ลากยาวนาฬิกาหรู! ป.ป.ช.อ้างขอข้อมูล'ตปท.' ชาวบ้านยกบิ๊กป้อมอัศวิน


เพิ่มเพื่อน    

    นาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม" ส่อเค้ายาว "ป.ป.ช.” ขอซีเรียลนัมเบอร์จากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ยอมรับต้องเสียเวลา ด้านเจ้าตัวลงพื้นที่อีสาน แจกโฉนดช่วยคนจน ชาวบ้านนับพันตั้งแถวรับ ตะโกนสู้ๆ บอกเป็น "อัศวิน" คดีหุ้นสัมปทาน 7 รมต.ส่อแววผ่านฉลุย 
    เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีองค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ตั้งข้อสังเกตถึงการยื้อเวลาการตรวจสอบเรื่องการถือครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าเป็นความเห็นของบุคคล แต่ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีการช่วยเตือน ช่วยแนะนำ ทางคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริงกำลังทำงานอยู่อย่างเต็มที่ พยายามหาข้อมูลและหลักฐานมาประกอบในการตอบกับสังคมให้ได้ครบถ้วน เพราะการตอบต่อสังคมเป็นสิ่งสำคัญ คนรับผิดชอบคือ ป.ป.ช. ดังนั้นขอให้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน 
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สังคมไว้วางใจ ป.ป.ช.น้อยลงจนจะติดลบแล้ว พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงกรณีเดียว แต่งาน ป.ป.ช.มีมากมายหลายเรื่อง ทั้งนี้ ความศรัทธาและความเชื่อมั่นต่อองค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าทำงานอย่างเร่งรัดและผลที่ออกมาไม่ครบถ้วน จะเกิดความเสียหายอยู่ดี สังคมจะมองได้อีกว่ามีแต่ความเร่งรัดรีบเร่ง ดังนั้น ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทำงานได้ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน มุ่งมั่นที่จะตอบสังคมให้ได้เท่านั้น 
    เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่สามารถขอข้อมูลนาฬิกาจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยได้ ทั้งที่ ป.ป.ช.มีอำนาจทำได้ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เท่าที่รับฟังจากกรรมการ ป.ป.ช.ที่รับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าขอไม่ได้ แต่เพราะตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยเขาไม่มีข้อมูล โดย ป.ป.ช.ได้สอบถามข้อมูลถึงซีเรียลนัมเบอร์ของนาฬิกาเรือนต่างๆ แต่เขาแจ้งว่าไม่มีข้อมูล ไม่ได้ขายนาฬิการุ่นนี้ ดังนั้น ป.ป.ช.จึงต้องขอข้อมูลจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ซึ่งยอมรับว่าต้องเสียเวลา แต่ถ้าจะไม่ขอไปก็จะไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วน
    เมื่อถามว่า มีโอกาสที่บริษัทแม่จะให้ข้อมูลหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะเป็นความร่วมมือในฐานะที่เขาเป็นบริษัทข้ามชาติ ต้องดูว่าเขามีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ว่านาฬิกายี่ห้อนี้ ซีเรียลนัมเบอร์นี้ ใครเป็นตัวแทนจำหน่ายที่รับไปหรือไม่ เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าผ่านมานานแล้ว เหตุใด ป.ป.ช.จึงไม่ตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปก่อน พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า มันไม่มีเหตุที่จะต้องไปตั้งอนุกรรมการไต่สวน และไม่ใช่ว่าทุกเรื่องจะต้องไปตั้งอนุกรรมการไต่สวน การจะตั้งได้เราต้องมีข้อมูลจากการแสวงหาข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในชั้นคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อหาให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง จึงต้องสอบถามไปยังบริษัทแม่ที่ขายว่าได้กระจายไปยังตัวแทนจำหน่ายใด และประเทศใด
    ด้านนายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ไปหาข้อมูลให้ครบถ้วน ยืนยันว่าดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้คณะทำงานได้ข้อมูลจากในประเทศครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงข้อมูลที่จะต้องขอจากต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้ความสัมพันธ์และกฎหมายระหว่างประเทศ ต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย ถ้าไม่ได้ ข้อมูลที่ ป.ป.ช.มีอยู่ก็สามารถจะสรุปเรื่องได้ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตรวจสอบไปหมดแล้ว แต่ไม่ถึงขั้นอายัดนาฬิกาเพื่อมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากนาฬิกาทั้งหมดผลิตจากต่างประเทศ จึงต้องขอข้อมูลเพื่อให้ความสมบูรณ์ คงต้องรอสักระยะหนึ่ง
    ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะได้เดินทางไป จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน หลังจาก 12 จังหวัดในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) มีประชาชนร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากการเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมาก  
    พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม กล่าวว่า ตำรวจได้ขยายผลสืบสวนลูกหนี้ โดยสามารถเอาผิดกับผู้ปล่อยกู้ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและอุดรธานี สามารถช่วยเหลือและมอบโฉนดที่ดินคืนให้ผู้เสียหายได้แล้วกว่า 150 ราย มูลค่าเกือบ 140 ล้านบาท ทั้งนี้  พล.อ.ประวิตรได้ร่วมมอบโฉนดที่ดินคืนแก่ชาวบ้านและเกษตรกรกว่า 150 ราย หลังจากนั้นได้ชื่นชมการปฏิบัติงานของ บช.ภ.4 ที่ริเริ่มจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และเอาผิดกับผู้ปล่อยกู้นอกระบบได้ พร้อมสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำแนวทางศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ ไปปรับใช้กับทุกสถานีตำรวจในพื้นที่  
    ทั้งนี้ หลังการส่งมอบคืนโฉนดที่ดินให้ประชาชนทั้งหมด พล.อ.ประวิตรได้พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับกว่า 2,000 คน โดยล้วนต่างส่งเสียงเชียร์ว่า "นายกฯ ประยุทธ์ สู้ๆ" และ "ประวิตร สู้ๆ" อยู่ตลอดเวลา ขณะที่ผู้ที่ได้โฉนดที่ดินคืนล้วนต่างเข้ามาสวมกอดและหอมแก้ม พล.อ.ประวิตร และกล่าวคำขอบคุณทั้งน้ำตา มีการผูกผ้าขาวม้าและสวมพวงมาลัยดอกดาวเรืองตามธรรมเนียมของชาวอีสาน 
    ตัวแทนของผู้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ดังกล่าว ระบุว่า ขอขอบคุณท่านที่ช่วยขับเคลื่อนให้แก้ไขปัญหาในวันนี้ พวกเราเหมือนคนที่มีความมืดมนในใจ แล้วมีแสงสว่างปลายอุโมงค์มาช่วย ท่านเปรียบเหมือนอัศวิน และก็ขอให้ท่านอย่าลืมชาวอีสานนะ เพราะยังมีทุกคนรอคอยความช่วยเหลือจากท่านอยู่ และทุกคนในประเทศไทยก็กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากท่านอยู่เช่นกัน
    วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การตีความกฎหมายที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย” ตอนหนึ่งว่า กรณีมีคนส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหารัฐมนตรี 8 คน ซึ่งมีตนเองรวมอยู่ด้วย โดยกล่าวหาว่าพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ในกรณีของตนเองนั้น แตกต่างกับอีก 7 คน เพราะไม่ต้องตีความ เนื่องจากมีการร้องว่าพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะมีกฎหมายเขียนว่ารัฐมนตรีต้องไม่ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ ซึ่งตนเองเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยมา 10 ปี แล้ว และปัจจุบันยังเป็นอยู่ ซึ่งคนที่ร้องคงลืมว่า ในรัฐธรรมนูญมีมาตราหนึ่งที่ระบุว่า บรรดาข้อห้ามที่เขียนในรัฐธรรมนูญไม่ใช้บังคับกับรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ แต่บังคับใช้กับรัฐบาลถัดไป ดังนั้นกรณีนี้จึงจบไป 
    นายวิษณุกล่าวอีกว่า กรณีอีก 7 คนถูกร้องเรียนว่าถือหุ้นกับบริษัทที่ได้สัมปทานกับรัฐ ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนว่า รัฐมนตรีจะถือหุ้นหรือมีหุ้นส่วนในบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ได้ รวมทั้งคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หากมีต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทั้ง 7 คนมีหุ้นจริง แต่มีหุ้นมาก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งก่อนเข้าดำรงตำแหน่งไม่ได้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกไป ขณะที่ สนช.ที่ถือหุ้นสัมปทานก็มีเป็นร้อยคน แต่ยังไม่มีใครร้อง ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว กกต.พิจารณาหลายเดือน และมีข้อสรุปไม่นานมานี้แล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม ซึ่งเป็นการตีความและวินิจฉัยว่าไม่ผิด
    "กกต.มีคำวินิจฉัยมาแล้วว่าทั้ง 7 รัฐมนตรีไม่ผิด  ยกเว้นนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ที่ เป็นเรื่องการถือหุ้นสัมปทานเกิน 5% ซึ่งไม่เกี่ยวว่าเป็นการถือหุ้นก่อนหรือหลังเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย" นายวิษณุกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"