ตำรวจยันเตรียมออกหมายเรียกอดีตผู้ใหญ่บ้านเข้ารับทราบข้อหาข่มขืนสาววัย 22 "อัจฉริยะ" รุดเยี่ยมเหยื่อที่โรงพยาบาลโดยให้น้องสาวสื่อสารภาษามือ ยันคดีกระจ่าง อดีตผู้ใหญ่บ้านก่อเหตุคนเดียว
    วันที่ 25 กรกฎาคมนี้ ที่ สภ.เมืองลำปาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อสาวชาวม้งวัย 22 ปี ที่ถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านใน จ.ตาก พร้อมพวกรุมโทรมใน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มีบุคคลนำภาพเหยื่อสาวที่นอนอยู่กับอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวโพสต์ส่งให้น้องสาวฝาแฝดของเหยื่อ และมีการส่งภาพต่อให้กับญาติและในกลุ่มไลน์ชาวม้ง จนทำให้เหยื่ออับอาย ตัดสินใจกินยาฆ่าแมลงเพื่อฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ญาติได้นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลลำปาง ขณะนี้อาการยังหนัก 
    เมื่อนายอัจฉริยะมาถึง บรรดาญาติของเหยื่อสาวได้ก้มลงกราบและโผเข้ากอดพร้อมกับร้องไห้ ก่อนที่ทุกคนทั้งแม่ อา สามี และน้องสาว พร้อมด้วยทนายความ จะเข้าพบ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง และพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว  
    นายจำรัส อายุ 45 ปี อาของเหยื่อ กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับทาง ผกก.สภ.เมืองลำปางก็สบายใจขึ้นบ้าง แต่ตนเองและครอบครัวยังเป็นห่วงเรื่องคดีอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอไปยัง ผกก.เพื่อขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน 
    ด้านทนายอัจฉริยะกล่าวว่า ขณะนี้ทางตำรวจได้ให้เหยื่อชี้ภาพคนที่รุมโทรมเสร็จแล้ว พร้อมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเปิดห้องพักในอพาร์ตเมนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และอื่นๆ ซึ่งจากพยานหลักฐาน ตำรวจแจ้งว่าจะออกหมายเรียกผู้ร่วมก่อเหตุ 1 คนก่อน ส่วนคนอื่นตนก็จะช่วยรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากสาวถึงใครก็จะให้เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกต่อไป
    พ.ต.อ.ไกรสิทธิกล่าวว่า ขณะที่การสอบสวนคืบหน้าไปมาก เหลือเพียงแค่บางส่วนที่จะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนที่พยานหลักฐานชัดเจนแล้ววันนี้ก็จะได้ออกหมายเรียกอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน อ.พบพระ จ.ตาก มารายงานตัวก่อน
    ในช่วงบ่าย นายอัจฉริยะได้เดินทางไปตรวจสอบที่อพาร์ตเมนต์กลางเมืองลำปาง สถานที่เกิดเหตุ โดยได้สอบถามพนักงานของอพาร์ตเมนต์ ได้ข้อมูลว่า อดีตผู้ใหญ่บ้านนำสาวชาวม้งมาเปิดห้อง ใช้เวลาอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ชั่วโมง จนถึง 15.00 น. ฝ่ายชายก็ออกจากอพาร์ตเมนต์ไปเพียงคนเดียว โดยบอกกับพนักงานว่าจะไปซื้อข้าวมากิน จากนั้นได้กลับเข้ามา สำหรับฝ่ายหญิงพบว่ามีหน้ากากผ้าปิดบังใบหน้า ยืนยันว่ามีเพียงชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามาเปิดห้องเพียงห้องเดียวเท่านั้น ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดในวันดังกล่าวได้ลบไปแล้ว
    หลังจากนั้นนายอัจฉริยะได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายที่ รพ.ลำปาง โดยมีน้องสาวฝาแฝดของผู้เสียหายไปร่วมพูดคุยและสื่อสารให้ เนื่องจากผู้เสียหายยังพูดไม่ได้
    นายอัจฉริยะเปิดเผยภายหลังว่า เรื่องจบแล้ว มีผู้กระทำผิดที่ตำรวจจะออกหมายจับเพียงคนเดียวคืออดีตผู้ใหญ่บ้าน เพราะจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและพูดคุยกับผู้เสียหายผ่านน้องสาว ได้ข้อมูลตรงกันว่าเรื่องทั้งหมดคือผู้เสียหายได้รู้จักอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากอดีตผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวขายสมุนไพร ผู้เสียหายจึงสั่งซื้อเพราะปวดหลัง จนถึงวันที่ 14 ก.ค. อดีตผู้ใหญ่บ้านเอายามาส่ง และบอกให้ผู้เสียหายไปรับในตัวเมืองลำปาง เมื่อไปถึง อดีตผู้ใหญ่บ้านได้ชวนไปกินข้าวแล้วออกอุบายลวงไปยังอพาร์ตเมนต์ในเขตเทศบาลนครลำปางก่อนจะถูกข่มขืน จากนั้นใช้กล้องมือถือถ่ายคลิปและส่งไปยังกลุ่มไลน์ชาวม้ง ส่วนชายอีก 3 คน มาพบอดีตผู้ใหญ่บ้านหลังเกิดเหตุที่นอกอพาร์ตเมนต์
    นายอัจฉริยะกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ผู้เสียหายมีอาการทรุดหนัก เนื้อตัวเริ่มบวม ใบหน้าและตาบวมมาก หายใจเริ่มติดขัด สื่อสารได้เพียงภาษามือเท่านั้น โดยน้องสาวฝาแฝดเป็นคนสอบถามให้ ญาติจะพาตัวกลับไปที่ จ.น่านในวันที่ 26 ก.ค. เพราะทางหมอไม่สามารถรักษาได้แล้ว.