'แดงอีสาน' โดมิโนการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

      "สามมิตร" ชื่อนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ

      เพราะกำลังเล่นบทหอกข้างแคร่ เขย่าทักษิณ

      เขาบอกว่าเศรษฐกิจมีวงรอบ

      ขาขึ้นก็รวยกันเละ

      เมื่อไหร่ถึงขาลง น้ำตาเช็ดหัวเข่า

      การเมืองก็ไม่ต่างกัน มีวงรอบ จะเรียกว่าวงจรอุบาทว์หรือไม่ก็ตามแต่

      แต่ในโลกความเป็นจริง พรรคการเมืองเกิดแล้วดับ มีมาโดยตลอด

      หากพรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่พรรคตัวแทนประชาชน  

      เป็นพรรคนายทุน หรือไม่ก็พรรคทหาร

      ใช่ครับ...ถ้าจะบอกว่า พรรคพลังประชารัฐ จะมีจุดจบไม่ต่างจากพรรคเฉพาะกิจอื่นๆ ที่ตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้

      เพียงแต่อาจมีอายุยืนยาวแตกต่างกันออกไป

      บางพรรคเทอมเดียววงแตก

      บางพรรคแจกไว้เยอะ ก็อยู่นานหน่อย

      โดยรวมแล้ว ทุกพรรคที่อยู่ในข่ายนี้ มีจุดกำเนิดไม่ต่างกันนัก

      ดูด ส.ส.

      พรรคเสรีมนังคศิลา หรือที่รู้จักกันว่า พรรคอุดมสตางค์ ใช้เงินหว่านซื้อตัวผู้แทน ทุ่มซื้อเสียงจนการเลือกตั้งเมื่อปี ๒๕๐๐ ถูกเรียกว่า

      การเลือกตั้งสกปรกกึ่งพุทธกาล

      จาก ๘๖ เก้าอี้ เหลือแค่ ๔ ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งถัดมา

      พรรคเสรีมนังคศิลาก็หายวับกับตา

      แต่ตัวสมาชิกไม่ได้หายไปไหน ไปโผล่ที่พรรคสหประชาไทย ที่จอมพล ถนอม กิตติขจร ดูดมาจาก พรรคเสรีมนังคศิลา ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จนชนะการเลือกตั้งในปี ๒๕๑๒

      เปรียบแล้วคล้ายๆ พรรคสามัคคีธรรม ที่ถอดแบบมาจากพรรคเสรีมนังคศิลา

      ใช้เงินระดม ส.ส.เข้าพรรคตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนแกนนำ รสช.

      อายุไม่ได้ยืนยาว หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แตกฉานซ่านเซ็นไปหลายพรรค

      มีทั้ง ชาติไทย เสรีธรรม ความหวังใหม่ เอกภาพ ชาติพัฒนา ฯลฯ

      และการมาของพรรคไทยรักไทย ดูดเอา ส.ส.จากพรรคที่แตกมาจากพรรคสามัคคีธรรม

      ที่ต่างไปจากเสรีมนังคศิลา สหประชาไทย และสามัคคีธรรมคือ "ทักษิณ" ใช้วิธีซื้อทั้งพรรค ดูดเหี้ยนไม่มีเหลือ

      หลายพรรคถึงกับต้องเรียกประชุม เพื่อมีมติยุบพรรค แม้จะมีเสียงด่าไล่หลังว่า "ทรยศ" บรรพบุรุษ ก็ตามที

      จากไทยรักไทย พลังประชาชน มาถึงเพื่อไทย นักการเมืองยังเป็นคนเดิม หรือไม่ก็เปลี่ยนถ่ายให้ทายาทในตระกูลเล่นแทน

      การมาของ พรรคพลังประชารัฐ ย่ำรอย ทั้ง เสรีมนังคศิลา สหประชาไทย สามัคคีธรรม และไทยรักไทย 

      ดี-เลว ไว้แยกย่อยกันอีกที

      แต่...นั่นคือการก่อเกิดพรรคการเมืองในกลุ่มนี้

      เมื่อเข้าใจทั้งหมดนี้แล้ว.....

      การจะอธิบายว่า ที่บรรดาสมุนทักษิณ ในพรรคเพื่อไทย ออกมาตะโกนด่าว่า รัฐบาล คสช.เดินสายดูด ส.ส. นั้นก็ง่ายขึ้น

      ก็ให้รู้ว่า....

      คนพวกนี้เคยทำมาก่อน!

      และหลายคนเป็นฝ่าย "ถูกดูด" จากพรรคเก่ามาด้วยซ้ำ

      ใช่...มันคือการเมืองแบบเก่า

      พรรคเพื่อไทยดูจะเป็นเดือดเป็นแค้นมากที่สุด หาว่านั่นไม่ใช่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย

      เป็นการดูดเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร คสช.     

      ก็ว่ากันไป....

      แต่หากย้อนกลับไปสมัยพรรคไทยรักไทย การดูด ส.ส. การควบรวมพรรคการเมือง มันจบที่ผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย

      ผลจากการรวมพรรคเป็นไทยรักไทย ประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้จารึกไว้ว่า เป็นยุคที่มีการโกงกันมากที่สุด

      โกงถึงระดับดีเอ็นเอ

      โกงลามไปถึงระดับฐานเสียง

      โกงไม่เป็นไรขอให้แบ่งกัน

      นั่นคือผลงานที่ระบอบทักษิณทิ้งเอาไว้

      และมาถึงยุค "สามมิตร" ที่ร่วมสังฆกรรมกับระบอบทักษิณมาก่อน

      วันนี้กำลังเดินสายดูด นักการเมือง เข้าสังกัดพรรค พลังประชารัฐ

      ถามว่าทำไมต้องเดินเส้นทางนี้?

      "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นเอง!

      ตกปลาบ่อเพื่อน ก็ถูกตกกลับ

      บางคนอาจไม่รู้ว่า ภาพรวมของการก่อกำเนิด พรรคพลังประชารัฐ อาจต้องย้อนกลับไปดู "พรรคชาติพัฒนา" เฟสสอง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๐

      แกนนำพรรคมีใครบ้าง

      สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, ดร.พิจิตต รัตตกุล, รศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์, นายอุทัย พิมพ์ใจชน, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

      โฟกัสไปที่ รศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ 

      ๒ คนนี้ คือ จิกซอว์สำคัญ

      รศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ คือแกนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีศูนย์กลางอยู่ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

      ส่วน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์  คือแกนกลางของกลุ่มสามมิตร และพรรคพลังประชารัฐ

      จะบอกว่านี่คือแม่น้ำสายที่ ๖ และ ๗ คงไม่ผิดนัก

      กลุ่มสามมิตร ไม่ได้ดูด นักการเมืองในพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการเขย่าระบอบทักษิณ

      ก็ไม่แปลกที่แกนนำพรรคเพื่อไทยพากันโจมตีการดูดในครั้งนี้ว่า เล่นการเมืองแบบเก่า ล้าหลัง  เพราะรู้ดีว่านี่คือชะตากรรมที่ต้องเจอ

      หลังทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์ดูด และถูกดูด มาแล้วทั้งสิ้น

      ประเด็นที่เริ่มมีการพูดถึงกันมากคือ กลุ่มสามมิตร เจาะฐานแดงอีสาน ผ่านผู้นำมวลชนแดงโดยตรง

      เพราะคนเหล่านี้คือคนกุมเสียงมวลชนที่แท้จริง

      กับประโยคคุ้นๆ ผิดจากเราไม่ใช่แดง หรือ แดงเทียม แดงปลอม

      แกนนำแดง หัวโจก นปช.ที่นั่งอยู่ในเมืองหลวง ใช้บ่อย เมื่อเห็นว่าแดงภูธรแตกแถว

      เช่นที่ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ใช้กับแดงสุรินทร์ว่า เป็นแดงเทียม เพราะหันไปซบกลุ่มสามมิตร

      ไฮไลต์ของเรื่องอยู่ที่ "เทพพนม นามลี" แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สุรินทร์

      ย้อนศรได้เจ็บแสบ

      ประชาธิปไตยคืออะไร?

      ตั้งคำถามไว้น่าสนใจ หลังถูก ณัฐวุฒิ ด่าเช็ด เป็นการผละจากขบวนการประชาธิปไตยไปอยู่ในกลไกสืบทอดอำนาจ

      ".....ที่นายณัฐวุฒิ ที่ยืนยันนักหนาว่าทำเพื่อประชาธิปไตย เคยมีการเลือกตั้งเข้าไปเป็นแกนนำ นปช.หรือไม่ ซึ่งไม่มีเลย นายณัฐวุฒิแต่งตั้งตัวเองขึ้นมาโดยตรง และแกนนำที่อยู่เคียงข้าง ก็มีแต่พวกมาจากการแต่งตั้งทั้งนั้น ใครไม่มีเส้นไม่มีสาย ไม่มีทางได้ขึ้นเวทีพูดแน่นอน

        ดังนั้นจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นรักประชาธิปไตยจริง ขณะที่ผมเองนั้น เป็นแกนนำ นปช.สุรินทร์ ที่มาจากการเลือกตั้งของสมาชิก นปช.สุรินทร์กว่า ๒๐,๐๐๐ คน แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า นปช.เทียมได้อย่างไร...."

      ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม ทุกอย่างชัดเจนไม่ว่าจะมองมุมไหน

      จากนี้ต้องจับตาแรงกระเพื่อม เพราะพรรคเพื่อไทยยิ่งด่า แดงอีสานยิ่งถอยห่าง กระทบเป็นโดมิโน

      คาดหวังอะไรจากกลุ่มสามมิตร ภายใต้การนำของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน?

      ลืมเรื่องปฏิรูปการเมืองไปก่อน เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้แน่นอน

      นี่คือความเป็นจริงของการเมืองไทย

      กลุ่มสามมิตร ไม่ใช่ฮีโร่การเมืองไทย แต่นี่คือกลุ่มนักการเมืองที่ร่วมสร้างตำนานโคตรโกงกับระบอบทักษิณ

      แล้วที่พูดกันมาเยอะแยะจะได้อะไร?

      คำตอบคือไม่รู้ เหมือนที่ผ่านๆ มา ดี-เลว แยกได้เมื่อนักการเมืองปล้นชาติไปแล้ว

      แต่...วันนี้เริ่มมีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า นั่นคือ กลุ่มสามมิตร กำลังเป็นสาเหตุในการล่มสลายของระบอบทักษิณ

      จะหนีเสือปะจระเข้หรือไม่นี่ก็ยังตอบไม่ได้

      แต่รัฐบาลหน้ามาจากการเลือกตั้ง และได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยในสายตาฝรั่งต่างชาติแน่นอน

      ครับ...เย็นวานนี้ (๑๘ กรกฎาคม) ดูรายการเดินหน้าประเทศไทย ถ่ายสดสัมภาษณ์ทีมหมูป่าจนจบ  คุณสุทธิชัย หยุ่น รับบทเป็นพิธีกร

      ความจริงเรื่องเล่าจากถ้ำมีทั้งเฮฮา และน่ากลัว แต่ได้ข้อสรุปอยู่ข้อหนึ่งนั่นคือ...

      อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท

      และฉับไว ปานกามนิตหนุ่ม หลัง "ป๋าเปลว" เกริ่นเรื่อง คอลัมน์ "กาแฟดำ" ของคุณสุทธิชัย จะมาประจำการที่ไทยโพสต์ 

      ไม่พูดพร่ำทำเพลง คุณสุทธิชัยส่งต้นฉบับมาเรียบร้อย ลุยกันเลย!

      ที่หน้า ๓ ไทยโพสต์

      นอกจากต้นฉบับแล้ว คุณสุทธิชัยยังส่งข้อความสั้นๆ ถึง "ป๋าเปลว" ว่า

      ...คุณต้องเป็น The Last Man Standing นะครับ ห้ามถอย!

                                                   ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"