ระหว่าง "เชื่อ" กับ "ศรัทธา" ออกจะค่อนข้างใกล้เคียงกับคำว่าหลงและงมงาย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ไปจนถึงการใช้ชีวิตของคนบางจำพวก บางกลุ่ม และบางครอบครัว รวมถึงเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพหรือผู้มีมิจฉาทิฐิฉวยโอกาสสร้างประโยชน์อยู่ในสังคมไทยทุกวันนี้...จริงไหม???

     ตั้งประเด็นให้มองมุมของความเชื่อและความศรัทธา ก็เพราะมีเพื่อนในกลุ่มไลน์แชร์บทสัมภาษณ์ของจอห์น โวลันเธน 1 ใน 2 นักดำน้ำชาวอังกฤษที่เจอทีมหมูป่า อะคาเดมี เป็นชุดแรก และเจ้าของเสียง How many of You? ด้วยข้อสรุปที่ว่า ไม่มีความบังเอิญ ในปฏิบัติกู้ชีพที่ถ้ำหลวง!!!

     เพราะก่อนหน้านี้สังคมไทยฮือฮาเป็นอย่างมากว่า เด็กๆ โชคดี ซีลโชคช่วยจริงๆ ที่ "เชือก" หมดพอดีตรงบริเวณเนินนมสาว ทำให้พบ 13 ชีวิตหมูป่า  

     คำพูดของจอห์นเป็นการถอดรหัสแล้วว่าไม่ใช่ความโชคดี แต่เป็นขั้นตอนของการปฏิบัติปกติที่นักดำน้ำจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในจุดที่สามารถเงยศีรษะจากน้ำได้ เพื่อดมกลิ่มหาสิ่งที่ต้องการ และสำรวจมองหาจุดต่างๆ

     ข้อเท็จจริงตามหลักวิทยาศาสตร์นี้ อาจจะทำให้คนเชื่อและศรัทธาเกี่ยวกับบุญทำกรรมแต่ง รู้สึกร้อง..เฮ้อ!! จริงหรือ?? แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะของพุทธศาสนิกชนที่ศึกษาธรรมอย่างถ่องแท้แล้ว จะรู้เหมือนๆ กับนายจอห์นว่า ..บนโลกใบนี้ไม่มีความบังเอิญ

     ตามหลักและความเชื่อของพุทธศาสนาแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุและมีผลของมัน ส่วนเหตุนั้นอาจจะเกิดจากชาติภพไหนภพหนึ่ง เราไม่อาจจะรู้ได้ แต่เราสามารถเชื่อได้ว่าการที่คน 13 คนต้องหลงไปติดอยู่ในถ้ำถึง 17 วันนั้นไม่ใช่ความบังเอิญ

     ความเชื่อแบบนี้ไม่ผิด ตราบเท่าที่เรามิได้ไปยัดเยียดมุมมองนี้ให้ใครต้องคิดหรือเห็นตามเรา และที่สำคัญคือ ไม่ได้นำเอาความศรัทธาอันเกี่ยวกับชาติภพในอดีต หรือชาตินี้ชาติหน้า ไปทำร้าย สร้างความเดือดร้อนให้ใคร

     ความศรัทธาและความเชื่อว่า กรรมเกิดจากการกระทำ ..จะเป็นเครื่องจรรโลงสังคมให้อยู่รอดปลอดภัย และผลักดันให้ทุกคนสร้างแต่กรรมดี มิใช่หลงเชื่องมงายแล้วกราบไหว้ในสิ่งที่ตัวเองมองไม่เห็นอย่างไร้เหตุผล

     วัฒนธรรมของฝรั่งก็แบบหนึ่ง วัฒนธรรมไทยก็อีกแบบ จะลบล้างกันด้วยวิทยาศาสตร์คงเป็นไปไม่ได้ สำคัญที่สุดคือ เราจะอยู่กับวัฒนธรรมความเชื่อที่แตกต่างนี้ให้อย่างเป็นสุขได้อย่างไร จริงไหมจ๊ะ.

                                                                                                    "ป้าเอง"