สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานอาหารเลี้ยงผู้ร่วมงาน "รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน United As One" ขอบคุณทุกฝ่ายในภารกิจช่วย 13 หมูป่า วันที่ 1 ส.ค. บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต  "สุวพันธุ์" แบ่งงานทุกกระทรวงรับผิดชอบ พร้อมเชิญฮีโร่ทุกภาคส่วนกว่า 1 หมื่นคนเข้าร่วม "เชียงราย" เผยอาการน้องๆ แข็งแรงดี ยังเฝ้าระวังสภาพจิตใจ เตรียมจัดงานบวช 24-25 ก.ค.นี้ เปิดให้สื่อร่วมทำข่าวได้  "ศิลปินล้านนา" เชิญพระสาทิสลักษณ์ ร.10 ไว้ในภาพวาดประวัติศาสตร์การช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ ออกจากถ้ำหลวง
    เมื่อวันอาทิตย์ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการจัดงานขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สายออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
    นายสุวพันธุ์กล่าวก่อนการประชุมว่า การจัดงาน "รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน United As One" เพื่อขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงรายครั้งนี้  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้จากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้รัฐบาลใช้พระลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดงาน อีกทั้งพระราชทานอาหารเลี้ยงผู้ร่วมงานกับรัฐบาลด้วย ยังความปีติอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้แก่รัฐบาลและผู้ร่วมงานทุกฝ่าย 
    "รัฐบาลจะเชิญผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูตของประเทศต่างๆ ผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนทุกด้าน เกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากถ้ำ สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ร่วมงานขอบคุณดังกล่าว รวมประมาณ 10,000 คน" นายสุวพันธุ์กล่าว
    รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ จะหารือรายละเอียดของการดำเนินการจัดงาน โดยรัฐบาลมีความประสงค์ที่จะเรียนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้ไปปฏิบัติงานทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะต้องดูในรายละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่มีการพิจารณาหารือในรอบแรกกันไปแล้ว
    นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ในการแบ่งงานเพื่อจัดงานครั้งนี้ ทางรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทุกกระทรวงเข้ามามีส่วนร่วม แต่กระทรวงหลักๆ คือกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ อสมท และอีกหลายส่วนราชการ ซึ่งในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานกับส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสานงานกับภาคเอกชน ซึ่งในวันนี้ต้องมีข้อสรุปว่ากระทรวงไหนจะทำอะไรอย่างชัดเจน โดยเราต้องเร่งดำเนินการ เพราะมีกำหนดไว้แล้วว่างานจะจัดขึ้นในวันที่ 1 ส.ค.61 
    ถามว่า การเชิญแขกต่างชาติ โดยเฉพาะทีมอาสากู้ภัยต่างชาติจะดำเนินการอย่างไร นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มเชิญใคร แต่ในส่วนที่ดำเนินการแล้วคือการรวบรวมรายชื่อทั้งหมด ในส่วนของแขกต่างประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเชิญสถานทูตที่มีคนของเขาที่มาช่วยเรา รวมถึงเชิญเอกอัครราชทูต สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายต่างๆ ด้วย ส่วนภาคประชาชนและภาคเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ เราก็ต้องเชิญเช่นเดียวกัน เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว จากการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย สำหรับประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ก็ให้ทางจังหวัดเป็นผู้ช่วยเชิญกลุ่มคนเหล่านั้นมาร่วมงาน 
    "การเชิญผู้มาร่วมงานในครั้งนี้ จะให้เกียรติกับพี่น้องเกษตรกรที่เสียสละพื้นที่รองรับน้ำ ประชาชนที่ขับรถยนต์ รถรับจ้าง รถสองแถว และรถจักรยานยนต์มีจิตอาสารับ-ส่งผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ถ้ำหลวง รวมถึงผู้ที่บริการซักเสื้อผ้าให้กับผู้ปฏิบัติงานด้วย เราจะค้นหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด อีกทั้งผู้สำรวจเดินหาโพรงถ้ำที่ไม่ได้เป็นข่าวหรือเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ เราก็จะเชิญมาด้วย" นายสุวพันธุ์กล่าว 
    ต่อมาภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายสุวพันธุ์ แถลงว่า ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญและเร่งรัดในเรื่องของการดำเนินงาน โดยเฉพาะการเชิญกลุ่มผู้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมีคนไทยและคนต่างประเทศ หลังจากวันนี้ไปทุกส่วนงานที่ได้รับมอบหมายจะต้องไปจัดการประชุมงานในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ และรายงานความคืบหน้ามายังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามกรอบงาน และกรอบระยะเวลา ซึ่งวันที่ 25-27 ก.ค.นี้ เราจะต้องทราบจำนวนผู้ที่มาร่วมงานทั้งหมด 
    "ขณะนี้ทุกอย่างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว โดยมีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.เป็นต้นไป ทุกส่วนจะได้มีการประชุมกลุ่มย่อย และในวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง การดำเนินงานครั้งนี้ รูปแบบจะคล้ายกับการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมช่วงพระราชพิธีพระบรมศพฯ" รมต.ประจำสำนักนายกฯกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดที่หน่วยงานต่างๆ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์รายงานสภาพอากาศวันที่ 1 ส.ค. 61 เวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่เชิญผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องในประเทศทุกภาคส่วนอย่างครบถ้วน รวมถึงประชาชนผู้เสียสละ จิตอาสาและภาคเอกชน, กระทรวงการต่างประเทศเชิญผู้ปฏิบัติหน้าที่ต่างชาติ เอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูตทหาร และผู้ร่วมสนับสนุนจากต่างประเทศเกี่ยวข้องอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่, กรมประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่เชิญสื่อมวลชนฝ่ายไทยที่ปฏิบัติหน้าที่, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่จัดทำบัตรและเข็มกลัดเพื่อแสดงตนผู้ที่ได้รับเชิญ
    กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่จัดกลุ่มผู้ร่วมงานเพื่อเดินทางมายังบริเวณงาน, กระทรวงคมนาคมทำหน้าที่จัดการด้านยานพาหนะเดินทางสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญในประเทศ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดเตรียมที่พักสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญทั้งในประเทศและต่างประเทศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องบูรณาการร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนรักษาความปลอดภัยให้ครอบคลุมทุกด้าน รวมถึงแผนฉุกเฉินและตั้งจุดคัดกรองเข้างานด้วย
    กระทรวงสาธารณสุขจัดบริการด้านการแพทย์และการพยาบาล, การไฟฟ้านครหลวงทำหน้าที่จัดให้มีกระแสไฟฟ้ารองรับการจัดงานบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต, กระทรวงวัฒนธรรม ทำหน้าที่จัดทำและแจกจ่ายสมุดภาพรวบรวมภาพเป็นที่ระลึก สำหรับพิธีกรและการดำเนินรายการบนเวที ทางกรมประชาสัมพันธ์มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการถ่ายทอดสดนั้น ได้มีการติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดภายในเชื่อมโยงสัญญาณภาพ บรรยากาศในงานขึ้นจอแอลอีดีที่มีการติดตั้งอยู่รอบงาน
    ขณะที่เว็บไซต์ 77kaoded.com ได้เปิดรายชื่อ จิตอาสาทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน ห้างร้าน บริษัท หรือส่งอุปกรณ์เข้ามาช่วยเหลือการค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิต ที่พลัดหลงภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ว่ามีทั้งสิ้น 271 หน่วยงาน 7 ประเทศ 4,599 คน พร้อมระบุว่า ทุกท่านคือฮีโร่ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ถือเป็นเรื่องใหญ่ คนทั่วโลกให้ความสนใจ 
    ทั้งนี้ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย  ภาครัฐมี 80 หน่วยงาน, หน่วยงานทหาร 35 หน่วยงาน, เอกชนมี 19 แห่ง, ต่างประเทศมี 7 แห่ง 
    วันเดียวกัน ที่ว่าการอำเภอแม่สาย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พระรัตนมุนี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย วัดพระแก้ว พระอารามหลวง อ.เมืองฯ จ.เชียงราย, นายประพันธ์ คำจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย, นพ.ศิริศักดิ์ นันทะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าอาการล่าสุดของน้องๆ ทีมหมูป่าฯ และโค้ชทั้ง 13 คน
    นพ.ศิริศักดิ์กล่าวว่า อาการของน้องๆ ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ทางทีมแพทย์ยังคงต้องคอยระวังเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านจิตใจ และยังคงปรับตัวให้สภาวะจิตใจกลับมาอยู่ในภาวะปกติ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการคอยให้ความคุ้มครองดูแล ซึ่งจะดูแลต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
    ด้านนายประพันธ์กล่าวว่า ในส่วนขั้นตอนและพิธีการในการบวชของน้องๆ ทีมหมูป่าฯ ทั้งหมด 13 คน จะมีการบวช 12 คน โดยน้องๆ นักเตะบวชเณร 11 คน และโค้ชเอกบวชพระ 1 คน โดยพิธีการจะมีการปลงผมนาควันที่ 24 ก.ค. ที่วัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย โดยในช่วงเช้าจะมีการบวงสรวง และช่วงบ่ายจะมีการปลงผมนาค และในวันที่ 25 ก.ค.2561 ที่วัดพระธาตุดอยตุง โดยจะมีขบวนแห่เริ่มที่วัดศาลาเชิงดอย ซึ่งทั้ง 12 คนจะบวชเป็นเวลา 9 วัน และจะลาสิกขา ในวันที่ 4 ส.ค.2561
    พระรัตนมุนีกล่าวว่า ในการบวชครั้งนี้ ทางจังหวัดไม่ได้เป็นผู้กำหนดการบวชให้เด็กๆ แต่ทางเด็กๆ และผู้ปกครองได้หารือกันเอง ซึ่งทางเราก็ได้ร่วมกันจัดงานขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะมีผู้สนใจกับเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก จึงอยากจะให้พิธีออกมาอย่างเหมาะสม และไม่มีข้อผิดพลาด
    ส่วนนายประจญกล่าวว่า ในพิธีการดังกล่าว สื่อมวลชนสามารถมาทำข่าวในพิธีบวชได้ แต่ขอให้เหมาะสม ไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิ์ของเด็กและครอบครัว ซึ่งหากมีการไปเจาะจงสัมภาษณ์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ซึ่งที่ผ่านมาสื่อส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือ โดยในวันงานก็จะมีการจัดโซนให้สื่อมวลชนอยู่เพื่อความเป็นระเบียบ
    ที่ขัวศิลปะ ต.บ้านดู่ อ.เมืองฯ จ.เชียงราย นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ ยังคงนำบรรดากลุ่มศิลปินเข้าทำการเก็บรายละเอียดและวาดภาพในภาพชุด the hero โดยนายสุวิทย์กล่าวว่า หลังจากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มาตรวจดูความสวยงามของภาพ เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดให้มีความสวยงามเท่านั้น และล่าสุดได้มีการเพิ่มพระสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ไว้ในภาพวาดด้วย โดยติดไว้บริเวณด้านเหนือของตัวอาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นที่รักษาตัวน้องๆ ทั้ง 13 คนหลังออกจากถ้ำ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระกรุณาให้การช่วยเหลือภารกิจการช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่การค้นหาจนช่วยเหลือออกสู่บ้านอย่างปลอดภัย.