อุตุฯ ออกคำเตือนฉบับที่ 16 ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังมีฝนตกชุกกับตกหนักบางแห่ง ปภ.ประสาน 28 จังหวัดเตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรง (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 15-19 กรกฎาคม 2561)" ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 ความว่า ในช่วงวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2561 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
สำหรับประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน และประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
จังหวัดพังงาได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย และให้ชาวเรือ นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ ติดตามและงดการเดินเรือตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประสานกันตามแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์การกู้ชีพกู้ภัย กำลังเจ้าหน้าที่ในการเข้าช่วยเหลือประชาชน กู้ภัยและบรรเทาภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ได้ประสาน 28 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน ตาก พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร อุดรธานี กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครพนม ยโสธร ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที
อีกทั้งได้กำชับให้ประสานหน่วยงานเจ้าท่า ประมง และตำรวจน้ำ ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือทุกประเภท ทั้งเรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก และเรือเฟอร์รี ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและงดการเดินเรือหากทะเลมีคลื่นสูงและกำลังแรง รวมถึงเน้นย้ำให้มีการตรวจสภาพความพร้อมและความปลอดภัยก่อนออกเรือทุกครั้ง ทั้งความพร้อมของพนักงานขับเรือและพนักงานประจำเรือ และตรวจสอบให้มีอุปกรณ์ชูชีพประจำเรืออย่างเพียงพอ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ทั้งนี้ สามารถติดต่อแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |