โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "พลเอกอภิรัชต์" ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ นายกฯ ยันแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 61 ไม่เกี่ยวอะไรกับเลือกตั้ง
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งนายทหารพิเศษ ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายทหารพิเศษ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 10 มาตรา 13 มาตรา 15 และมาตรา 18 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม พุทธศักราช 2561ประกาศ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2561 เป็นปีที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 61 จะมีผลต่อการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่การเลือกตั้งอย่างไรว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารไปเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้ง ตนไม่เข้าใจจริงๆ และที่ถามว่าหลักเกณฑ์การพิจารณา ต้องเพิ่มเติมในประเด็นคุณสมบัติ ผบ.เหล่าทัพ ที่ต้องไปเป็น ส.ว. และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้วยหรือไม่นั้น เรื่องของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติก็เป็นเพียงไม่กี่คนในหลายๆ คน ซึ่งมีนายกฯ เป็นประธาน เขาก็มีหน้าที่ในการติดตามประเมินผลเท่านั้นเอง และมีกลไกหลายอัน ไม่ใช่จะไปก้าวล่วงอำนาจการบริหารของเขา
พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่า การโยกย้ายนายทหารประจำปี เป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ไม่มีปัญหาอะไร อย่าคิดว่าเป็นทหาร เพราะทหารก็คือพวกเราด้วยกันเอง และเป็นส่วนหนึ่งของประชาชน เขาเจริญเติบโตมาในเส้นทางชีวิตราชการ เขาก็ต้องเป็นคนดี ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ไม่ได้ทำเพื่อรักษาอำนาจให้กับใครอะไรที่ไหน เหมือนกับตนที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่จนเป็น ผบ.ทบ. ซึ่งตนก็ทำหน้าที่ตอบสนองรัฐบาลทุกรัฐบาล มันจะไปค้านรัฐบาลได้อย่างไร ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการคัดเลือกคุณสมบัติของผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า ไม่มีคุณสมบัติพิเศษอะไร เพราะเขาเรียนรู้และผ่านงานมามากมาย เหมือนกับตนที่ผ่านงานมามากมายเช่นกัน ยืนยันว่าไม่มีการโยกย้ายเพื่อรับการเมืองโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง โดยคนเก่าๆ ที่มีอาวุโสก็จะมีโอกาสมากกว่า
ผู้สื่อข่าวเมื่อถามว่า ผู้บัญชาการเหล่าทัพในอนาคตจะต้องเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอยู่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนที่ตนเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็ทำหน้าที่หลายอย่าง ไม่ได้รับการคัดเลือกมาจากไหน ไม่เป็นไรหรอก คุณสมบัติที่จบจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รวมถึงผ่านงานมา 30-40 ปีก็ใช้ได้แล้ว
เมื่อถามว่า คนที่จะได้รับเลือก จะต้องอยู่ในตำแหน่งเช่น 5 เสือ ทบ.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ใช่”
พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีพลทหารจากกองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้มาเลี้ยงไก่ นอนในเล้าไก่ และถูกผู้บังคับบัญชาตบหน้าด่าถึงบุพการีหากดูแลไก่ไม่ดีว่า เรื่องทหารตอบซ้ำไปซ้ำมา ตนไม่ตอบซ้ำแล้ว ถามคนโน้นทีคนนี้ที ถามใครไปแล้วคนนั้นเขาตอบก็จบ เพราะเขามีความรับผิดชอบของเขา
ส่วน พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกพลทหารรับใช้ว่า ก็ยกเลิกอยู่แล้ว ไม่มีอยู่แล้ว ซึ่งระเบียบมีชัดเจน คงไม่ต้องออกระเบียบใหม่ ขณะนี้กำลังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการขอตัว คนที่ไปอยู่กับผู้บังคับบัญชาก็มีความสมัครใจกันทั้งนั้น ถ้าไม่สมัครใจก็ไปไม่ได้
ถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเรื่องการให้พลทหารไปรับใช้ แต่เป็นการขอตัวมาช่วยงาน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบว่าเขาดำเนินการอย่างไร ต้องไปถามเขาดู ต่อข้อถามว่าจะมีการตรวจสอบกรณีนี้กับค่ายทหารอื่นๆ ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้อง แต่ถ้ามีเกิดขึ้น ก็ต้องมีการตรวจสอบ
ซักว่ากระแสสังคมเรียกร้องให้ยกเลิกการมีพลทหารรับใช้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ก็ไม่มี แต่เขาขอยืมตัวไป" เมื่อถามย้ำว่า จากนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ให้มีการยืมตัวไปในทางปฏิบัติ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ก็ต้องยอมรับด้วยกันทั้งสองฝ่าย"
รายงานข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยถึงประกาศ ทบ. เรื่องการบรรจุทหารกองประจำการ เข้าประจำการอายุ 18-20 ปีบริบูรณ์ ที่ร้องขอเข้ากองประจำการ ปี 2544 โดยอ้างถึงประกาศของกระทรวงกลาโหม ปี 2543 ระบุว่า กองทัพบกได้กำหนดหลักเกณฑ์ตามประกาศกระทรวงกลาโหม ที่อ้างถึงให้ดำเนินการรับสมัครทหารกองเกินอายุ 18-20 ปีบริบูรณ์ เข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีร้องขอ โดยตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นไป ซึ่งมีนโยบายให้เปิดรับทหารกองเกินที่สมัครใจให้มากที่สุด โดยถือว่าบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่เสียสละ เพื่อสมัครรับเข้ารับราชการทหาร เป็นบุคคลที่มีเกียรติ ควรแก่การยกย่อง และให้บรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งที่มีเกียรติตำแหน่ง และตำแหน่งที่มีความสำคัญในหน่วย เว้นการบรรจุในบางตำแหน่ง เช่น พลบริการ พลสูทกรรม เป็นต้น พร้อมห้ามนำทหารประเภทนี้เป็นทหารฯ บริการเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกองทัพบก จึงขอให้หน่วยขึ้นตรงปฏิบัติอย่างเคร่งครัดกำกับดูแลตามประกาศนี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |