"พรีม่าโกลด์” ชี้ตลาดเครื่องประดับยังอัดสงครามราคาเดือด เผยขอต่างชูความเป็นสินค้าของคนรุ่นใหม่ ซื้อไลเซ่นส์สนูปปี้เสริมพอร์ต เน้นราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น ดึงกำลังซื้อควบขยายฐานกลุ่มมิลเลนเนียม ดันยอดโต 20%
นางชลวิชา ฤกษ์วิทูรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ “พรีม่าโกลด์” และ “พรีม่าไดมอนด์” เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันในกลุ่มธุรกิจเครื่องประดับ ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของตลาดเพชรจะเน้นเรื่องของสงครามราคาเป็นหลัก แต่ในส่วนของบริษัทคงไม่ได้ให้ความสำคัญกับโปรโมชั่นมากนัก จะชูจุดขายเรื่องของคุณภาพของสินค้าและความเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาลูกค้าของพรีม่าโกลด์ส่วนมากจะอายุประมาณ 40-45 ปี ซึ่งชื่นชอบการใส่ทองกันอยู่แล้ว ขณะเดียวกันพบว่าในยุคปัจจุบันคนรุ่นใหม่หรือวัยเริ่มทำงาน ก็ต้องการมอบรางวัลชีวิตให้กับตัวเอง โดยหนึ่งในนั้นจะเป็นเครื่องประดับเพชรหรือทองคำ แต่ต้องมีการดีไซน์และราคาจับต้องได้ เห็นได้จากการเปิดตัวคอลเลคชั่นคิตตี้ช่วง 6 ปีที่แล้ว มีผลตอบรับดีเป็นอย่างมาก ส่งผลให้สัดส่วนลูกค้าใหม่เพิ่มเป็น 60% โดยมากกว่า 80% เป็นมิลเลนเนียม ที่เหลืออีก 40% เป็นลูกค้าเก่าที่คงความลอยัลตี้ไว้สูงมาก
ล่าสุดบริษัทได้ซื้อไลเซ่นส์คาแรคเตอร์สนูปปี้ เพื่อนำมาผลิตเป็นคอลเลคชั่นใหม่หกับแบรนด์พรีม่าโกลด์ 300 ชิ้น และพรีม่าไดมอนด์ 160 ชิ้น ซึ่งวางจำหน่ายไปเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา มีผลตอบรับดีจนต้องผลิตซ้ำอีกรอบ เนื่องจากบริษัทตั้งราคาเริ่มต้น 8,800 บาท มีความสมเหตุสมผลและจับต้องได้ โดยสนูปปี้ยังเป็นตัวการ์ตูนที่ผู้บริโภคหลายคนต้องการสะสมอีกด้วย
“ผู้ประกอบการทุกคนหันมาจับวัยรุ่นกันหมด เพราะตอนนี้กลุ่มคนอายุระหว่าง 25-35 ปีนิยมการใส่เพชร เราจึงต้องทำสินค้าให้มีขนาดเล็กลง ระดับราคาจับต้องได้ จากเมื่อก่อนจะต้องระดับหมื่นบาทขึ้นไป และการออกแบบต้องดูทันสมัยตอบโจทย์ ปีแรกของการเปิดตัวคอลเลคชั่นคิตตี้ มียอดขายโตขึ้น 20% คาดว่าหลังจากนำสนูปปี้เข้ามาเพิ่มจะทำให้สินค้าที่เป็นไลเซ่นส์เติบโต 20% ” นางชลวิชา กล่าว
พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการขาย และตอบรับกับยุคของโลกดิจิทัลมากขึ้น บริษัทยังเตรียมเปิดการขายเพชรผ่านช่องทางออนไลน์เป็นครั้งแรก ผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์ของตัวเอง และมาร์เก็ตเพลส อาทิ lazada , shopee และ JD.com ตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย 10% ที่เหลือยังคงมาจากเคาน์เตอร์ค้าปลีก 90%
นางชลวิชา ยังกล่าวว่า นอกเหนือจากตลาดคนไทยแล้ว บริษัทเองยังมียอดขายที่เติบโตมาจากต่างชาติ โดยเฉพาะในคิงเพาเวอร์ที่มีอัตราการเติบโตมากถึง 20% เนื่องจากทองคำ 24K นักท่องเที่ยวชาวจีนรู้จักกันเป็นอย่างดี บวกกับการออกแบบที่สื่อถึงความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปช้างและผีเสื้อ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวชื่นชอบค่อนข้างชื่นชอบ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |