ตรวจสอบข้อมูล กรณีซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้นเสร็จแล้ว พบมีเรื่องเข้าข่ายไม่ชอบมาพากล" โกศล"เผย ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นคนลงนามและใครเป็นผู้สั่งการ แย้ม มีผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 คน ทั้งผู้บริหารระดับสูง 2คนและเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน ด้าน “อรรถพล” เตรียมสรุปสำนวนการตรวจสอบทั้งหมด เสนอให้ “รมว.ศธ.” พิจารณา

พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ปรึกษา รมว.ศธ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ฝึกทักษะมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในงบประมาณ 6 แสนบาทต่อโรงเรียน วงเงิน 279 ล้านบาท ของเขตพื้นที่การศึกษาในภาคอีสาน ว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้มารายงานให้ตนรับทราบว่า ขณะนี้การดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งพบว่ามีเรื่องที่เข้าข่ายความไม่ชอบมาพากลในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการยืนยันตัวอย่างครุภัณฑ์จากสำนักอำนวยการของ สพฐ.ที่ถูกต้องตามแบบอย่างชัดเจน แต่เอกสารถูกส่งไปยังโรงเรียนกลับมีการเพิ่มถ้อยคำในเอกสาร 5-6 บรรทัด ซึ่งถือว่าแน่ชัดแล้วว่ามีการล็อคสเปกอย่างแน่นอนตรงจุดนี้  

“นอกจากนี้ยังมีเรื่องการจัดสรรครุภัณฑ์ก็ไม่เป็นไปตามที่โรงเรียนร้องขอ ส่งผลทำให้ราชการเสียหาย โรงเรียนที่จะต้องได้ครุภัณฑ์กลับไม่ได้ และบริษัทที่ผ่านระบบ E- Bidding จนได้มาประมูลงานก็ได้รับความเสียหาย เพราะงบประมาณตกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการที่งบประมาณตกไปนั้นก็ถือได้ว่า สพฐ.ทำผิดวินัยการเงินการคลัง ทั้งๆ ที่การจัดสรรงบประมาณดังกล่าวรัฐบาลได้มีการขยายเวลาให้หลายครั้ว แต่กลับเตะถ่วงไม่ดำเนินการจนในที่สุดงบประมาณก็ตกไป”ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเซ็นงบประมาณจำนวน 279 ล้านบาท ไปให้เขตพื้นที่ ทั้งๆที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. สั่งให้ชะลอ เพราะพบความไม่ชอบมาพากลนั้น ได้มีการตรวจสอบหรือไม่  พล.ท.โกศล กล่าวว่า ในประเด็นนี้หากถามว่าใครเป็นคนลงนามในคำสั่งและใครเป็นผู้สั่งการนั้นยังไม่ได้ชี้ชัด แต่ยอมรับว่าผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีความโยงใยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีทั้งหมด 4 คน คือ ผู้บริหารระดับสูง ของ สพฐ. 2 คน และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงาน 2 คน โดยขั้นตอนต่อจากนี้นายอรรถพล จะสรุปสำนวนการตรวจสอบทั้งหมดมาให้ตน เพื่อนำเสนอให้ รมว.ศธ. พิจารณา และสำหรับการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย หรือ จะตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงอีกครั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ รมว.ศธ.เอง เพราะหาก รมว.ศธ.มองว่าข้อมูลการสรุปสำนวนในชั้นนี้มีหลักฐานความผิดชัดเจนแล้วก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได้ทันที

--------------