9ม.ค.62ดีเดย์ ประกาศใช้อาหารปลอด"ไขมันทรานส์"อย.ลั่นหลังจากนั้นตรวจเข้มผู้ผลิต


เพิ่มเพื่อน    

 

9ม.ค.62 ดีเดย์ห้ามอาหารมี"ไขมันทราส์"มีผลบังคับใช้  อย.เผยติดตามศึกษาปัญหาไขมันทรานส์อย่างใกล้ชิดมานาน  "ก่อนผลักดันให้ออกเป็นประกาศห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน  ย้ำหลังจากนั้นจะตรวจเข้ม อย่างเคร่งครัด หวังลดจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด

 

18 ก.ค.61- นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึง การออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially hydrogenated oils, PHOs) ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันทรานส์ และอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ว่า ในเรื่องอันตรายจากไขมันทรานส์นี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นปัญหาที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยองค์การอนามัยโลกได้ถือเป็นวาระร่วมกันของทุกประเทศในการหาแนวทางแก้ไข ซึ่งไขมันทรานส์เป็นไขมันไม่อิ่มตัว สามารถพบได้ทั้งในธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์เคี้ยวเอื้อง นม เนย ชีส และ เนื้อสัตว์ และจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนลงในน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ซึ่งจะพบไขมันทรานส์ได้ในอาหารสำเร็จรูปที่มีเนยเทียม หรือเนยขาวเป็นส่วนประกอบ เช่น โดนัททอด พัพ พาย เพสตรี เค้ก คุกกี้ เวเฟอร์ เป็นต้น อันตรายจากไขมันทรานส์คือ ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวน โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผลให้ระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 

นพ.วันชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ ในปี 2559 อย. ได้ร่วมกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยใช้งบประมาณของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ดำเนินโครงการ “ประเทศไทยปลอดไขมันทรานส์” สำรวจข้อมูลปริมาณไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์  น้ำมันและไขมัน และผลิตภัณฑ์อาหาร รวมทั้งจัดประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการไขมันและน้ำมัน และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อหาแนวทางในการลดหรือพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่ใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งผู้ผลิตน้ำมันและไขมันยืนยันถึงความเป็นไปได้ในการปรับสูตรและกระบวนการผลิตน้ำมันและไขมัน โดยใช้กระบวนการผสมน้ำมัน (Oil blending) แทน และผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารได้พัฒนาและปรับปรุงสูตรส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหาร โดยไม่ใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนแล้ว


จากผลการศึกษา อย. จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมและกำกับดูแลไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร โดยออกเป็น “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย” ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย รวมถึงการผลิตเพื่อการส่งออกด้วย 


"ทั้งนี้ ไม่ได้ห้ามการตรวจพบไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร เนื่องจากอาจมีการใช้วัตถุดิบที่มีไขมันทรานส์ตามธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ และภายหลังจากที่ประกาศฯ มีผลใช้บังคับ อย. จะดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวัง ณ สถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า หรือสถานที่จำหน่ายอย่างเข้มงวด หากพบการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของผู้บริโภคไม่ต้องตื่นตระหนก เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารที่จำหน่ายในปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยไม่ใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการไฮโดรเจนบางส่วนแล้ว” เลขาธิการฯ อย. กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"