17 มกราคม เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน (Rex Tillerson) รมต.กระทรวงต่างประเทศ ประกาศว่าทหารอเมริกันจะยังคงประจำการในซีเรียต่อไป ด้วยเป้าหมาย 5 ประการ ได้แก่ เพื่อประกันว่า ISIS กับอัลกออิดะห์จะไม่หวนกลับมา สนับสนุนกระบวนการเมืองตามแนวทางสหประชาชาติ ให้ซีเรียเป็นประเทศหนึ่งเดียวในที่สุด ลบล้างอิทธิพลอิหร่าน มั่นใจว่าจะไม่มีอาวุธอำนาจทำลายร้ายแรง และนำผู้อพยพหนีภัยสงครามกลางเมืองกลับประเทศ
แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านอิหร่าน ที่เป็นภัยต่อสหรัฐมากกว่า ISIS ต้านอิทธิพลอิหร่านที่กำลังเติบใหญ่ทั้งในซีเรีย อิรัก อัฟกานิสถานและปากีสถาน
ปัจจุบันมีทหารอเมริกันราว 2,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารช่างกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ฝึกและสนับสนุนการรบแก่กองกำลังฝ่ายต่อต้าน กำลังหลักเป็นชาวเคิร์ดซีเรีย
ถ้อยคำของ รมต.ทิลเลอร์สัน เป็นยุทธศาสตร์ล่าสุดต่อซีเรีย แสดงให้เห็นชัดว่าแทรกแซงกิจการภายในและละเมิดอธิปไตยอย่างรุนแรง พร้อมคำลวง ข้อคิดต่างๆ ดังนี้
เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพื่อระวังผู้ก่อการร้าย :
หนึ่งในเหตุผลที่ รมต.ทิลเลอร์สันเอ่ยถึง คือ เกรงว่าหากถอนตัวจะเปิดช่องให้ ISIS กับอัลกออิดะห์ เหตุผลนี้มีข้อสงสัยหลายประการ
ถ้ายึดตามข้อมูลรัสเซียกับอิหร่าน รัฐบาลรัสเซียกับอิหร่านประกาศว่าไม่เหลือ ISIS ในพื้นที่ซีเรียแล้ว การคาดการณ์ว่า ISIS หรืออัลกออิดะห์จะกลับมาอีกนั้นเป็นไปได้ แต่ไม่น่าจะมากจนเป็นภัย และถ้ามีจริงสามารถจัดการด้วยกองกำลังทางอากาศ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ส่งมาจากพื้นที่อื่น ไม่มีความจำเป็นถึงขั้นต้องสร้างฐานทัพ คงกองกำลังอเมริกันในซีเรีย
เหตุผลที่น่าจะถูกต้องคือ รัฐบาลสหรัฐต้องการยึดซีเรียอย่างถาวร หรืออย่างน้อยอีกหลายปี จนกว่าสามารถโค่นล้มระบอบอัสซาด เพราะเป้าหมายหลักที่รัฐบาลโอบามาวางไว้คือล้มระบอบอัสซาด การอ้างเหตุผลระวังผู้ก่อการร้ายหวนคืนน่าจะเป็นข้ออ้างให้ชาวอเมริกันรับได้
และเหตุผลอื่นๆ ที่จะนำเสนอต่อไป
เผยธาตุแท้รัฐบาลสหรัฐ :
ถ้าย้อนหลังตั้งแต่นโยบายแรกๆ ของโอบามาจนบัดนี้ เป้าหมายหลักคือล้มล้างระบอบอัสซาด เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เป็นหุ่นเชิดของรัฐบาลสหรัฐหรือเป็นมิตร แต่เมื่อกองทัพรัสเซียเข้าแทรก ทำลายล้างผู้ก่อการร้ายโดยเฉพาะ IS/ISIL/ISIS จนถูกปราบในที่สุด แผนคิดล้มล้างอัสซาดด้วยกำลังจึงยุติ เมื่อยอมรับเช่นนั้นจึงปรับแผนส่งทหารลงพื้นที่ซีเรีย ร่วมมือกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านบางกลุ่ม เช่น เคิร์ดซีเรีย พวกซุนนีทางภาคตะวันออก อ้างว่าเพื่อช่วยปราบปรามผู้ก่อการร้าย
ในที่สุดเมื่อ ISIS ไม่เป็นภัยอีกต่อไป รัฐบาลทรัมป์จึงต้องให้เหตุผลใหม่เพื่อคงกองกำลังภาคพื้นดินต่อไป พร้อมกับสร้างฐานทัพ ป้อมปราการ เหตุผลที่ให้ 5 ประการส่อว่าจะอยู่ยาวนานเท่าที่ต้องการ
แม้ให้เหตุผลว่าเพื่อระวังผู้ก่อการร้ายจะหวนกลับมาอีก แต่ความจริงคือรัฐบาลสหรัฐหวังเป็นผู้มีอำนาจควบคุมพื้นที่เหล่านี้ ยกตัวอย่าง ก่อนเริ่มยุทธการยึดคืนเมือง Raqqa มีข้อมูลว่ารัฐบาลสหรัฐได้จัดตั้ง Raqqa Civilian Council (RCC) เป็นผู้นำท้องถิ่นดูแลเมืองหลังยึดคืน น่าตีความว่าเป็นแผนให้เมืองนี้อยู่ใต้อิทธิพลของรัฐบาลสหรัฐไม่มากก็น้อย
ข้อสรุป คือ เมื่อควบคุมซีเรียไม่ได้ทั้งประเทศ จึงปรับแผนเป็นควบคุมซีเรียบางส่วนเพื่อแผนขั้นตอนไป
บัดนี้การแบ่งแยกซีเรียอย่างถาวรเห็นชัดมากขึ้น ซีเรียอาจแยกออกเป็นเขตปกครองมากกว่า 2 เขต แต่จะมีเป็น 2 ขั้วหลัก คือ ขั้วรัฐบาลอัสซาดดั้งเดิมกับขั้วใหม่ที่มีสหรัฐกับพวกเป็นแกนนำ นอกจากนี้มีขั้วที่อิงตุรกีที่มีจุดยืนของตนเอง
ซีเรียขั้วสหรัฐจะดำเนินนโยบายรวมประเทศซึ่งหมายถึงล้มระบอบอัสซาด แน่นอนว่ารัฐบาลสหรัฐจะให้พื้นที่อิทธิพลของตนเป็นระบอบประชาธิปไตย และประเทศซีเรียที่เป็นหนึ่งเดียวในอนาคตต้องเป็นประชาธิปไตยด้วย ตามแนวทางที่รัฐบาลสหรัฐใช้เรื่อยมา
ดาบ 2 คมของรัฐบาลซาอุฯ :
ถ้ามองภาพกว้าง การจัดการซีเรียคือการทำลายจันทร์เสี้ยวชีอะห์ (Shiite Crescent) ให้หักกลาง ไม่เป็นเสี้ยวจันทร์ที่สมบูรณ์ ซึ่งบัดนี้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เพราะยากที่รัฐบาลอัสซาดจะสามารถยึดคืนพื้นที่ที่สูญเสียกลับมา
ดังที่เคยนำเสนอครั้งก่อนว่าลำพังการฟื้นฟูประเทศที่หลายส่วนกลายเป็นซากปรักหักพังก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องกินเวลาอีกกี่สิบปีจึงกลับสู่ปกติ เรื่องการทำสงครามชิงพื้นที่คืนยิ่งต้องคิดหนัก เพราะในที่สุดอาจหมายถึงต้องปะทะกับกองทัพสหรัฐที่รัสเซียกับอิหร่านคงเห็นว่ายังไม่ควร
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลอัสซาดต้องทำคือยอมรับการเปลี่ยนแปลง พยายามสร้างข้อตกลงให้อยู่กับซีเรียขั้วอื่นๆ และประเทศรอบข้างอย่างสันติ
รัฐบาลซาอุฯ กับพวกยึดมั่นยุทธศาสตร์ทำลายจันทร์เสี้ยวชีอะห์มาหลายปีแล้ว ความเป็นไปของซีเรียในขณะนี้ในมุมหนึ่งถือว่าพวกตนมีชัย มีความมั่นคงมากขึ้น
ในอีกมุมคือ การคงอยู่ของกองทัพอเมริกันในซีเรียจะเป็นดาบ 2 คมหรือไม่ เพราะรัฐบาลสหรัฐมีหน่วยรบภาคพื้นดินในพื้นที่ตะวันออกกลางมากขึ้น พื้นที่ตะวันออกกลางอยู่ใต้อิทธิพลสหรัฐมากกว่าเดิม
เป้าหมายที่วางไว้ 5 ข้อ ไม่ใช่เรื่องที่จะสำเร็จได้โดยไว นั่นหมายความว่าหน่วยรบภาคพื้นดินจะอยู่ในเขตติดพรมแดนหลายประเทศในแถบนี้ รวมทั้งซาอุฯ ด้วย
รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนเคิร์ดซีเรียเหมือนเคิร์ดอิรักที่แยกตัวออกเป็นเอกเทศ ไม่เข้าพวกกับอาหรับ แม้ว่าชาวเคิร์ดเกือบทั้งหมดจะนับถืออิสลาม (ซุนนี) ไม่ว่าเคิร์ดซีเรียกับเคิร์ดอิรักจะรวมเป็นประเทศหรือไม่ เคิร์ดซีเรียกับเคิร์ดอิรักจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นพันธมิตรอีกข้างของสหรัฐที่ไม่ใช่พวกอาหรับ
คงไม่เกินไปถ้าจะกล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไปกองกำลังเคิร์ดซีเรียคือทหารรับจ้างของสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาค
แม้จันทร์เสี้ยวชีอะห์หักกลาง แต่เคิร์ดในตะวันออกกลางแข็งแกร่งขึ้น กินพื้นที่มากขึ้น และอยู่ใต้การคุ้มครองจากรัฐบาลสหรัฐดังเช่นอิสราเอล
จะเห็นว่าแม้รัฐบาลซาอุฯ จะถือว่ารัฐบาลทรัมป์จะเป็นมิตรแท้มุสลิม (รัฐบาลซาอุฯ กับพวก) ตะวันออกกลางยังอยู่ใต้การชี้นำของสหรัฐและมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ปล่อยให้อยู่ใต้อิทธิพลของรัฐบาลซาอุฯ
นี่เป็นดาบ 2 คมต่อซาอุฯ กับพวกใช่หรือไม่
ยืมมือหรือหลอกใช้ ISIS หรือไม่ :
ตุลาคม 2014 รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวถึงผู้สนับสนุน IS/ISIL/ISIS ว่า “ปัญหาใหญ่ที่สุดคือพันธมิตรของเราเอง” ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่นๆ เช่น กาตาร์ “มุ่งมั่นโค่นล้มอัสซาดและทำสงครามตัวแทนของซุนนี-ชีอะห์ ... พวกเขาให้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์และอาวุธหนักหลายพันตันแก่ใครก็ตามที่สู้กับอัสซาด” และเอ่ยกลุ่มก่อการร้าย Al-Nusra อัลกออิดะห์ และ IS
ข้อกล่าวหาทำนองนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ถูกเอ่ยถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ผ่านมาประเทศผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธมาโดยตลอดทั้งยังมีส่วนในการปราบปราม ISIS ด้วย
แต่ถ้าวิเคราะห์ภายใต้ข้อมูลนี้ มีคำถามว่า ISIS ถูกหลอกใช้หรือไม่ และถ้าคิดให้ไกลกว่านั้นประเทศผู้สนับสนุนทั้งหลายโดยเฉพาะหมู่ประเทศมุสลิมเหล่านั้นถูกรัฐบาลสหรัฐหลอกใช้หรือไม่
เป็นคำถามที่ฝากให้ใคร่ครวญ
ข้อคิดเรื่องซีเรีย :
ดังที่เคยเสนอในบทความก่อนว่า เมื่อต่างชาติส่งทหารเข้าแทรก ความเป็นไปของซีเรียก็ไม่อยู่ในมือของคนซีเรียอีกต่อไป รัฐบาลอัสซาดยังอยู่ได้เพราะรัฐบาลปูตินค้ำจุน ซีเรียแยกออกเป็นส่วนๆ เหมือนเค้กที่หลายชาติแบ่งกันกิน
ยังไม่เอ่ยถึงชาวซีเรียที่ต้องเสียชีวิตกว่า 5 แสนคน ประชาชนนับล้านต้องอพยพออกประเทศไปสู่ประเทศอื่นๆ ไกลถึงยุโรปตะวันตกโดยไม่รู้อนาคต
บัดนี้ทางเลือกมีจำกัด รัฐบาลอัสซาดต้องยอมทุกอย่างเพื่อสันติสุขจะกลับคืนมา แม้จะเป็นพื้นที่เล็กๆ ส่วนหนึ่งก็ตาม
ทั้งหมดนี้เริ่มจากความไม่พอใจรัฐบาล การปกครองที่คนบางกลุ่มได้ประโยชน์ สังคมไร้ความเท่าเทียมอย่างรุนแรง ความรู้ไม่เท่าทันของประชาชนบางกลุ่มถูกยุแหย่ให้ใช้ความรุนแรง ผนวกกับความอ่อนแอของรัฐบาลอัสซาด
ความรู้ความเข้าใจสถานการณ์โลก ความเป็นไปของโลกจึงสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอด การสร้างชาติให้เป็นอารยะ
เป้าหมายที่ รมต.ทิลเลอร์สัน พูดถึงสนับสนุนกระบวนการเมืองตามแนวทางสหประชาชาติ หมายถึงให้ซีเรียเป็นประชาธิปไตย เป็นถ้อยคำที่ฟังดูดี แต่ลำพังข้อนี้เพียงข้อเดียวจะทำให้ซีเรียวุ่นวายอ่อนแออีกนานเท่านาน อิรัก ลิเบียและอัฟกานิสถานที่อยู่ข้างๆ หรือไม่ไกลนักเป็นตัวอย่างที่ดี
ทางที่ดีที่สุดคืออย่าให้ต่างชาติส่งทหารเข้าแทรกตั้งแต่ต้น.
ภาพ : เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมต.กระทรวงต่างประเทศ
ที่มา : https://www.state.gov/secretary/photos/2018/index.htm
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |