ลุ้นแบงก์กลับมาฟื้น


เพิ่มเพื่อน    


    ถึงฤดูกาลประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประจำงวดไตรมาส x2 ปี 61 และงวดครึ่งปีแรกของปี 61 แล้ว ซึ่งได้เริ่มแจ้งไปแล้ว 2 แห่ง คือ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LHBANK) โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทั้ง 2 แห่ง สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาดที่มองกันว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์จะโดนหางเลขจากการยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล และในไตรมาส 2 นี้ จะโดนแบบเต็มๆ เลยทีเดียว
    สำหรับผลการดำเนินงานของ TISCO งวดครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 3,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 479 ล้านบาท หรือเติบโต 16.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวดไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 1,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204 ล้านบาท หรือเติบโต 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน LHBANK ครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 1,577.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1% และไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 806.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
    โดยก่อนหน้านี้ ทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยกเว้นค่าธรรมเนียม สำหรับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด และเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่การตั้งสำรองกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้โอกาสการปรับลดการตั้งสำรองน่าจะมีจำกัด
    นอกจากนี้ยังคาดว่าธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) จะได้รับผลกระทบสูงสุดจากการยกเว้นค่าธรรมเนียม ซึ่งจะมีกำไรลดลงมากที่สุด 19% จากไตรมาสก่อนหน้า รองลงมาคือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ลดลง 14% และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ลดลง 10% ส่วนธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) อาจทำรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์เอไอเอ และสัดส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ต่ำกว่า ทำให้คาดว่ากำไรลดลงเพียง 6%
    ขณะที่ผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กมีน้อยกว่า แต่ยังมีปัญหา โดยคาดว่ารายได้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KKP) อาจหดตัวลง 1% เนื่องจากรายได้จากตลาดทุนมีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามราคาสินทรัพย์ที่ผันผวนในไตรมาส 2 ปี 61 ส่วนธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) ที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่หมดอายุ อาจทำให้กำไรสุทธิลดลง 10%
    ด้าน บล.เอเซีย พลัส คาดว่ากำไรไตรมาส 2 ปี 61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งที่ศึกษาจะอยู่ที่ 46,600 ล้านบาท ลดลง 11% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังเพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียม สำหรับธุรกรรมออนไลน์ที่หายไปในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ส่งผลให้คาดการณ์รายได้ค่าธรรมเนียมไตรมาส 2 ปี 61 ลดลง 10.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 0.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
    แต่ยังมีตัวช่วยในช่วงครึ่งปีหลังที่จะได้รับปัจจัยบวกจากสินเชื่อ มาช่วยหักล้างผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังเป็นทิศทางลงต่อเนื่องได้บางส่วน เนื่องจากแรงส่งการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐ การใช้จ่ายของภาคเอกชนและภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกที่ยังเติบโตต่อเนื่อง จะส่งผลบวกต่อแนวโน้มความต้องการสินเชื่อในปี 61-62 เดินหน้าฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 60 นำด้วยการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่
    ขณะเดียวกัน ล่าสุดยังได้รับข่าวดีที่จะช่วยกลบข่าวร้ายจากการคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 จะลดลง และต่ำสุดของปี คือ คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ได้มีการเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (ไอเอฟอาร์เอส 9) ไปเป็นต้นปี 63 ซึ่งทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เกือบจะร่อแร่ตั้งแต่ยังไม่ประกาศงบการเงิน มีแรงกระเตื้องขึ้นมาสดใสได้บ้าง
    แต่ถึงอย่างไรก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ยังไม่ประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี แต่ยังวางใจได้บ้าง เนื่องจากนักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงเลือกหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มแนะนำ หลังจากมีแนวโน้มว่าในปีหน้า อัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายประเทศอาจจะต้องมีการพิจารณาปรับขึ้นตาม และถึงแม้ไตรมาส 2 นี้ กำไรจะไม่สวยงามอย่างที่คิด เชื่อว่าในอีกไม่ช้า กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแน่นอน.  

ปฏิญญา มั่งคั่ง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"