ศาลสั่งจำคุกกราวรูด แก๊งต่างชาติร่วมกับคนไทยค้ามนุษย์ ลวง 4 หญิงชาวโมร็อกโกมาค้าประเวณีซอยนานา จำคุกหัวหน้าแก๊งสัญชาติออสเตรเลียเจ้าของผับ "ดรีมดิสโก้" 19 ปี ที่เหลืออีก 4 คนเจอคนละ 16 ปี
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไมเคิล เพิร์ล อายุ 46 ปี ชาวซูดาน สัญชาติออสเตรเลีย, นายแคสสัน วาคีย์ สัญชาติซีเรีย อายุ 37 ปี, นายฉลาด หรือชัยรัตน์ นราจันทร์ อายุ 63 ปี, นายอารีย์ หรือชยากร เอี่ยมสารี อายุ 41 ปี และนางฮานา เตายูรี สัญชาติโมร็อกโก อายุ 38 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณีฯ
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 11 ต.ค.2559-26 มี.ค.2560 นายไมเคิล จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการ "ดรีมดิสโก้" บริเวณชั้น 4 โรงแรมซีนิท ถนนสุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตย เขตวัฒนา กทม. ร่วมกับจำเลยอื่นๆ วางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ ใช้กลอุบายหลอกลวงเป็นธุระจัดหาพาหญิงสาวชาวโมร็อกโก รวม 4 ราย เป็นผู้เสียหายมาค้าประเวณี โดยหลอกลวงว่าให้มาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในประเทศไทย มีรายได้ดี มีความเป็นอยู่สบาย แต่พวกจำเลยกลับบังคับหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขืนใจผู้เสียหายให้ค้าประเวณี เหตุเกิดที่แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ และประเทศโมร็อกโก เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4, 6, 9, 10, 11, 52 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ.2560 มาตรา 3, 4, 6 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 4, 9, 11 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283, 310 โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
วันนี้ จำเลยทั้ง 5 คน ซึ่งได้รับการประกันตัวเดินทางมาศาล
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานและข้อเท็จจริงแล้ว รับฟังได้ว่า จำเลยทั้ง 5 กระทำความผิดจริง พิพากษาว่า จำเลยทั้ง 5 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4, 6 (1), 9 วรรคหนึ่งและวรรคสอง, 10 วรรคหนึ่ง, 11, 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 4, 9 วรรคหนึ่ง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคแรก, 310 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานสมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ จำคุกกระทงละ 2 ปี จำนวน 2 กระทง เป็นจำคุกคนละ 4 ปี ฐานร่วมกันค้ามนุษย์โดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อลวงไปหรือชักพาไปค้าประเวณีฯ ฐานเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นฯ และฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษฐานเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น โดยเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือข่มขืนใจฯ เป็นความผิดที่มีโทษหนักสุด จำคุกกระทงละ 6 ปี จำนวน 2 กระทง เป็นจำคุกคนละ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนเฉพาะจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 4, 11 วรรคหนึ่ง อีกกระทงหนึ่งด้วย จำคุก 3 ปี รวมจำคุกนายไมเคิล จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 19 ปี ส่วนนายแคสสัน, นายฉลาด, นายอารีย์ และนางฮานา จำเลยที่ 2-5 จำคุกคนละ 16 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
ต่อมาทนายความจำเลยทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาพิจารณาแล้ว เห็นควรส่งคำร้องให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณามีคำสั่งประกันต่อไป เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวจำเลยทั้งห้าไปควบคุมไว้ในเรือนจำ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |