"13 หมูป่า" ร่างกายดีขึ้น มีกำหนดออกจาก รพ. 19 ก.ค.นี้ "หมอ" จัดแถลงข่าวพร้อมกันทุกคน หวั่นสื่อตามไปสัมภาษณ์ส่วนตัวเกรงกระทบจิตใจ "ปลัด สธ." เผยยอมแจ้งเรื่องจ่าแซมเสียชีวิตขณะช่วยเหลือ ทำเอาเด็กๆ ร้องไห้เสียใจ ต่างเขียนความรู้สึกลงบนภาพวาดและยืนไว้อาลัย สัญญาจะเป็นคนดี ญาติเก็บกระดูก "น.ต.สมาน" ลอยอังคารในแม่น้ำชี "สพฉ." ถอดบทเรียนถ้ำหลวง เตรียมหลักสูตรสอนเด็กเอาตัวรอด "เฉลิมชัย" เดินหน้าสร้างอนุสาวรีย์จ่าแซม โพลชี้ ปชช.ยกทุกคนคือฮีโร่
เมื่อวันอาทิตย์ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงความคืบหน้าอาการโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ว่า ได้รับรายงานจาก นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ภายหลังจากที่ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ช พบว่าทุกคนมีสภาพร่างกายดีขึ้นตามลำดับ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่พบเชื้อโรคติดต่ออุบัติใหม่ ทีมแพทย์ได้มีการปรับห้องให้มีความเหมาะสม พร้อมให้ญาติเข้าเยี่ยมดูแลใกล้ชิด
นพ.เจษฎากล่าวว่า อาการล่าสุดในวันที่ 15 ก.ค. กลุ่มที่ 1 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.2561 อาการทั่วไปปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ปกติ สำหรับ 2 รายที่มีปัญหาปอดติดเชื้อ อาการดีขึ้น ให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วันแล้ว, กลุ่มที่ 2 จำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.2561 อาการโดยรวมดี สัญญาณชีพปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ปกติ รอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน และกลุ่มที่ 3 จำนวน 5 คน เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2561 อาการทั่วไปปกติ ไม่มีไข้แล้ว รายที่มีอาการหูอื้อดีขึ้น รอให้ยาปฏิชีวนะครบ 7 วัน
"สำหรับการดูแลด้านจิตใจ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ค. แพทย์พิจารณาแล้วว่าสภาพร่างกายของน้องๆ นักฟุตบอลและโค้ชแข็งแรงขึ้น สภาพจิตใจดีขึ้น จึงได้ตัดสินใจให้ญาติแจ้งข่าวการเสียชีวิตของ น.ต.สมาน กุนัน ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมจิตแพทย์ นักจิตวิทยา ซึ่งทุกคนร้องไห้ และแสดงความเสียใจ โดยเขียนความรู้สึกลงบนภาพวาดของ น.ต.สมาน ร่วมกันยืนไว้อาลัย กล่าวขอบคุณและสัญญาว่าจะเป็นคนดี ซึ่ง พล.ต.วุฒิไชย อิศระ แพทย์ใหญ่กองทัพภาค 3 ได้กล่าวกับผู้ประสบภัยในฐานะตัวแทนทหารว่า ถือเป็นภารกิจ เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี" นพ.เจษฎากล่าว
ปลัด สธ.กล่าวว่า ทีมจิตแพทย์ นักจิตวิทยา สหวิชาชีพ ของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้วางแผนการดูแลต่อเนื่อง เช่น การสื่อสารในครอบครัว การทำกลุ่มเตรียมความพร้อมก่อนกลับบ้าน การประสานงานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อติดตามผลในระบบโรงเรียน เพื่อให้ทุกคนมีสภาพจิตใจพร้อมที่จะกลับไปดำเนินชีวิตที่บ้าน โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนหลังออกจากโรงพยาบาล ซึ่งราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอแนะสิ่งที่ควรและไม่ควรทำสำหรับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งสื่อมวลชน ตัวน้อง ๆ และโค้ชทีมหมูป่า ครอบครัว โรงเรียน ชุมชนและสังคม
“เข้าใจว่าทุกคนมีความเป็นห่วงและหวังดี ไม่อยากให้มีการตำหนิหรือกล่าวโทษใคร ขอให้ใช้ช่วงเวลานี้ในการช่วยเหลือหรือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้เป็นช่วงเวลาที่ดีงามของคนทั้งประเทศ” ปลัด สธ.กล่าว
19 ก.ค.หมูป่าออก รพ.
ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าวว่า จากการติดตามสภาพจิตใจของน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน หลังมีการแจ้งข่าว น.ต.สมาน ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกผิดหรือเสียใจย่อมเป็นธรรมดา แต่ยังคงติดตามต่อเนื่องอีก 2-3 วัน สภาพจิตใจของน้องๆ ทุกคนเข้มแข็ง และผ่านวิกฤติความเครียดภายในถ้ำมามาก ซึ่งการอยู่ร่วมกันในลักษณะเป็นกลุ่ม เพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจ ถือว่าน้องๆกลุ่มนี้มีภูมิต้านทานดี แต่ที่ห่วงมากกว่าคือเมื่อกลับไปอยู่บ้านตามลำพังและการเข้าสังคม หรือแม้แต่การไปโรงเรียน
"ในวันที่ 19 ก.ค. ที่น้องๆ มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล ทราบจากทางจังหวัดเชียงรายว่าจะจัดให้มีการแถลงข่าวของทั้ง 13 คน เพื่อป้องกันไม่ให้สื่อมวลชนติดตามรบกวนชีวิตปกติของน้องๆ ทุกคน เป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้สัมภาษณ์ผู้ประสบภัย ที่ควรมีการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม ดีกว่าปล่อยให้สื่อติดตามสัมภาษณ์รายบุคคลที่บ้านแบบแยกเดี่ยว เพื่อป้องกันมิให้เกิดบาดแผลในจิตใจ" ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 กล่าว
ส่วนที่วัดบ้านหนองคู ต.เมืองหงส์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 07.00 น. พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเก็บเถ้ากระดูกของ น.ต.สมาน โดยมีนายวิชัยและนางสำราญ กุนัน บิดามารดา รวมทั้งนางวลีพร กุนัน ภรรยา พร้อมญาติพี่น้องกว่า 100 คน และจอย-ศิริลักษณ์ ผ่องโชค นักแสดง ซึ่งรู้จักกับครอบครัวจ่าแซมร่วมพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งหมดได้ร่วมกันทำพิธีคานสามหาบเวียนซ้ายรอบเมรุชั่วคราว 3 รอบ แล้วถวายผ้าไตร ตะกร้าใส่อาหาร ปิ่นโต พระสงฆ์ 4 รูปได้ชักผ้าแล้วสวดมาติกาบังสุกุล ต่อมาพระสงฆ์และญาติๆ ได้เก็บกระดูกของ น.ต.สมาน ส่วนที่เป็นชิ้นห่อด้วยผ้าขาวนำไปล้างด้วยน้ำสะอาดและน้ำมะพร้าว ส่วนเถ้ากระดูกที่เหลืออยู่ได้จัดทำเป็นหุ่นสมมติว่าเป็นจ่าแซม แล้วนำกระดูกที่ล้างแล้วมาวางไว้ใกล้ๆ แล้วถวายผ้าไตรพระสงฆ์ 4 รูป ชักผ้าแล้วมาติกาบังสุกุลอีกครั้ง
จากนั้นพระราชพรหมจริยคุณเดินนำหน้า นายวิชัยถือกระถางธูป นางสำราญถือเชิงเทียน และนางวลีพรถือห่อกระดูก ไปตั้งไว้ในบริเวณศาลาเพื่อประกอบพิธีทำบุญตามประเพณี พระสงฆ์ 9 รูปได้เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซม โดยสวดมาติกาบังสุกุล ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ กรวดน้ำให้พรเป็นอันเสร็จพิธี
นายวิชัยกล่าวว่า หลังจากได้รับพระทานเพลิงศพและเก็บกระดูกทำบุญให้กับลูกชายแล้ว ก็รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล ขอบคุณทุกคน และวันนี้คิดว่าลูกคงรับทราบที่ทำบุญไปให้ขอให้ไปสู่สวรรค์ ขอให้ไปมีความสุข ไม่ต้องเป็นห่วงทางบ้าน สำหรับเถ้ากระดูกของลูกชาย พระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด บอกให้เก็บเอาไว้เพื่อทำบุญ 100 วันก่อน จึงให้ญาตินำส่วนเถ้ากระดูกที่เหลือแบ่งเป็น 2 ส่วนให้กับบิดามารดาและภรรยา
ต่อมานายวิชัย นางสำราญ นางวลีพร และญาติพร้อมคณะเดินทางไปถึงวัดท่าสะแบง พระสงฆ์และพ่อแม่ ภรรยา ญาติพี่น้อง ได้ประพรมน้ำหอมลงบนเถ้ากระดูกจ่าแซม และมีการไหว้พระ รับศีล บังสุกุล กรวดน้ำให้พร จากนั้นพระสงฆ์ได้นำไปลอยเถ้าอังคารลงแม่น้ำชี โดยมีพระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด นำประกอบพิธีจนแล้วเสร็จ และเถ้าอังคารอีกส่วนหนึ่ง นางวลีพร ภรรยาจ่าแซมจะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง บริเวณใกล้ลานพญานาค อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนางวลีพร และเป็นสถานที่ที่จ่าแซมชอบมาก เนื่องจากว่าทั้งคู่พบรักกันเมื่อ 15 ปีที่แล้วจากการไปแข่งไตรกีฬา จนรักผูกพันและแต่งงานกันมาได้ครบ 8 ปี
สอนวิธีเอาตัวรอด
ในส่วนการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งเป็นวันที่ 2 เหล่าจิตอาสาร่วมกันทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์รอบวนอุทยานฯ ให้กลับคืนสภาพเดิม หลังภารกิจกู้ชีพกู้ภัย 13 ชีวิตทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีสำเร็จลุล่วง
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สำรวจถ้ำหลวง ระบุว่า ภายในถ้ำยังมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตของทีมแพทย์ อุปกรณ์ของหน่วยซีล รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในถ้ำ เนื่องจากน้ำยังท่วมสูง ไม่สามารถนำออกมาได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ที่ใช้เป็นเส้นทางเบี่ยงน้ำออกจากถ้ำ ปล่องถ้ำ รวมถึงจุดที่ใช้ขุดเจาะบาดาล ได้รับความเสียหาย ต้องได้รับการฟื้นฟูให้สมบูรณ์ตามธรรมชาติ ทางกรมมีแผนฟื้นฟูในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเห็นชอบ โดยหนึ่งในแผนระยะยาวคือการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในถ้ำ การปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค และจัดทำป้ายสื่อความหมาย เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ จะจัดพิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกู้ชีพกู้ภัยทั้ง 13 ชีวิต ในช่วงเช้า จากนั้นช่วงบ่ายจะทำพิธีปิดถ้ำ โดยนิมนต์พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ 28 รูป เบื้องต้นได้นิมนต์ครูบาบุญชุ่ม พระเกจิชื่อดังจากรัฐฉานมาร่วมพิธี แต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าครูบาบุญชุ่มจะเดินทางมาร่วมพิธีหรือไม่
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ททท. ได้ทำการผลิตคลิปวิดีโอความยาว 30 วินาที เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย เพื่อขอบคุณประชาคมโลกที่แสดงน้ำใจในการช่วยเหลือเด็กๆ และโค้ชจนออกมาจากถ้ำได้อย่างปลอดภัย โดยจะนำเสนอผ่านเครือข่ายทั่วโลกของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ในช่วงระหว่างเดือน ก.ค.นี้ไปจนถึงเดือน ส.ค.
ด้านนายไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า จากกรณีนักฟุตบอลทีมหมูป่าฯ ติดถ้ำ ทำให้ สพฉ.ได้ผนึกภาคประชาสังคม หน่วยงานรัฐและเอกชนหลากหลายองค์กร เตรียมคลอดต้นแบบการเรียนการสอนเด็กๆ ให้เรียนรู้เรื่องการเอาตัวรอดจากเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินและสถานการณ์ฉุกเฉิน 7 เรื่อง อาทิ การเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ไฟไหม้ การเรียนรู้การทำ CPR การใช้งานเครื่อง AED และการสังเกตอาการหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน หัวใจขาดเลือด รวมถึงการฝึกการขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 1669 เชื่อจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตให้เด็กจากการเจ็บป่วยฉุกเฉินได้
วันเดียวกัน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน พบกับนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ และนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อหารือและกำหนดพื้นที่ที่จะใช้สร้างอนุสาวรีย์ให้กับ น.ต.สมาน
ทั้งนี้ อ.เฉลิมชัยพร้อมผู้ว่าฯ เชียงรายได้เดินไปดูพื้นที่บริเวณลานหน้าถ้ำหลวง จุดที่เคยเป็นพื้นที่กางเต็นท์สำหรับสื่อมวลชน ซึ่งมีการถมดินและปรับปรุงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอาจารย์เฉลิมชัยระบุว่า จุดนี้แหละที่จะใช้เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของจ่าแซม ขนาดใหญ่ 2 เท่าคนจริง วางไว้บนโขดหิน ลักษณะของอนุสาวรีย์จ่าแซมจะสวมชุดนักดำน้ำและกำลังทำท่าเดินไปข้างหน้า รอบๆ ขาจะมีรูปปั้นหมูป่า 13 ตัวและน้ำล้อมรอบ โดยอนุสาวรีย์ของจ่าแซมจะอยู่บนดินกลางเกาะ ส่วนเท้าของอนุสาวรีย์ก็จะอยู่ระดับเท่าศีรษะของคนดู สีรูปปั้นจะออกสีน้ำตาล ส่วนหลังของอนุสาวรีย์จะมีการก่อสร้างศาลาไม้เป็นห้องโถงโล่ง ผนังใช้ที่เก็บรูปของศิลปินต่างๆ ที่ได้วาดรูปของเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเด็กทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง
ชี้ทุกคนฮีโร่ถ้ำหลวง
อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นเราคงจะสร้างไว้อีกจุดที่หน้าอาคารอำนวยการของวนอุทยานฯ ซึ่งจะมีโครงการสร้างในภายหลัง เป็นที่เก็บรวบรวมอุปกรณ์การช่วยเหลือและรูปภาพต่างๆ ไว้ในพิพิธภัณฑ์นี้ รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนจะเอาไว้ตรงจุดนี้ ซึ่งเราจะสร้างในภายหลัง ตอนนี้เราจะสร้างอนุสาวรีย์จ่าแซมก่อน คาดว่าใช้เวลาราว 5-6 เดือน ส่วนหุ่นจ่าแซม จะสวมชุดนักดำน้ำและหันหน้าเข้าไปทางหน้าถ้ำในลักษณะกำลังก้าวเดิน เราคาดว่าจะปั้นให้เสร็จภายใน 3 เดือน ก่อนที่จะนำไปปรับแต่ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ส่วนศาลาที่อยู่ตรงกันข้ามอนุสาวรีย์จ่าแซม คงจะสร้างเสร็จก่อน มีความกว้าง 40 เมตร คูณ 50 เมตร เป็นอาคารไม้เก่า เพื่อจะเอารูปที่ศิลปินๆ ต่างร่วมกันเขียนนำมาติดโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก Aunyarat Wonghu โพสต์ว่า ได้รับโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อคืน ดีใจมากที่ทีมทหารสหรัฐขอนัดเจอพวกเราตอนเช้าของวันนี้ เพื่อจะขอบคุณพวกเราที่ซักผ้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบภารกิจ ไม่รู้จะอธิบายรูปภาพว่าอะไร มันคือความภาคภูมิใจครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันได้ของขวัญตอบแทนจากพวกคุณ ฉันจะจดจำตลอดไป พวกเราขอขอบคุณมากกว่าที่ทีมทหารสหรัฐได้เข้ามาช่วยน้องๆ ทีมหมูป่า ทำให้คนไทยทั้งประเทศที่เฝ้าติดตามข่าวรู้สึกดีใจ และขอบคุณทีมงานของพวกท่านที่มาช่วยเรา ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ขอให้ท่านทุกคนเดินทางปลอดภัยกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (ผอ.สปท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทเรียนกรณีถ้ำหลวงว่า เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงพละกำลังและศักยภาพในการบริหารจัดการกับวิกฤติปัญหาระดับชาติได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญสะท้อนให้เห็นถึงพลังของความร่วมไม้ร่วมมือและความเสียสละจากทุกภาคฝ่ายทั้งรัฐ เอกชน ประชาชนและสื่อมวลชน บรรยากาศแบบนี้อาจมีให้เห็นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติความขัดแย้งในสังคมการเมืองไทยกว่าทศวรรษที่ผ่านมา
นายสุริยะใสกล่าวว่า พละกำลังหรือกำลังของแผ่นดินครั้งนี้ ได้รับการสรรเสริญและชื่นชมไปทั่วโลก ประเด็นสำคัญอยู่ที่เราจะทำให้กำลังของแผ่นดินครั้งนี้เป็นแรงส่งขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเอาการเมืองไทยออกจากถ้ำของการทุจิตคอร์รัปชัน ความขัดแย้งแตกแยกและการเมืองที่ล้มเหลวได้อย่างไร
"แน่นอนก็ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แต่ควรเป็นธุระของทุกฝ่ายที่จะทำให้คุณูปการของภารกิจถ้ำหลวงเป็นโมเดลของการแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะบทเรียนที่ต้องยอมรับกันว่า ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นั้นไม่มีอยู่จริง ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจ เสียสละคนละเล็กละน้อย ก็จะทำให้ภารกิจนั้นสำเร็จได้เช่นกรณีปรากฏการณ์ถ้ำหลวง เทียบเคียงกรณีของการปฏิรูปประเทศไทยที่บางคนบางกลุ่มอาจถอดใจหรืออาจคิดว่าเป็น mission impossible หรือภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่สามารถทำให้เป็นจริงได้ถ้าเราเรียนรู้จากปรากฏการณ์ถ้ำหลวง ที่สำคัญมีคนและกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในครั้งนี้ แต่ไม่ประสงค์ออกนาม ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องขอชื่นชม" นายสุริยะใสกล่าว
ด้านนายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ความสุขประชาชน ความสุขประเทศไทย กรณีทีมหมูป่า ณ ถ้ำหลวง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.9 ติดตามข่าวช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงตั้งแต่วันแรกถึงวันช่วยเหลือออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยทุกคน ในขณะที่ร้อยละ 25.5 ติดตามปกติเหมือนข่าวทั่วไป และร้อยละ 2.6 ไม่ได้ติดตาม นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.1 สนใจข่าวช่วยเหลือทีมหมูป่ามากกว่าข่าวฟุตบอลโลก, ร้อยละ 11.0 สนใจข่าวฟุตบอลโลกมากกว่า และร้อยละ 25.9 สนใจทั้งสองข่าว
เมื่อถามถึงความประทับใจ ใครคือฮีโร่ช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 94.7 ประทับใจคนไทยและทุกชาติที่ช่วยเหลือคือฮีโร่ของประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 5.3 ประทับใจบางคน และคะแนนเฉลี่ยความสุขประชาชนวันที่ทราบข่าวช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำปลอดภัยทุกคนอยู่ที่ 9.78 คะแนน เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 เชื่อมั่นว่าความรักความสามัคคีของคนในชาติจะรักษาความสุขของประชาชนไว้ได้ ในขณะที่ร้อยละ 3.5 ไม่เชื่อมั่น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |