21 ก.ค.61 - ที่ศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง 72 ศาลมีคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง ได้ยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อ นายสิทธิพร สวยงาม อายุ 42 ปี ชาวปทุมธานี คนขับรถยนต์คัมรีสีดำ ซึ่งขับปาดหน้ารถยนต์หญิงอายุ 64 ปีและนำมีดออกมาข่มขู่ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ทำให้เสียทรัพย์ข่มขู่, พกพาอาวุธมีดยาว 1 เมตร ไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยไม่มีเหตุอันควร หรือทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  358, 371, 392, ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522

ภายหลังนายสิทธิพรได้เข้ามอบตัวตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมให้การรับสารภาพ

โดยคดีนี้ นายสิทธิพร จำเลย ซึ่งขับรถยนต์คัมรีสีดำ เกิดขับปาดหน้ารถยนต์ของหญิงผู้เสียหายอายุ 64 ปี หลังจากที่ได้ออกมาจากปั๊มน้ำมัน และเมื่อถึงทางร่วมที่ใกล้กับทางสามแยกเทคนิคกรุงเทพ ถ.สวนพลู เขตสาทร ได้พยายามขอทางเข้าไปในเลน แต่เมื่อเข้าทางไม่ได้จึงนำอาวุธมีดออกมาข่มขู่ ลักษณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้และจะเข้าทำร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการเผยแพร่คลิปขณะก่อเหตุตามสื่อโซเชียลต่างๆ 

ซึ่งหลังเข้ามอบตัว พนักงานสอบสวนทุ่งมหาเมฆได้แจ้งข้อหาพร้อมนำตัวส่งอัยการเพื่อยื่นฟ้องด้วยวาจา โดยคำฟ้องระบุว่า เมื่อเวลากลางวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา จำเลยใช้มีดความยาวรวมด้าม ประมาณ 1 เมตร ตวัดไปโดนประตูรถยนต์บีเอ็มดับบลิว (BMW) ของผู้เสียหาย 1-2 ครั้ง ทำให้ขอบกระจกโครเมี่ยม และกระจกเสียหายประมาณ 20,000 บาท ซึ่งการที่จำเลยพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะนั้น เป็นความผิดและยังถือมีดเดินเข้าหาผู้เสียหายที่กำลังนั่งอยู่ในรถฝั่งคนขับ โดยจำเลยพยายามจะเปิดประตูรถ ยืนพูดโวยวายข่มข่มขู่ และจำเลยยังได้ขับรถยนต์ทั้งที่ใบขับขี่หมดอายุ โดยขณะเกิดเหตุยังขับรถแซงหน้ากระชั้นชิดและจอดรถกีดขวางทางในลักษณะไม่ปลอดภัย 

ภายหลังยื่นฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ให้เรียงกระทงลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ จำคุก 4 เดือน, ฐานทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวโดยขู่เข็ญ จำคุก 1 เดือน, ฐานขับรถโดยใบอนุญาตหมดอายุ ให้ปรับ 1,000 บาท, ฐานขับรถไม่เข้าทางซ้าย ปรับ 500 บาท และฐานขับรถกีดขวางทางในลักษณะไม่ปลอดภัย ปรับอีก 500 บาท รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 5 เดือน และปรับ 2,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 เดือน 15 วัน และปรับ 1,000 บาท และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ของจำเลยแล้ว ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย และการใช้อาวุธมีดดาบเป็นกรณีร้ายแรง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป จึงไม่สมควรให้รอการลงโทษ

โดยเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว นายสิทธิพร จำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงิน จำนวน 53,500 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลแขวงพระนครใต้พิจารณาแล้ว สั่งให้ส่งคำร้องขอประกันตัวดัวกล่าวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาสั่งประกันหรือไม่ประกันต่อไป โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าศาลอุทธรณ์จะพิจารณาคำร้องและมีคำสั่งออกมา 

ดังนั้น เมื่อวันนี้ศาลยังไม่ได้มีคำสั่งผลประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวนายสิทธิพร จำเลย ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนระหว่างรอผลประกันช่วงสัปดาห์หน้า