เซลส์สาวขายรถเลิกงานขับรถกลางดึกไปหาเพื่อนต่างอำเภอ คาดหลับใน ถนนลื่น รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ร่องกลางถนนเสียชีวิตคาที่ อีกราย นักกีตาร์วง "ฟักทองแบนด์" ขับเก๋งอัดท้ายรถพ่วง ตัวเองสาหัส เพื่อนหญิงนักร้องประจำวงกระเด็นออกมาตายนอกรถ
    เมื่อกลางดึกวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ท.จักรภัทร อิ่มหนำ สารวัตรสอบสวน สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก ว่ามีเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ในร่องเกาะกลางถนนสายวังทอง-สากเหล็ก หน้าบริษัท มอนซานโต หมู่ 11 ต.ดินทอง อ.วังทอง มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพา พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 3 กฉ 6218 กรุงเทพมหานคร ชนอัดอยู่กับต้นไม้ในร่องกลางถนน บริเวณที่นั่งคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย คือ น.ส.กฤตพร แก้วดู อายุ 32 ปี อยู่บ้านหมู่ 6 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ สภาพศพมีรอยฟกช้ำที่ลำคอและหน้าอก คาดว่ากระดูกจะหักหลายแห่ง
    จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.กฤตพรเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายบริษัท โตโยต้าเมืองสองแคว จำกัด อยู่หมู่ 4 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก ก่อนเกิดเหตุได้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่บูธจัดแสดงและจำหน่ายรถที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก หลังเลิกงานได้ออกไปกินข้าวกับเพื่อนๆ กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. ได้ขอตัวเดินทางไปพบเพื่อนสาวที่ อ.เนินมะปราง กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว สันนิษฐานว่าอาจหลับในจากความอ่อนเพลียและขับรถมาเพียงลำพัง ประกอบกับถนนลื่นเพราะฝนตกจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ
    ปทุมธานี เวลา 01.40 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.พิเชษฐ ปฤกษา รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมือง รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนท้ายรถพ่วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนสะพานปทุมธานี 1 มุ่งหน้าตัวเมืองปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบรถเก๋งมิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ธษ 8111 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถมีร่องรอยการชน และมีผู้เสียชีวิตกระเด็นออกจากรถนอนอยู่ใกล้กัน ชื่อ น.ส.อลิษา หรือกิ๊ฟ งามสมนึก อายุ 33 ปี นักร้องนำของวง "ฟักทองแบนด์" นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน เป็นคนขับ ชื่อนายสุรเดช เกาะทอง อายุ 23 ปี มือกีตาร์ประจำวง ถูกนำตัวส่ง รพ.ปทุมธานี ส่วนรถพ่วงคู่กรณี หัวพ่วงทะเบียน 81-7437 ชลบุรี ลูกพ่วงทะเบียน 85-2385 ชลบุรี จอดอยู่ และยังมีรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ญพ 2098 กรุงเทพฯ ที่ขับตามหลังมาเสียหลักหักหลบไปชนกับราวสะพาน 
    นายสมศักดิ์ จันทร์แจ่มหล้า อายุ 53 ปี คนขับรถพ่วง ให้การว่า ขับรถมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อจะนำของไปส่งโรงงานรีไซเคิลใกล้เคียงที่เกิดเหตุ มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางลงสะพานและมีฝนตก ได้ยินเสียงรถชนท้าย เมื่อมองกระจกหลัง พบรถเก๋งคู่กรณีกำลังหมุนไปชนราวสะพาน จึงจอดรถลงมาดูและโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
    ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนรายละเอียดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย.