เข้าพรรษา"เที่ยวสิงห์บุรี" ร่วมประเพณียายดอกไม้


เพิ่มเพื่อน    

    วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่กำลังมาถึง ระหว่างวันที่ 27-28 กรกฎาคมนี้ เป็นวันหยุดยาวที่ชาวพุทธจะได้ออกไปทำบุญกุศลและร่วมกิจกรรมตามวิถีพุทธที่จัดขึ้นในหลายภูมิภาค และในส่วนภาคกลาง ที่จังหวัดสิงห์บุรี ก็มีงานประเพณีท้องถิ่นที่น่าสนใจเช่นกัน  นั่นคือ “ประเพณียายดอกไม้ (ตักบาตรดอกไม้)” ที่วัดจินดามณี ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี   
    นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี (รับผิดชอบพื้นที่ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และชัยนาท) กล่าวว่าประเพณียายดอกไม้ หรือประเพณีตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวชุมชนบ้านแป้งที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่นี้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และได้ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน โดยคำว่า “ยาย” นั้น เป็นสำเนียงที่เพี้ยนมาจากคำว่า “หย่าย” ในภาษาลาว ซึ่งแปลว่า การแจกจ่าย หรือการให้ เทศกาล “ยายดอกไม้” จึงหมายถึง การให้ หรือการถวายดอกไม้แด่พระสงฆ์ เพื่อนำไปบูชาพระพุทธเจ้า


    ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม รวมถึงเป็นการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวตำบลบ้านแป้ง ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีจึงร่วมกับวัดจินดามณี โดยพระครูปริยัติกิจจานุกูล เจ้าอาวาสวัดจินดามณี, ททท.สำนักงานลพบุรี,   วัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “โครงการสืบสานประเพณียายดอกไม้ (ตักบาตรดอกไม้)” เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ตำบลบ้านแป้ง ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 27-28 กรกฎาคม  2561 ณ วัดจินดามณี ภายใต้แนวคิด “ตักบาตรยายดอกไม้ นุ่งซิ่นไทย-ลาวเวียง”


    ภายในงานมีกิจกรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พิธีตักบาตรดอกไม้, ทอดผ้าป่าดอกไม้, ถวายเทียนพรรษา, ร่วมเช่าบูชา “พระสมเด็จมณีจินดา” เนื้อผงยายดอกไม้ ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) ที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม “หลวงพ่อจรัญ” แห่งวัดอัมพวัน ทำพิธีปลุกเสก, ชมเครื่องมือทำทอง, เครื่องมือปั้นหม้อ และเครื่องจักสาน แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวชุมชนลาวเวียงในอดีต, ชมการแสดงเต้นบาสโลป และการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นต้น
     ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวต่อว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคม ททท.สำนักงานลพบุรี ยังจัดกิจกรรม “ตะลุยกินอาหารถิ่นสิงห์บุรี : EAT LOCAL SINGBURI” ภายใต้โครงการ “ท่องเที่ยวชุมชน Amazing Thailand Go Local เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารถิ่น อาหารอร่อย อาหารต้องห้ามพลาดของจังหวัดสิงห์บุรี ให้เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป โดยมีเมนูพื้นถิ่นของชาวไทยพวน รวมถึงร้านอาหารแนะนำของจังหวัดสิงห์บุรีกว่า 10 ร้านค้า พร้อมจำหน่ายในราคาพิเศษ ทุกอย่าง 20 บาท อาทิ ปลาช่อนแม่ลาแดดเดียว,  แตงโมหน้าปลาช่อนแห้ง, เมี่ยงกลีบบัว, ม้าฮ่อ, ขนมหวานบ้านแป้ง และขนมเบื้องญวน เป็นต้น
    นอกจากมาร่วมประเพณีตักบาตรยายดอกไม้แล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น วัดอัมพวัน สถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีหลวงพ่อจรัญ หรือพระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธัมโม) เป็นอดีตเจ้าอาวาส และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวสิงห์บุรี
    ต่อด้วย “วัดกุฎีทอง” ซึ่งมีมณฑปลักษณะเหมือนเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอด และภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทโลหะจำลองไว้ให้ประชาชนสักการบูชา ตลอดจนมีศูนย์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยพวนรวบรวมเครื่องมือใช้สอยในชีวิตประจำวันต่างๆ ของชาวไทยพวน ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องมือ ตลอดจนยวดยานพาหนะทางน้ำไว้ให้ชม

    ยังมีวัดอื่นๆ ที่มีความสำคัญและมีความน่าสนใจควรค่าแก่การไปกราบสักการะ เช่น “วัดพระปรางค์มุนี”   มีองค์พระปรางค์สี่เหลี่ยมสูงเด่น ใกล้กับองค์พระปรางค์เป็นวิหารหลวงพ่อเย็น ด้านข้างวิหารมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นกรุเก่าแก่ที่ทางวัดได้ขุดดินบริเวณนั้นมากลบวิหาร   ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงาม เขียนโดยนายเพ็ง คนลาว เมื่อราวปี พ.ศ.2462 แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนรก สวรรค์
    “วัดโพธิ์ศรี” เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงผูกพัทธสีมา บริเวณหน้าวัดมีพระอินทร์เทวาธิราชทรงช้างเอราวัณ ภายในวัดมีความสงบร่มเย็นเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ด้านหลังวัดติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และมีหอฉันเป็นอาคารไม้เก่าแก่โบราณที่สวยงามอายุกว่า 100 ปี
    “วัดพิกุลทอง” ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อีกด้านหนึ่งยังมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว ภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติ 24 เค รอบๆ วิหารใหญ่มีวิหารคดซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางประจำวันต่างๆ และพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่

    “วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร” นมัสการพระพุทธไสยาสน์ปางโปรดอสุรินทราหู องค์ใหญ่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีพุทธลักษณะที่งดงามมากองค์หนึ่ง บริเวณวัดยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านพุทธศาสนา ซึ่งชาวสิงห์บุรีมีความเชื่อว่าหากมีโอกาสมานมัสการวัดพระนอนจักรสีห์ฯ และเดิมชมต้นสาละลังกาใหญ่ที่ปลูกไว้กว่า 100 ต้น ให้อธิษฐานแล้วปรบมือใต้ต้นสาละ หากดอกสาละร่วงลงมาแสดงว่าคำอธิษฐานนั้นประสบผลสำเร็จ  
    “วัดโพธิ์เก้าต้น” นมัสการรูปหล่อพระอาจารย์ธรรมโชติ ผู้เป็นกำลังใจสำคัญแก่นักรบบ้านบางระจันสมัยอยุธยาให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยความเมตตา และกุศโลบายที่ร่ำลือกันมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ศรัทธาเมื่อมากราบไหว้ก็จะมาหาบน้ำจำบ่อน้ำลัง ซึ่งถือว่าเป็นการเติมบุญลงในสระศักดิ์สิทธิ์หน้าวิหารหลวงพ่อ นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุเก่าแก่ซึ่งถูกเก็บรวบรวมและจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์

    “วัดประโชติการาม” เป็นวัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ พุทธลักษณะงดงาม ศิลปะแบบสุโขทัยขนาดใหญ่ 2 องค์ คือ หลวงพ่อทรัพย์และหลวงพ่อสิน เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป เชื่อกันว่าถ้าได้สักการะหลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน พระยืนศักดิ์สิทธิ์แล้วจะประสบความสำเร็จในด้านการค้าขาย
“วัดสว่างอารมณ์” สักการะหลวงปู่เรือง อดีตเจ้าอาวาส มณฑลกรุงเก่า ผู้อุทิศตนเพื่อการรวบรวมหนังใหญ่โบราณ ฝีมือช่างหลวงโบราณกว่า 300 ตัว จัดแสดงไว้เป็นอนุสรณ์หนังใหญ่ แต่ละตัวยังคงล้ำค่าอยู่ในพิพิธภัณฑ์ให้ได้ชื่นชม ชมการแกะสลักหนังใหญ่ โดยฝีมือชาวบ้าน
    “วัดสาลโคดม” สักการะหลวงพ่อเศียร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธลักษณะที่งดงามชาวบ้านค้นพบ “เศียร” หลวงพ่อบริเวณหน้าวัดร้าง แต่ไม่ปรากฏองค์หลวงพ่อจึงได้มีพิธีอัญเชิญเศียรมาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ และสร้างองค์พระขึ้นใหม่ด้วยการก่ออิฐถือปูน “เศียร” เดิมบรรจุไว้ภายในวัดนี้ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย ส.ก. ไว้ที่หน้าบันพระอุโบสถ
    ปิดท้ายด้วย “วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์” มีพระพุทธรูปทองคำงดงามสมัยสุโขทัยหล่อขึ้นด้วยวัสดุโลหะสัมฤทธิ์ผสมทองคำ ถ้าหากปิดไฟภายในห้องที่ประดิษฐาน จะเห็นว่าองค์พระเป็นสีทองแชมเปญ หรือทองประกายแสด เชื่อกันว่าหากปรารถนาสิ่งใดให้ตั้งจิตอธิษฐานขอ พร้อมบูชาด้วยดอกบัวสดจำนวน 99 ดอก
“สิงห์บุรีเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาน่าสนใจ เชื่อว่าการมาร่วมงานประเพณีตักบาตรยายดอกไม้ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้พบกับความหลากหลายในการท่องเที่ยวเมืองรอง ภายใต้โครงการ “ท่องเที่ยวชุมชน Amazing Thailand Go Local” รวมทั้งได้ชมวัดวาอารามและประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น และร่วมกิจกรรม EAT LOCAL : อาหารถิ่น ที่สนับสนุนให้นักท่องเที่ยว ไปเที่ยวให้ถึงที่ ไปกินให้ถึงถิ่น ลองกินแบบคนพื้นถิ่น เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวเชิญชวน
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานลพบุรี โทร. 0-3677-0096-7 ได้ทุกวันเวลา 08.30-16.30 น. Facebook : Tat Lopburi  
                    
                        สรณะ รายงาน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"