บอลโลกเที่ยวนี้...สามารถหยิบมาใช้เป็นหลักฐาน ข้อพิสูจน์ ถึง วัย และ สังขาร ของตัวเองได้เป็นอย่างดี คือไม่อาจบิดไป-บิดมา เกร็งไป-เกร็งมา ได้เหมือนก่อน แถมบางครั้ง บางคู่ ยังไม่อาจถ่างตาดูได้ชนิดครบทุกคู่ แม้ช่วงเวลาจะแค่ตีหนึ่ง ตีสอง แต่ก็ต้องสิ้นสติไม่สมประดี หลับสนิทนิทราไปก่อนกาล ด้วยเหตุเพราะความแก่ ความชราภาพนั่นแหละทั่น...
------------------------------------------------
ในเมื่ออนิจจัง วัตตะสังขารา เป็นเหตุให้การเชียร์บอล ลุ้นบอล เที่ยวนี้ ไม่ถึงกับคึกคัก โครมคราม กระเหี้ยนกระหือรือ เหมือนดังแต่ก่อน การเชียร์การเมือง ลุ้นการเมือง ก็คงไม่ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันและกันซักเท่าไหร่นัก คือไม่ว่าจะอยู่ในช่วงปลดล็อก-ไม่ปลดล็อก แต่มันออกจะแห้งๆ หรือ แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ ยังไงก็ไม่รู้ ไม่ได้รู้สึก รัก ชนิดอยากจะตามไปแหกทวารดมพรรคหนึ่ง พรรคใด หรือบุคคลหนึ่ง บุคคลใด มากมายซักเท่าไหร่ แม้ว่าบุคคลนั้นจะออกไปทาง โรนัลโด, เมซซี หรือแม้แต่ เอ็มบัปเป ฯลฯ ก็ตามแต่ และก็ไม่ได้รู้สึก เกลียด ใครคนหนึ่ง คนใด พรรคหนึ่ง พรรคใด ชนิดอยากตามไปไล่กระทืบ รุมสกรัม เสียบขาหลัง ดึงเสื้อ มากมายซักเท่าไหร่ แม้ว่าคนเหล่านั้น พรรคนั้นๆ ออกจะเป็นอะไรที่เหลือเกิน หรือเหลือกำลังลากอยู่พอสมควร...
-------------------------------------------------
พูดง่ายๆ ว่า...ความแก่นั้น แม้มันอาจ “เสีย” อยู่หลายอย่าง แต่ก็ดีอยู่อย่าง คือกลายเป็นตัวช่วยให้อะไรมันไม่ออกไปทางสวิงไป สวิงมา หรือออกไปทาง “สุดโต่ง” จนเกินไป เรียกว่า...ไม่ว่าดีหรือชั่ว เก่งไม่เก่ง ฉลาดไม่ฉลาด สุดท้ายแล้ว...ก็คงออกไปทาง “ปลงเสียเถิด...แม่จำเนียร” ไปด้วยกันทั้งสิ้น เพราะความเก่งไม่เก่ง ฉลาดไม่ฉลาด ดีหรือชั่ว ย่อมเป็นอะไรที่ปะปนกันไป กระทำปฏิกิริยาต่อกันและกันไปตามเงื่อนไขและเหตุปัจจัยในแต่ละช่วง แต่ละระยะ ถ้าบางช่วง บางระยะ เงื่อนไข-เหตุปัจจัย มันเอื้ออำนวยให้กับความเก่ง ความฉลาด ทีม ”ตราหมากรุก-โครเอเชีย” ก็อาจสบายไป ผ่านด่าน ผ่านอุปสรรค มาได้แบบหวุดๆ หวิดๆ แต่ถ้าหากบางช่วง บางระยะ เงื่อนไขและเหตุปัจจัยมันไม่เอื้ออำนวยให้ ถึง “เล่นดี” กว่าทีม “ตราไก่-ฝรั่งเศส” ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า แต่ดันไปทำลูกเข้าประตูตัวเอง ลูกบอลหล่นมาใส่มือตัวเองในเขตโทษ ก็เลยหนีไม่พ้นต้อง เจ๊ง ไปตามสภาพ...
------------------------------------------------
บ้านเมือง หรือการเมือง...มันก็คงไม่ต่างอะไรไปจากกันนั่นแหละทั่น ใช่ว่า...สุดท้ายแล้ว คนเก่ง คนฉลาด คนดี จะสามารถคว้าชัยชนะ ผงาดขึ้นมาเป็นแชมป์บอลโลกได้เสมอไป ไม่ว่าจะเป็น ตัวบุคคล หรือ พรรคการเมือง ก็เถอะ จะสลับสับเปลี่ยนกองหน้า กองหลัง กองกลาง จะ ดูด ใครต่อใครเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวจริง-ตัวสำรอง ได้มาก-น้อยขนาดไหน แต่ถ้าหากเงื่อนไข-เหตุปัจจัยมันเปลี่ยนไปจากเดิม หรือเกิดไม่เอื้ออำนวยให้ โรนัลโดก็โรนัลโด เมซซีก็เมซซี...ก็เถอะ เจ๊งไปตั้งแต่รอบแรก รอบตัดเชือก กลายเป็นหลักฐาน ข้อพิสูจน์ ยืนยันถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า เงื่อนไข และ เหตุปัจจัย ได้อย่างดีที่สุด...
------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...การฝากความหวังเอาไว้กับ คน กับ พรรค มันออกจะเป็นอะไรที่เหนื่อย หรือออกจะเป็นอะไรที่พลิกไป-พลิกมา จนยากที่จะไปทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้กับสิ่งเหล่านี้ไปด้วยกันซะทั้งหมด แถมถ้าหากไปทุ่มเท ตามเชียร์ ตามลุ้น กันแบบชนิดสุดจิต-สุดใจ โอกาสที่จะส่งผลให้ตัวเองเกิดความ สุดโต่ง ไปในด้านหนึ่ง ด้านใด เกิดอาการสวิงมา-สวิงไป ชนิด อาร์เจนตินา ตกรอบเมื่อไหร่ ไม่สามารถรับประทานข้าว-ปลา-อาหารไปถึง 3 วันซ้อนๆ อะไรทำนองนั้น ย่อมสามารถอุบัติขึ้นมาได้เสมอๆ แถมยังอาจกลายเป็นตัวปกปิด บิดเบือน ไม่ให้มองเห็นถึง ความหวังใหม่ๆ ที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล กับพรรค แต่เป็นความหวังที่บรรดา กองเชียร์ ทั้งหลาย ร่วมสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวของตัวเอง...
------------------------------------------------
คือความหวังประเภทไม่ว่าบอลแพ้-บอลชนะ แต่ กองเชียร์ ไม่เคยแพ้...อะไรทำนองนั้น ที่ทำให้ ทีมรองบ่อน หลายต่อหลายทีม เกิดลูกฮึด แรงฮึด ขึ้นมา ชนิดใส่เกียร์ห้าวิ่งวนไป-วนมารอบสนาม ตลอดช่วง 90 นาที หรือ 120 นาที รวมทั้งทดเวลาบาดเจ็บเข้าไปอีกซะด้วย เช่น ทีม ซามูไร-ญี่ปุ่น ที่หวิดจะทำให้ ปีศาจแดง-เบลเยียม แทบกลายเป็นผีกระสือ ผีกระหัง เฝ้าสนามแบบหวุดๆ หวิดๆ หรือทีม โสมเกาหลีตังกุยจั๊บ ที่เล่นเอาทีมเต็งหนึ่งอย่าง ไส้กรอก-เยอรมนี ต้องกลายเป็นกุนเชียงเจ๊เล็ก เยาวราช ไปอย่างมิอาจปฏิเสธ บรรดาความหวังเหล่านี้นี่แหละ...ที่ออกจะเป็นอะไรที่น่าทึ่ง น่าประทับใจ เอามากๆ...
----------------------------------------------------
และที่น่าคิด น่าสังเกต รวมทั้งน่าให้ความสำคัญไว้ให้มากๆ เข้าไว้ ก็คือ...ความหวังในประเภทที่ว่านี้นี่เอง มันน่าจะเริ่มปรากฏรูป ปรากฏร่าง พอให้เห็นได้ สัมผัสได้ ภายใน สังคมไทย หรือภายใน ความเป็นไทย อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน ขึ้นไปตามลำดับ ก่อให้เกิด ปรากฏการณ์ แบบแปลกๆ ใหม่ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอำนาจรัฐ ภาครัฐ ภาคเอกชน พรรคการเมือง หรือตัวบุคคลใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อไหร่ที่มันออกอาการ ไทยแลนด์...สู้ๆ ขึ้นมาแล้วล่ะก็ ต้องเรียกว่า...ไม่เพียงแต่น่าทึ่ง น่าประทับใจ ยังเป็นอะไรที่สุดแสนจะมหัศจอรอหันการันยอ ปานประดุจ เล่นของ หรือเล่นงัดเอาพลังเหนือธรรมชาติออกมาใช้เอาเลยถึงปานนั้น...
------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่น่าจะหาทางตบแต่ง ต่อยอด ประคับประคอง สืบสานบูรณาการเอาไว้ให้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่อะไรต่อมิอะไรมันเกิดอาการสวิงมา-สวิงไป หรือ สุดโต่ง ไปในด้านใด ด้านหนึ่ง นำเอาไปก่อรูป ก่อร่าง ให้มันกลายเป็น ความหวัง ที่เป็นจริงหรือที่มีอยู่จริงให้จงได้ ส่วนใครจะเป็น โรนัลโด, เมซซี, เอ็มบัปเป...ฯลฯ อันนั้นก็แล้วแต่พ่อเจ้าประคุณรุนช่องจะไป ดูด ไป ดึง กันตามสภาพเอาเองก็แล้วกัน...
----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Anon... “Sorrow looks back, worry looks round, faith looks up.- ความทุกข์มองไปข้างหลัง ความวิตกกังวลมองไปรอบๆ ความหวังมองสู่เบื้องบน...”
------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |