เมืองบุรีรัมย์ก่อนหน้านี้มีคำขวัญว่า “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม” มีนักท่องเที่ยวปีละ 6 แสนคน ที่เกิดจากการท่องเที่ยวปราสาทขอมโบราณที่กระจายอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดกว่า 60 แห่ง ก่อนหน้านี้บุรีรัมย์เป็นแค่ทางผ่าน ที่คนส่วนใหญ่ขับรถยนต์ผ่านจากจังหวัดนครราชสีมาไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ในปัจจุบันนี้หากใครได้ขับรถผ่านเข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์จะเห็นว่า ทั้งรีสอร์ตและโรงแรมผุดขึ้นเต็มไปหมด พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้คนทั่วโลกที่จะมาสัมผัสกลิ่นอายของเมืองแห่งเกมกีฬาจาก “เมืองผ่าน” จังหวัดบุรีรัมย์ค่อยๆ กลายมาเป็น “เมืองพัก” เศรษฐกิจที่รุ่งโรจน์กำลังขยับเข้าหาคนในจังหวัดนี้ ราคาที่ดินพุ่งกระฉูดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
    เบื้องหลังแห่งความสำเร็จนี้ต้องยกให้คุณเนวิน ชิดชอบ ที่เคยเขียนข้อความจากใจไว้ในสูจิบัตรของสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ เมื่อหลายปีก่อนว่า “ไอ-โมบาย สเตเดียม เป็นมากกว่าสนามฟุตบอล เพราะที่แห่งนี้คืออนุสาวรีย์แห่งความศรัทธา ความรัก ความผูกพัน ระหว่างผมกับคนบุรีรัมย์” ก็เหมือนกับสโลแกนและเป็นหัวใจของสนามแห่งนี้ ข้อความที่ปรากฏอยู่บนหลังคาอัฒจันทร์ฝั่งตะวันตก ที่เขียนว่า “Breath of Buriram” หรือ “ลมหายใจของบุรีรัมย์” นั่นเอง จากจังหวัดเล็กๆ ที่เป็นแค่ทางผ่านไปสู่จังหวัดอื่นๆ ไม่มีอีกแล้ว เพราะตอนนี้จังหวัดนี้ได้ถูกยกให้เป็นเมืองที่หลายคนจะต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
    หลังจากเกิดสโมสรฟุตบอล Buriram United ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลในประเทศไทยที่ได้มาตรฐานระดับเวิลด์คลาสจากฟีฟ่า โดยใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดในโลกเพียง 256 วัน โดยวัสดุที่ใช้ประกอบเป็นตัวสนามกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นโลหะทั้งสิ้น เพราะเจ้าของมองการณ์ไกลว่าถ้าขาดทุนก็ยังถอดเหล็กไปขายได้ บุรีรัมย์ที่เคยมีนักท่องเที่ยวปีละ 6 แสนคน พอมีทีมฟุตบอลก็เพิ่มเป็น 1.8 ล้านคน/ปี และตอนนี้มีสนามแข่งรถ คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวน่าจะแตะ 2.5 ล้านคน/ปี
    สโมสรแห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจแห่งใหม่ของชาวบุรีรัมย์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนทั้งในและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงแฟนบอลทุกเพศทุกวัยให้มาที่นี่ เพื่อมาชมสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแห่งนี้ ชาวบุรีรัมย์มีความคลั่งไคล้และรักทีมฟุตบอลของพวกเขามาก เห็นได้จากคนที่นี่ 80% จะใส่เสื้อทีม Buriram United กันหมดทั้งจังหวัด จึงไม่น่าแปลกใจว่ารายได้ 30% มาจากการขายเสื้อและของที่ระลึก เพราะทุกร้านค้าในจังหวัดพร้อมใจกันขายเสื้อดังกล่าว ในขณะที่นักท่องเที่ยวก็ต้องซื้อเสื้อนี้เพื่อเข้าไปถ่ายรูปที่ขอบสนาม จากจังหวัดที่เป็นเมืองทางผ่าน จังหวัดที่ติดอันดับยากจนได้ถูกลบทิ้งไป เหลือแต่ภาพลักษณ์ใหม่ที่เป็นเมืองแห่งกีฬา เมืองที่ผู้คนมีลมหายใจเข้าออกเป็นกีฬา เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาปรับปรุงคำขวัญจังหวัดบุรีรัมย์ใหม่ให้มีความสอดคล้องและครอบคลุมกับบริบทของจังหวัดในปัจจุบัน คำขวัญของจังหวัดบุรีรัมย์ใหม่ก็คือ “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา” ที่ถูกใจก็คือเด็กแว้นที่นี่สามารถมาประลองความเร็วกันได้ที่ลาน extreme ข้างๆ สนามฟุตบอล โดยมีข้อแม้ว่าต้องสวมหมวกกันน็อกและรองเท้าหุ้มส้น คงเป็นเด็กแว้นจังหวัดเดียวที่มีตำรวจคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยให้อย่างใกล้ชิด อาจกล่าวได้ว่าลมหายใจของชาวบุรีรัมย์เกิดจากความคิดและการลงมือทำเพื่อคนบุรีรัมย์ของผู้ชายที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ นั่นเอง.