16 ก.ค.61 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 4/2561 โดยมี ประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทุกคณะ เข้าร่วม โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างยุทธศาสตร์ชาติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ภายใต้ร่างยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศเบื้องต้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประมวลผลผ่านระบบ eMENSCR พบว่ากระทรวงและเทียบเท่า จำนวน 19 หน่วยงาน รัฐสภา และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กระทรวง จำนวน 5 หน่วยงาน ได้ส่งแผนงานและโครงการรวมทั้งสิ้น 6,456 แผนงาน/โครงการ โดยเป็นแผนงานหรือโครงการที่มีความสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ รวมทั้งสิ้น 3,211 แผนงาน/โครงการ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ภายใต้แนวคิด “สร้างไทยไปด้วยกัน” ภายใต้ 6 กลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้แก่ 1. แก้จน สร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 2. แก้เหลื่อมล้ำ รายได้ โอกาส อำนาจ สิทธิ และศักดิ์ศรี 3. แก้โกง ทำห้องให้สว่างและบังคับใช้กฎหมาย 4.ปฏิรูปราชการกระจายอำนาจ ลดขนาด 5.สร้างการมีส่วนร่วม และ 6.สร้างอนาคต ซึ่งภาครัฐได้ดำเนินการกิจกรรม โครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเตรียมการจัดทำร่างแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้บรรลุ 20 เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ทั้ง 6ยุทธศาสตร์ ซึ่งจะจัดทำ 1 แผนแม่บทต่อยุทธศาสตร์ และมีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 20 ปี โดยสามารถแบ่งช่วงระยะเวลาการพัฒนาตามแผนแม่บทเป็น 2 ช่วง ช่วงละ 10 ปี โดยคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 คณะ ได้เสนอหัวข้อประเด็นสำคัญในการจัดทำแผนแม่บทแต่ละด้าน ได้แก่
1. ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย การรักษาความสงบภายในประเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง การพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ การบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียนและนานาชาติ รวมถึงองค์กรภาครัฐและที่มิใช่ภาครัฐ และการพัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม 2. ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันประกอบด้วย การเกษตรสร้างมูลค่า อุตสาหกรรมและบริการ การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานผู้ประกอบการยุคใหม่
3. ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ประกอบด้วย การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 การตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และการเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ
4. ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ได้แก่ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจฐานราก การปฏิรูประบบภาษีและการคุ้มครองผู้บริโภค การสร้างหลักประกันสังคม (รวมประเด็นแรงงาน การศึกษา และสาธารณสุข) เรื่องกระบวนการยุติธรรม การกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การเสริมสร้างพลังทางสังคม และ การเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนา การพึ่งพาตนและจัดการตนเอง
5. ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมสีเขียว สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจภาคทะเล สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ พัฒนาพื้นที่เมือง ชนบท เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ มุ่งเน้นความเป็นเมืองที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พัฒนาความมั่นคงทางน้ำ พลังงาน และเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยกระดับกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ และ 6. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ได้แก่ บุคลากรภาครัฐ ระบบ/กลไก และโครงสร้างภาครัฐ การกระจายอำนาจ กระบวนการยุติธรรม กฎหมาย และการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่าการจัดทำแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จะเป็นส่วนสำคัญในการถ่ายทอดเป้าหมาย และแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติลงสู่แผนระดับที่ 2 และแผนงาน โครงการในระดับต่าง ๆ ต่อไป โดยต้องคำนึงถึงประเด็นสำคัญ ได้แก่ แผนงานหรือโครงการที่จะบรรจุไว้ในแผนแม่บทฯ ต้องมีความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ต้องกำหนดรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง หรือหน่วยงานรับผิดชอบหลักที่จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการแต่ละกิจกรรม รวมทั้งต้องคำนึงถึงขีดความสามารถทางการเงินและการคลัง ของประเทศในการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ และพิจารณาภาพรวมการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้แผนแม่บทฯ สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ประชุมเห็นชอบกรอบการจัดทำแผนแม่บทฯ และการกำหนด Program Structure เพื่อแสดงความเชื่อมโยงของยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นยุทธศาสตร์ แผนงานในระดับรองต่างๆ อาทิ แผนการปฏิรูปประเทศ และหน่วยงานรับผิดชอบ รวมทั้ง ที่ประชุมได้เห็นชอบการมอบหมายให้ข้าราชการกลุ่ม ป.ย.ป. ของแต่ละกระทรวง เข้าร่วมการจัดทำแผนแม่บทฯ กับคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ สศช. โดยจะดำเนินการร่วมกัน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Kick-off) ในวันที่ 6-8สิงหาคม 2561 และดำเนินการเตรียมการจัดทำแผนแม่บทฯ ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2561 และคาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน 2561 ตามลำดับต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |