สังคมยี้'แม่พิมพ์'ชักดาบ ออมสินย้ำทวงตามปกติ!


เพิ่มเพื่อน    

       คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยปฏิญญาครูชักดาบ ชี้แม่พิมพ์ของชาติต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม   ออมสินโร่แจงไล่บี้สาขาฟ้องลูกหนี้แค่กระบวนการปกติ "อนุสรณ์" ชี้สะท้อนความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แนะปรับฐานเงินเดือนใหม่ตามคุณวุฒิ
       เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อธนาคารออมสินกับปัญหาหนี้ครู กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,156 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา พบว่า
       ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.3 ทราบข่าวธนาคารออมสินกับกลุ่มครูเรียกร้องเรื่องหนี้สิน ในขณะที่ร้อยละ 5.7 ไม่ทราบข่าว โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.6 ไม่เห็นด้วยต่อการประกาศไม่ยอมชำระหนี้ของครู เพราะธนาคารทำถูกแล้ว ครูต้องเป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม ครูต้องมีวินัย ใช้ชีวิตพอเพียง ยอมรับผลที่ตัวเองทำ และไม่ควรใช้กฎหมู่มาทำให้เสียภาพลักษณ์ เป็นต้น ร้อยละ 14.7 ไม่ค่อยเห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 6.4 ค่อนข้างเห็นด้วย มีเพียงร้อยละ 2.3 เท่านั้นที่เห็นด้วย เพราะปัญหาค่าครองชีพสูง หนี้สินครูมีมาก ทำประโยชน์ให้กับสังคม น่าเห็นใจ เงินเดือนน้อย เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.8 ระบุครูควรยอมรับสภาพหนี้ที่ครูก่อไว้กับธนาคาร ในขณะที่ร้อยละ 6.2 ระบุไม่ควรยอมรับ
        ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.6 พอใจมากถึงมากที่สุด ต่อท่าทีของธนาคารออมสินกรณีแก้ปัญหาหนี้ครู เพราะธนาคารยืดหยุ่นช่วยเหลือมากแล้ว ดอกเบี้ยต่ำ มีประกันชีวิต ครอบครัวครูได้รับผลประโยชน์ เห็นคุณค่าของครูทำประโยชน์สังคม ทำให้ครูมีวินัยการเงิน และแก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ เป็นต้น ร้อยละ 10.7 พอใจปานกลาง ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 6.7 พอใจน้อยถึงไม่พอใจเลย เพราะปัญหาค่าครองชีพสูง ยังแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ควรให้กู้เพิ่ม เป็นต้น
       ที่น่าสนใจคือ สาเหตุหลักของปัญหาหนี้สินของประชาชนทั่วไป พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.5 ระบุใช้จ่ายเงินเกินตัว รองลงมาคือร้อยละ 87.1 ชำระหนี้ไม่ตรงเวลา, ร้อยละ 85.2 ไม่มีวินัย, ร้อยละ 72.6 ใช้เงินเพราะอยากมากกว่าจำเป็น, ร้อยละ 65.9 โทษเศรษฐกิจไม่ดี, ร้อยละ 64.3 มีค่านิยมเป็นหนี้ตามๆ กัน, ร้อยละ 53.2 หมุนเงินไม่เป็น, ร้อยละ 42.1 ถูกหลอกถูกโกง, ร้อยละ 38.9 เล่นพนัน และร้อยละ 34.4    ค้ำประกันคนอื่น ตามลำดับ
    วันเดียวกัน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวว่าธนาคารออมสินได้มีหนังสือแจ้งถึงสำนักงานทนายความเรื่องการฟ้องคดีกับลูกหนี้สินเชื่อครู ดังรายละเอียดตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ นั้น ธนาคาร ขอชี้แจงให้ทราบว่า ข้อความต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารดังกล่าว เป็นกระบวนการในการติดตามหนี้/ดำเนินคดีกับลูกหนี้ตามปกติของธนาคาร โดยเป็นการซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงานของธนาคารกับกลุ่มลูกหนี้ที่ธนาคารได้มีการส่งดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้มาแล้วระยะเวลาหนึ่ง จึงไม่ใช่เป็นการเร่งรัดที่เกิดจากกรณีที่มีกลุ่มครูประกาศยุติการชำระหนี้ที่จังหวัดมหาสารคามแต่อย่างใด เป็นการปฏิบัติงานตามปกติที่ใช้กับการค้างชำระหนี้ของลูกค้าทุกกลุ่ม
    ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อข้อตกลงของครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวนกว่า 4 แสนล้านบาทนั้น ธนาคารได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกลุ่มบุคลากรครูและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ที่ผ่านมามีหนี้เสียเพียง 0.94% โดยอีก 99.06% เป็นสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นปกติ ส่วนลูกหนี้ที่ปัจจุบันเป็นหนี้ค้างชำระ ธนาคาร มีมาตรการในการช่วยเหลือและผ่อนปรนการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการพักชำระหนี้ หรือการลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดี โดยในช่วงที่ผ่านมา ลูกหนี้ค้างชำระเริ่มมีแนวโน้มมาแก้ไขหนี้/ปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้ แต่ได้เข้าโครงการแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธนาคารจึงไม่ได้ดำเนินคดีแต่อย่างใด
    “ลูกหนี้ทุกรายที่มีปัญหาในการชำระหนี้สามารถเข้ามาแก้ไขหนี้กับธนาคารได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใด ทั้งลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาในการชำระหนี้ จนถึงลูกหนี้ที่ธนาคารได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว” นายชาติชายระบุ
    ด้านนายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการศึกษา กล่าวว่า ปัญหาหนี้สินครูและหนี้ครัวเรือนสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ที่ไม่เป็นธรรมมากกว่าปัญหาการขาดวินัยทางการเงิน การพักชำระหนี้ และการปรับโครงสร้างหนี้ไม่ใช่หนทางแห่งการแก้ปัญหา และเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น เสนอให้มีการปรับฐานและอัตราเงินเดือนครูใหม่ตามคุณวุฒิวิชาการ วิชาชีพและคุณภาพในการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งความรู้ความสามารถ สามารถจัดจ้างในลักษณะสัญญาจ้างที่มีโครงสร้างเงินเดือนมิได้ขึ้นอยู่กับบัญชีเงินเดือนข้าราชการ เพื่อให้สามารถเลือกครูที่เก่งเข้ามาสอนหรือเลือกผู้บริหารที่มีความสามารถเข้ามาบริหาร
    จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบข้อเท็จจริงว่า ค่าเฉลี่ยสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ครัวเรือนที่มีหนี้ปรับเพิ่มขึ้นในภาพรวมและในทุกกลุ่มรายได้ค่าเฉลี่ยโดยรวมของกลุ่มครัวเรือนที่มีหนี้เพิ่มขึ้นจาก 76% ในปี 2558 มาอยู่ที่ 89% ในปี 2560 ครัวเรือนส่วนใหญ่ รวมทั้งครูชั้นผู้น้อยและไม่มีตำแหน่งบริหารไม่มีเงินออมสำหรับใช้ในยามฉุกเฉินและหลังเกษียณอย่างเพียงพอ การเพิ่มขึ้นของหนี้สินนั้นเกิดขึ้นในเกือบทุกกลุ่มอาชีพที่จัดอยู่ในกลุ่มรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยเป็นผลจากทั้งการเพิ่มขึ้นของหนี้และการลดลงของรายได้ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นในส่วนของผู้มีฐานรายได้สูงอยู่แล้ว ในภาพรวม หนี้สินของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 13-14% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้อาจปรับตัวดีขึ้นหากทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากกว่า 5% และมีการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยนโยบายหรือมาตรการแทรกแซงโดยรัฐ
    ทั้งนี้ หากครูมีภาระหนี้สินมาก ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการยกระดับรายได้และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว คุณภาพครูมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายตามแผนการศึกษาชาติ คุณภาพครูไม่อาจดีได้หากครูยังมีปัญหาทางการเงินและไม่มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพ ปัญหาหนี้สินครูเกิดขึ้นทั้งจากรายได้ไม่พอรายจ่าย ครูที่มาจากครอบครัวที่ยากจนมักมีภาระต้องดูแลสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ทางการเงินอีกด้วย นอกจากนี้ ครูบางส่วนขาดความรู้เรื่องการบริหารเงินออมและขาดวินัยทางการเงิน 
    "การสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพต้องอาศัยบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพสูง การแก้ปัญหาหนี้สินครูจึงมีความสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วน และไม่ควรใช้วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการพักการชำระหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้เท่านั้น เพราะจะสร้างวัฒนธรรมเบี้ยวหนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่ยั่งยืน"  นายอนุสรณ์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"