ที่มาภาพ www.alittlebuddha.com
15 ก.ค.2561 – การแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2560 โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ” นั้น ทำให้เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2560 ได้มีประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช โดยมีพระราชโองการโปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช มีพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สุขุมธรรมวิธานธำรง สกลมหาสงฆปริณายกตรีปิฎกธราจารย อัมพราภิธานสังฆวิสุต ปาพจนุตตมสาสนโสภณ กิตตินิรมลคุรุฐานียบัณฑิต
วชิราลงกรณนริศรปสันนาภิสิตประกาศ วิสารทนาถธรรมทูตาภิวุฒ ทศมินทรสมมุติปฐมสกลคณาธิเบศร
ปวิธเนตโยภาสวาสนวงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิบูลสีลสมาจารวัตรวิปัสสนสุนทร ชินวรมหามุนีวงศานุศิษฏบวรธรรมบพิตร สมเด็จพระสังฆราช เสด็จสถิต ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร เป็นประธานในสังฆมณฑลทั่วราชอาณาจักร
โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ นับตั้งแต่สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเป็นต้นมา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ หรือสมเด็จช่วง อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เคยมีมติ 17 ต่อ 0 เสนอชื่อขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชไม่เคยเข้าประชุม มส.นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยอ้างเหตุผลว่าป่วย ทั้งนี้เว็บไซต์alittlebuddha.com ได้ระบุไว้ข้อน่าสังเกตไว้ว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ไม่สามารถไปประชุม มส.ได้ แต่กลับไปประธานเปิดงานประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการหมู่บ้านศีลห้า ณ วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2561 ได้
โดยเว็บรายงานง่า ในงานประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการหมู่บ้านศีลห้า ซึ่งจัดที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย โดยไม่มีทีท่าว่าป่วยแต่อย่างใด ยิ้มแย้มแจ่มใส โปรยอาหารให้ปลาหน้าวัดอย่างสบายอกสบายใจ เหมือนไปปิ๊กนิก! ตามเส้นทางนี้ จากวัดปากน้ำไปวัดไร่ขิง ต้องผ่านพุทธมณฑล หรือพุทธมณฑลอยู่ใกล้กว่าวัดไร่ขิง แปลกแต่จริง ที่สมเด็จช่วงไปวัดไร่ขิงได้ แต่ไปพุทธมณฑลไม่ได้
คำถามก็คือ ระหว่างพุทธมณฑล ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมมหาเถรสมาคม กับวัดไร่ขิง ซึ่งอยู่ในจังหวัดนครปฐมเหมือนกัน ทำไมสมเด็จช่วงไปร่วมงานศีลห้าวัดไร่ขิงได้ แต่ไปประชุมที่พุทธมณฑลไม่ได้ ? และระหว่าง โครงการหมู่บ้านศีลห้า กับการประชุมมหาเถรสมาคม อย่างไหนสำคัญกว่ากัน ? ตอบคำถามนี้ได้ก็ตอบปัญหาเรื่อง ป่วยการเมืองได้ เว้นแต่ไม่กล้าถามและไม่กล้าตอบ !
โปรดสังเกตว่า การขาดประชุม มส. นั้น ไม่มีโทษกำกับ ไม่ว่าจะป่วยจริงหรือไม่ แต่มันเป็นมารยาทที่เรียกว่า จริยาพระสังฆาธิการ สมเด็จช่วงนั้น ดำรงตำแหน่งมายาวนาน เคยเป็นถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จะไม่รู้เรื่องนี้ก็คงไม่ใช่ นอกเสียจากว่าจงใจจะไม่ไปประชุม มส. ซึ่งก็ต้องตีความว่าเป็นการ ป่วยการเมือง ! แต่ป่วยชนิดนี้ ไม่มียาชนิดใดจะรักษา รัฐบาลหรือมหาเถรสมาคมจะลงโทษก็ไม่ได้ ปลดก็ไม่ได้
แต่หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่าน 3 วาระรวดในกฎหมายสงฆ์เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาก็เชื่อว่าอีกไม่นานสมเด็จช่วงก็อาจไม่ต้องไปประชุม มส.ตลอดไปแน่แล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |