จับทอมโหดอ้างเมา ทำแผน-รอฝากขัง


เพิ่มเพื่อน    

    คุมตัวสาวทอมทำแผนทำร้ายแฟนสาวเจ็บหนัก อ้างเมา หลังก่อคดีหนีไปกบดานที่บ้านเกิดสุโขทัย แต่ไม่รอด ชาวบ้านฮือตะโกนด่าทอ ตำรวจเตรียมส่งฝากขังต่อศาล 25 ก.ค.นี้
    ที่ สน.พหลโยธิน วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2, พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน ได้นำตัว น.ส.กาญจนา สินประเสริฐ สาวทอม ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น.ส.พิมพิไล ปักษี แฟนสาวจนได้รับาดเจ็บสาหัส ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่เอพีเพลส ซอยรัชดา 36 แยก 9 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. หลังถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน และตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย ติดตามจับกุมได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเกิด อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ได้มีประชาชนจำนวนมากมารอดูโฉมหน้าสาวทอม พร้อมตะโกนด่าทอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังประมาณ 20 นาย กันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งใช้เชือกกั้นที่หน้าอพาร์ตเมนต์ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่ตัวอาคาร เพื่อความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ จุดแรกในการทำแผนขณะที่ น.ส.กาญจนา และ น.ส.พิมพิไล ทะเลาะกันที่ลานจอดรถใต้อาคาร ก่อนที่ผู้ต้องหาจะใช้หมวกกันน็อกฟาดที่ใบหน้าและเตะซ้ำหลายครั้ง ส่วนจุดที่ 2 บริเวณหน้าประตูทางเข้าตัวอาคาร ที่ผู้ต้องหาลงจากรถจักรยานยนต์มาตบซ้ำก่อนจะขี่รถหลบหนีไป การทำแผนครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหากลับไปสอบสวนเพิ่มเติม
    พล.ต.ต.สมพงษ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างเกิดจากความมึนเมาสุรา หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดหรือไม่ และจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันที่  25 ก.ค. ช่วงเช้า พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุที่ต้องคัดค้านเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะดูจากคลิปแล้วมีการข่มขู่ผู้เสียหาย และเกรงว่าจะหลบหนี เพราะพฤติกรรมหลังก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไปต่างจังหวัด เข้าข้อกฎหมายในการคัดค้าน
    ส่วนที่ต้องออกหมายจับ ไม่ออกหมายเรียก เพราะหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธินได้รับแจ้งได้มาตรวจที่เกิดเหตุ ไม่พบผู้ต้องหา พบเพียงผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงให้หน่วยกู้ภัยนำตัวส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ เนื่องจาก น.ส.พิมพิไลได้รับบาดเจ็บมาก หลังจากนั้นผู้เสียหายได้มาที่ สน. แต่ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าและยังไม่มีหมายจับ แต่หลังจากผู้เสียหายมาแจ้งความ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอใบรับรองแพทย์ ขอออกหมายจับ เมื่อได้หมายจับจึงให้ฝ่ายสืบสวนประสานพื้นที่เข้าทำการจับกุม ส่วนที่ต้องตรวจสอบสารเสพติดเนื่องจากเขาอ้างเมา แต่จะเมาอะไรไม่ทราบ จึงต้องตรวจ ถ้าพบสารเสพติดต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ล่าสุดแจ้งเพียงข้อหาเดียวคือทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ โทษจำคุก 6-10 ปี เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากอารมณ์ ถ้าใช้สติใจเย็นหน่อยคงไม่เกิดขึ้น จึงฝากไปยังประชาชนขอให้ใช้สติอย่าใช้อารมณ์
    รอง ผบช.น.กล่าวด้วยว่า ในส่วนพยานแวดล้อมที่ไม่เข้าไปช่วยเหลือ เท่าที่มีการพูดคุย จากการซักถามเบื้องต้น พยานก็พยายามทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี รปภ.ก็ได้มาห้าม และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ส่วนหญิงสาวชุดดำในคลิปให้แฟนถ่ายคลิป แล้วมาช่วยพูดทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนคนที่อยู่ข้างในอาคารไม่มีคีย์การ์ดออกมา พยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุยังไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 374
    ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม ชั้น 1 ศูนย์ราชการอาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.พิมพิไล หรือน้องฟาง ผู้เสียหายถูกแฟนสาวทอมทำร้ายร่างกาย มารับเงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม โดยมีนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และนายวรวุฒิ อรุณศิริวัฒนา หัวหน้าประชาสัมพันธ์ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มารับเรื่อง 
    สำหรับนน้องฟาง แพทย์ตรวจพบมีอาการใบหน้าซีกขวาชา และกระดูกเบ้าตาแตก อยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยมีนัดผ่าตัดเส้นประสาทตาในวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งจะต้องรอผลการผ่าตัดและอาการข้างเคียงอื่นๆ ว่าจะต้องพักรักษาตัวกี่วัน จะต้องรอใบรับรองแพทย์ออกมาก่อน จากนั้นคณะกรรมการจ่ายเงินเยียวยาจะให้เงินเยียวยาตามสภาพของผู้เสียหาย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"