จำความตื่นเต้นระดับโลกเมื่อทรัมป์เจอกับคิมจองอึนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่สิงคโปร์ได้ไหมครับ?
จำที่ทรัมป์ประกาศว่าเกาหลีเหนือ “ไม่เป็นภัยนิวเคลียร์คุกคามโลกอีกต่อไป” ได้ไหม?
จำที่ทรัมป์บอกว่าคิมจะเลิกโครงการนิวเคลียร์และโลกจะสงบไหมครับ?
จากวันนั้นถึงวันนี้ทรัมป์ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไมค์ ปอมปิโอไปเปียงยางอีกไม่ต่ำกว่าสามรอบเพื่อลงรายละเอียดกับผู้นำเกาหลีเหนือ
ถึงวันนี้ทรัมป์ยอมรับว่าการเจรจาสุดยอดวันนั้นถึงวันนี้ไม่เกิดอะไรขึ้นเพราะ “เราไม่มีการกำหนดกรอบเวลาและความเร็วสำหรับให้เกาหลีเหนือเลิกพัฒนานิวเคลียร์” (No time limit. No speed limit)
และวันนี้เช่นกันที่ปอมปิโอต้องออกมาพูดจาคร่ำครวญว่า
“ท่านประธานคิมได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ ท่านไม่ได้แค่บอกประธานาธิบดีทรัมป์เท่านั้นแต่ยังยืนยันกับประธานาธิบดีมูน (แจอินแห่งเกาหลีใต้) ว่าท่านพร้อมจะเลิกอาวุธนิวเคลียร์ (denuclearize) เกาหลีเหนือย่อมเข้าใจว่าคำสัญญานั้นมีความหมายอย่างไร ดังนั้น เราจำเป็นต้องเห็นประธานคิมทำในสิ่งที่ได้สัญญาต่อโลกว่าจะทำ...”
แปลง่าย ๆ ว่าทรัมป์กับปอมปิโอยอมรับว่าไอ้ที่เคยประกาศไว้ว่ามะกันสามารถกดดันโสมแดงได้สำเร็จนั้นมันไม่ใช่เสียแล้ว
คิมจองอึนไม่ใช่หมู่ในอวยอย่างที่ทรัมป์เชื่อ
ยิ่งมีข่าวออกมาล่าสุดว่าจีนกำลังจะทุ่าเงินกว่า 88 ล้านเหรียญหรือกว่า 3,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเกาหลีเหนือสร้างโครงสร้างพื้นฐานเช่นถนนรอบ ๆ สะพานตรงชายแดนจีนและเกาหลีเหนือด้วยแล้ว ก็ยิ่งตอกย้ำว่าอะไร ๆ ที่วอชิงตันคิดว่าเรียบร้อยนั้น
ความจริงเรียบร้อยโรงเรียนจีนมากกว่า
มีคำถามทันทีว่าถ้าจีนทำอย่างนั้นไม่เป็นการละเมิดเงื่อนไขการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือตามมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติหรือ
คำตอบก็คือจีนไม่แคร์แล้ว
เพราะทั้งจีนและรัสเซียรู้ดีว่าหลังจากทรัมป์เจอคิมอย่างเป็นทางการแล้ว มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือทั้งหลายทั้งปวงในนามของสหประชาชาติก็เป็นอันหมดความหมาย
เข้าทางคิมจองอึน,สีจิ้นผิงและวลาดิเมียร์ ปูตินทันที
สหรัฐฯเพิ่งจะทำอะไรประหลาด ๆ อีกรอบเมื่อเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงกระชับมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือต่อแม้ทรัมป์จะได้ประกาศว่าเกาหลีเหนือยอมตามที่ตนเรียกร้องต้องการแล้ว
แต่จีนและรัสเซียทักท้วง บอกว่าไม่เห็นด้วยกับการกดดันเกาหลีเหนือต่อเนื่องอย่างนี้เพราะไหนว่าการเจรจาสุดยอดกับทรัมป์ได้ผลเกินคาดยัง?
รัฐมนตรีต่างประเทศมะกันออกมาโอดครวญอีกว่า
“เมื่อการคว่ำบาตรไม่ถูกบังคับใช้ โอกาสของการได้เห็นการให้เกาหลีเหนือเลิกโครงการนิวเคลียร์ก็ลดน้อยถอยลง ณ วันนี้เกาหลีเหนือได้ลักลอบขนสินค้าน้ำมันเข้าประเทศในระดับที่สูงเกินกว่าที่สหประชาชาติกำหนดไว้มาก...”
เกาหลีเหนือรับปากว่าจะส่งเถ้าของทหารมะกันที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลี แต่ก็ได้เลื่อนการส่งมอบมาถึงวันนี้
ปอมปิโอไปเปียงยางครั้งที่สามเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา หวังว่าจะกลับบ้านด้วยความชัดเจนว่าเกาหลีเหนือจะมีตารางเวลาแห่งการยกเลิกนิวเคลียร์ที่ชัดเจนอย่างไร
แต่เขาก็คว้าน้ำเหลว ไม่เพียงแต่ไม่มีอะไรชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การส่งมอบเถ้าทหารมะกันก็ไม่เกิดขึ้น
มิหนำซ้ำ คิมจองอึนยังไม่ยอมให้รัฐมนตรีต่างประเทศมะกันคนนี้เข้าพบถ่ายภาพอย่างที่เคยให้เมื่อเขาไปเยือนครั้งแรก
เป็นการตบหน้ามะกันอย่างจังอีกรอบ
ภาวะความผันผวนครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่สื่อทางการเกาหลีเหนือออกมาแสดงความไม่พอใจที่ทีมเจรจาสหรัฐฯภายใต้การนำของปอมปิโอ “แสดงท่าทีเหมือนนักเลงโต” ที่กดดันโสมแดงด้วยวิธีการที่เปียงยางเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินเหตุ
แม้ทรัมป์จะอ้างว่าได้รับจดหมายอันแสนหวานที่แสดงความเป็นมิตรจากคิมเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่หากอ่านเนื้อหาของจดหมายแล้วก็เป็นภาษาการทูตกว้าง ๆ ที่ไม่มีคำมั่นทางด้านปฏิบัติแต่อย่างไร
สรุปได้ว่าการประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์ระหว่างทรัมป์กับคิมเป็นเพียงแค่การสร้างภาพของทั้งสองฝ่ายที่ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองได้ชัยชนะโดยไม่ต้องยอมเงื่อนไขของอีกฝ่ายหนึ่งเลยแม้แต่น้อย
สังเกตไหมครับว่าคิมจองอึนต้องบินไปหาสีจิ้นผิงทั้งก่อนและหลังเจอทรัมป์
และหากประเมินจากผลที่ออกมาถึงวันนี้ ก็ย่อมสรุปได้ว่า
ผลการประชุมสุดยอดของคิมกับทรัมป์นั้นเรียบร้อยจริง
คือเรียบร้อยโรงเรียนจีน หาใช่โรงเรียนมะกันแต่อย่างไรเลย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |