อุปสมบททีมหมูป่าแล้ว “เมีย น.ต.สมาน-น้องอดุลย์” ร่วมงาน วัดพระธาตุดอยเวาจัดวัตรปฏิบัติให้ 12 พระ-เณรเหมือนรูปอื่นๆ วัฒนธรรมเผยตัวเลขยอดขอทำหนังล่าสุดมีรวม 12 ราย
เมื่อวันพุธที่ 25 ก.ค. คณะสงฆ์และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงรายได้จัดพิธีบรรพชาอุปสมบทให้นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายจำนวน 12 คนที่นับถือศาสนาพุทธ ณ วัดพระธาตุดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โดยในช่วงเช้า นาคทั้ง 12 คน ซึ่งได้ประกอบพิธีปลงผมที่วัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ได้เดินทางไปยังมณฑลพิธีลานพระธาตุดอยตุง ใกล้กับพระอุโบสถของวัดพระธาตุดอยตุง เพื่อเตรียมขบวนแห่ไปสู่พระธาตุดอยตุง โดยมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, พ.ท.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 หรือหมอภาคย์ นำคณะผู้อัญเชิญผ้าไตรวางผ้าไตรบนพาน ขณะที่ตาลปัตรในขบวนแห่มีการพิมพ์เป็นรูปหมูป่า และพื้นหลังเป็นเทือกเขาดอยนางนอนด้วย
จากนั้นพิธีเริ่มต้นด้วยการที่นาคทั้ง 12 คน จุดธูปเทียนบูชาพระธาตุดอยตุง นายประจญจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพและเปิดกรวยดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
และก่อนประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบท นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก นำคณะนาคอีก 11 คนตั้งแถวหน้ารูป น.ต.สมาน กุนัน ผู้เสียชีวิตจากการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี โดยจุดธูปเทียนและวางพวงมาลัยหน้ารูป น.ต.สมาน ก่อนกราบลาพ่อแม่ ญาติมิตรและผู้บริหารทีมหมูป่าฯ พร้อมทั้งคณะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย โดยมีนางวลีพร กุนัน ภรรยาของ น.ต.สมาน เดินทางไปร่วมในพิธีดังกล่าว เช่นเดียวกับ ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน หรือน้องอดุลย์ อายุ 14 ปี ที่นับถือศาสนาคริสต์ ได้เดินทางมาร่วมงาน และเข้าไปพูดคุยกับนางวลีพรด้วย
จากนั้นนาคทั้ง 12 คนเข้าประกอบพิธีในพระอุโบสถ พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าคณะ อ.แม่สาย และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ในฐานะพระอุปัชฌาย์ ได้นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีบวชเณรหรือบรรพชาให้กับนาคจำนวน 11 คน และอุปสมบทหรือบวชเป็นพระภิกษุให้นาคเอกพล เป็นอันเสร็จพิธี โดยในเวลาประมาณ 11.00 น. มีการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์และสามเณรใหม่ และจัดให้จำวัดที่พระธาตุดอยตุง 1 คืน ส่วนในวันที่ 26 ก.ค. จะเดินทางไปศึกษาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุดอยเวาตามลำดับต่อไป
ขณะที่ตลอดพิธีกรรมดังกล่าว พบว่าประชาชนทั่วไปและพุทธศาสนิกชนต่างเดินทางไปร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ขณะที่ทางสำนักพระพุทธศาสนา จ.เชียงราย ได้เปิดกองทุนหมูป่าโดยพระรัตนมุนีและนายประพันธ์ คำจ้อยขึ้น เพื่อจัดหารายได้สำหรับเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนต่อไป
สำหรับวัตรปฏิบัติของพระภิกษุและสามเณรใหม่ทั้ง 13 รูปนั้น คณะสงฆ์ได้จัดทำเป็นตารางประจำวันให้เรียบร้อยเหมือนพระสงฆ์และสามเณรทั่วไป คือตื่นเวลา 04.30 น. โดยมีเสียงสัญญาณระฆังเตือนเพื่อทำภารกิจส่วนตัว เวลา 05.00 น. ทำวัตรเช้า ไหว้พระและทำสมาธิ, เวลา 06.00 น. ออกรับบิณฑบาต, เวลา 07.00 น. กวาดลานวัด ทำความสะอาดบริเวณวัด, เวลา 08.00 น. ฉันภัตตาหารเช้า, เวลา 09.30 น. ฟังบรรยายธรรมะและเจริญสมาธิโดยคณะสงฆ์, เวลา 11.00 น. ฉันภัตตาหารเพล, เวลา 13.00 น.ฝึกนั่งสมาชิก เดินจงกรม และรับฟังบรรยายธรรมะโดยคณะสงฆ์ ช่วงเย็นเวลา 15.00 น. กวาดลานวัดและทำความสะอาดบริเวณวัด, เวลา 16.30 น. สรงน้ำทำภารกิจส่วนตัว, เวลา 17.30 น.ฉันน้ำปานะ และเวลา 18.00 น. ทำวัตรเย็น ไหว้พระ นั่งสมาธิ และรับฟังบรรยายธรรมะโดยคณะสงฆ์
วันเดียวกัน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารจากกระทรวง ลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และการฟื้นฟูถ้ำหลวงฯ พร้อมมอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพย์และเครือข่ายต่างๆ จำนวน 5 หน่วยงาน 389 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำนวน 781 คน และกรมป่าไม้ 79 คน รวมทั้งสิ้น 1,249 คน ซึ่งเป็นกำลังหลักและสนับสนุนในการค้นหาน้องๆ ทีมหมูป่าฯ ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงฯ นอกจากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ยังได้มอบเกียรติบัตรให้แก่คณะเจ้าหน้าที่และเครือข่ายต่างๆ รวมทั้งผู้พิทักษ์ป่า เพื่อเป็นการยกย่องชมเชย และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไปด้วย
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ได้มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์กรณีถ้ำหลวงฯ ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธาน มีปลัด วธ.และปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธาน มีคณะกรรมการประกอบหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะมอบหมายให้ วธ.เร่งจัดทำคำสั่งคณะกรรมการดังกล่าวเพื่อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงนามแต่งตั้งต่อไป
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศสนใจผลิตภาพยนตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยถ้ำหลวงมาแล้ว 12 โครงการ แบ่งเป็นโครงการของผู้ประกอบการไทย 4 โครงการ, โครงการร่วมทุนของผู้ประกอบการต่างประเทศและไทย 6 โครงการ และโครงการของผู้ประกอบการต่างประเทศ 2 โครงการ แสดงให้เห็นว่าเป็นเหตุการณ์หมูป่าเป็นเหตุการณ์สำคัญของโลก เนื่องจากมีเอกชน ผู้ประกอบภาพยนตร์ แสดงความจำนงต้องการผลิตภาพยนตร์พร้อมๆ กันจำนวนมาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |