1,000 ริงกิตมาเลเซีย ก็ไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นข่าวที่ปล่อยในหมู่ไกด์มาเลเซียมากกว่า ส่วนการเปิดด่าน 24 ชม.นั้น ขณะนี้ระดับรัฐบาลได้มีการประสานกันอยู่ วิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย  คิดว่าในอนาคตอันใกล้น่าจะเป็นจริงมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ 24 ชม. แต่จะมากกว่าที่ด่านเปิดอยู่ในปัจจุบัน
     นายดลเดชกล่าวว่า เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนกำลังคืบหน้าไปมากแล้ว ได้มีการประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 4 ตำบล มีการเวียนคืนพื้นที่จบไปแล้ว รัฐบาลให้การนิคมแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพหลัก ซึ่งมีนักลงทุนไทยและต่างชาติอย่างน้อย 4-5 ราย สนใจเข้าไปข้อรายละเอียด คิดว่าในปี 61 ทุกอย่างที่ด่านสะเดาคืบหน้า ทั้งสถานีขนส่ง การก่อสร้างด่านใหญ่ การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ
     รายงานข่าวว่า คณะสมาคมสื่อสารมวลชนรัฐเกดะห์เข้าพบนายมูฮัมหมัด อัพฟานดี อาบู บาการ์ กงสุลมาเลเซีย, นายไอรี คูนิอวัน มูริดจัล รองกงสุลมาเลเซีย ประจำ จ.สงขลา ทางกงสุลกล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นคือการที่ผู้ชายมาเลเซียเข้ามาใช้พื้นที่ จ.สงขลา จัดงานแต่งงานตามประเพณีของศาสนาอิสลามเพิ่มขึ้น ซึ่งมีตัวเลขประมาณ 4,000 คน ทั้งแต่งกับคนมาเลเซียด้วยกันหรือแต่งกับคนชาติอาเซียน ขณะนี้ทางกงสุลมาเลเซียกำลังแก้ปัญหาอยู่.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"