แอมเนสตี้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงทางการไทย แสดงข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนหลังประเทศไทยรื้อฟื้นและหันกลับมาใช้การประหารชีวิตอีกครั้งหลังจากไม่มีการใช้มานานเกือบ 9 ปี
สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ทางการไทยจัดทำข้อตกลงชั่วคราวเพื่อพักใช้การประหารชีวิตอย่างเร่งด่วน และมีมาตราการเพิ่มเติมเพื่อขจัดโทษประหารชีวิตออกจากกฎหมายไทยสำหรับความผิดทุกประเภท
แคทเธอรีน เกอร์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยเนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งเดือนหลังจากมีการประหารชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบเกือบเก้าปีว่า ทางการไทยต้องตระหนักว่าโทษประหารชีวิตไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบยุติธรรมทางอาญา และต้องยุติแผนการที่จะใช้การประหารชีวิตอีก
ในจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรียุติธรรมของไทย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโทษประหารชีวิต หลังมีการประหารชายอายุ 26 ปีด้วยการฉีดยาในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 นับเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552
แคทเธอรีนกล่าวเสริมว่า ไม่ว่าจะเป็นความผิดแบบใด ไม่ว่าจะเป็นนักโทษคนไหน หรือไม่ว่าจะใช้วิธีประหารชีวิตแบบใด ไม่มีเหตุผลใดที่สร้างความชอบธรรมในการใช้โทษประหารชีวิต เพราะถือว่าเป็นการลงโทษที่เลวร้าย และไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบยุติธรรมทางอาญา
“รัฐบาลไทยต้องยืนยันพันธกิจของตนที่มีต่อสิทธิมนุษยชน โดยการทำข้อตกลงชั่วคราวเพื่อพักใช้การประหารชีวิตโดยทันที ซึ่งถือเป็นก้าวย่างแรกที่นำไปสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิตในที่สุด เพราะในความเป็นจริงแล้ว โทษประหารชีวิตไม่ได้ส่งผลให้มีการยับยั้งการกระทำความผิด และไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวรสำหรับญาติของผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม โทษประหารชีวิตไม่ได้เป็นทางออกใดๆ เลย”