กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

                เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ปิดทองหลังพระ ในเหตุการณ์น้องๆทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ทั้ง 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย สำหรับ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เพราะนอกจากส่งตำรวจตะเวนชายแดน(ตชด.)ที่ 32  ตชด.327 อ.แม่สาย  ตชด.ค่ายนเศวร ตำรวจโรงพักแม่สาย รวมทั้งแม่ทัพใหญ่สีกากี บิ๊กแปะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงไปลุยด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนหลังภารกิจเสร็จสิ้น เสียงชื่นชม เสียงยินดี ในส่วนของ"ตำรวจ"ดูจะเงียบๆ ไม่เหมือนหน่วยงานอื่นๆ เพราะเสียงส่วนใหญ่หากพูดถึงภารกิจถ้ำหลวง ต่างจะไปนึกถึงเรื่อง "ขอดูใบอนุญาตขุดถ้ำ" เสียมากกว่า ทั้งๆที่การทำงานของตำรวจก็หนักไม่แพ้หน่วยอื่น แม้ไม่ใช่หน่วยหลักอย่าง "หน่วยซีล" แต่ก็เป็นกำลังเสริม ทั้งตำรวจน้ำ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กองบินตำรวจ สนับสนุนการทำงานตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายที่น้องๆออกมาจากถ้ำ แบบที่ต้องปรบมือให้ดังๆเช่นกัน ๐

                ถึงแม้ "ตำรวจ" จะไม่ได้ชื่อเป็น "พระเอก" ในภารกิจถ้ำหลวงมากนัก แต่สำหรับ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5(รองผบช.ภ.5) ที่ได้รับมอบหมายจากพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ให้เป็นตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมงานศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ศอร.) ถือเป็นขวัญใจทั้งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน เพราะในการแถลงข่าวความคืบหน้าการช่วยเหลือน้องๆทั้ง 13 ชีวิตในแต่ละวัน รองฯชูรัตน์ จะมีมุข จะมีคำคม เรียกร้องยิ้มยามที่ทุกคนเครียดๆได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคำว่า "เซี่ยเซี่ย" หรือในวันที่น้องๆออกจากถ้ำหลวงเรีบร้อนยแล้ว รองชูรัตน์ ยังแถมคำคมทิ้งท้าย "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นี่" แบบนี้นักข่าวไม่รักตำรวจได้อย่างไร ๐

                ยังไม่ชัดเจนว่าภาพ ผกก.หนุ่ย-พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผู้กำกับฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่เว็บไซต์ MGR Online ระบุ ผกก.หนุ่ย เข้าร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศระหว่างอังกฤษและโครเอเชีย กับ "ทักษิณ ชินวัตร" และ"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ เป็นภาพจริงหรือไม่ แต่เนื้อหาที่ นวยทนได้-พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีต ผบช.ภ.1 และกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โพสต์ข้อความตำหนิพฤติกรรมดังกล่าว บอก "ท่าน รองฯ หายไปไหน ทำไมไม่ถามหาใบอนุญาต(ใบลา)" รวมทั้งอีกตอนที่บอก "สตช. เพิ่งเรียกตัวกลับมา อาทิตย์นี้ ทำเยี่ยงนี้อีก ลาออกไปเถอะน้องพี่ขอร้องอย่าให้ สตช. เสื่อมเสียไปมากกว่านี้อีกเลย พี่นั่งประชุมปฎิรูปตำรวจอยู่ที่กฤษฏีกาสัปดาห์ละ 3 วัน (จันทร์ พุธ ศุกร์) บอกตรง ๆ พี่อายกรรมการท่านอื่นเค้า ต้องก้มหน้าทุกครั้งเมื่อเค้าถามเรื่องนี้" หาก ผกก.หนุ่ย ได้อ่านคงแสบสะท้านทรวงแน่ๆ(ฮาฮา) ๐

                แม้จะเหลืออีกกว่าครึ่งเดือนจะเข้าสู่เดือนส.ค. ที่ตามปฎิทิน "ปทุมวัน" มีคิวการแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี 2561 แต่ก็เริ่มมีกระแสการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)-ผู้บังคับการ(ผบก.) กันแล้ว โดยเฉพาะโฟกัสที่ถูกจับตากันมาก คือ เก้าอี้ "ผู้บัญชาการ(ผบช.)" ของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) ที่มีผลงานโดดเด่น และถูกคาดหมายน่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็น "ผบช." ติดยศ "พล.ต.ท." แน่ๆ แต่ว่าจะเป็น "ผบช."ที่ไหน ระหว่างไปนั่งเก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)" แทน บิ๊กหยม-พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ที่จะเกษียณอายุราชการปีนี้ หรือจะเป็น "ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(ผบช.ทท.)" คนที่ 2 ต่อจากพล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท. ที่เกษียณอายุราชการปีนี้เช่นกัน  ต้องลุ้นกัน แต่ถ้าให้ฟันธงชั่วนี้เก้าอี้ท่องเที่ยวดูสวยหรู ไม่ต้องไปเบียดแย่งเก้าอี้ "นครบาล" กับคนภาค 1 ที่หมายปองไว้ตั้งแต่ปีก่อน หรืออย่างไร รอดู ๐

                มาทางฝั่งฟากของทหารกันบ้าง ... มีหลายคนสงสัยว่าวันสุดท้ายแถลงของ ศูนย์อำนวยการร่วมฯ ถ้ำหลวง ไม่เห็นเงาของ พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 และ  "บิ๊กชา" พล.ต.บัญชา  ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก 37 ทั้งที่ต้องแถลงร่วมกับ ผู้ว่าฯ ทุกวัน  เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานของกำลังพลในส่วนของกองทัพบก ให้สื่อมวลชนได้ทราบความคืบหน้าหายไปไหน   ในพื้นที่สะท้อนให้ฟังว่า กองทัพบกอยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสได้แถลงการทำงานบ้าง แต่บางกระแสระบุว่า "หน่วยเหนือ" สั่งให้ทั้งคู่ไม่ต้องนั่งแท่นแถลงแต่อย่างใด ปล่อยให้ทาง "ครูน้อย" พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสร.) สรุปการทำงานของหน่วยซีล ในการทำงานร่วมงานกับนักดำน้ำนานาชาติเป็นหลัก๐

                พูดถึงโผโยกย้ายนายทหารประจำปีที่จะพิจารณาในส่วนของกองทัพบก วันที่ 18 สิงหาคมนี้ มีชื่อ "บิ๊กชา" พล.ต.บัญชา  ขึ้นแท่นตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 3    ตามวาระที่เตรียมทหารรุ่น 20 กำลังรุ่ง ส่วน "แม่ทัพตี๋" พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพคนปัจจุบัน  คงไม่สามารถยืนระยะอยู่ในเก้าอี้ได้อีก 6 เดือนเพราะมีแรงดันจากทุกทิศทาง แต่การขยับขึ้นไปเป็นพลเอกครั้งนี้ อยู่ที่ว่าจะลุ้นเก้าอี้ 5 เสือ ทบ.ได้มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับแม่ทัพภาคที่ 3 คนใหม่ คนในยังคงมีภาษีมากกว่า แม้จะมีกระแสข่าวการนำเก้าอี้ไปแก้ไขปัญหาโยกย้ายจากส่วนกลาง แต่การส่งออกคน คงเป็นทางออกสุดท้าย  รอลุ้นกันว่า "คนใหม่" ที่เข้ามาในช่วงเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ที่ภาคเหนือยังถือเป็นพื้นที่ "ฮาร์ดแลนด์" ภาพรวมแล้ว คสช. และกองทัพ จะส่งใครมาคุม๐

                ย้อนกลับไปที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ หน่วยซีล ที่นอกจาก พล.ร.ต.อาภากร ที่ "เอาอยู่" ในปฏิบัติการภายในถ้ำหลวง  แต่ฟันเฟืองตัวใหญ่ที่อยู่หน้างานใน โถงสาม "ถ้ำหลวง" เกือบตลอด ก็คงเป็น "ผู้การฯนันต์" น.อ.อนันต์ สุราวรรณ์  ผู้การกรมรบพิเศษที่ 1 นสร.  ที่เจ้าตัวบอกว่า ทำงานในถ้ำโดยไม่รู้ว่าวันไหน ใช้วิธีปูผ้านอนในโถงสาม สลับกับลูกน้องที่ "ดำเข้า-ดำออก" วางขวดอากาศตลอดแนว ที่แถลงข่าวแล้วรู้สึกว่า เจ้าตัวคง "ใจไม่ดี" ก็คงเป็นเหตุที่ลูกน้องหายไป 23 ชั่วโมงติดต่อไม่ได้  แสดงให้เห็นถึงความผูกพันกับลูกน้องที่ไปปฏิบัติงานเสี่ยงภัย กับ ผู้บังคับบัญชา ที่รอคอยการกลับมาด้วยใจระทึก ๐

                ภาพจำที่ปิดภารกิจ "ถ้ำหลวงฯ" คงเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ ของ จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ที่เสียชีวิตระหว่างร่วมปฏิบัติงานกับทีมดำน้ำนานาชาติ  กองทัพเรือได้พิจารณาเงินช่วยเหลือจากคณะกรรมการกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้แทน เนื่องจาก  "จ่าแซม" อายุเกินเกณฑ์ที่กำหนด  ตามที่ระบุใน พ.ร.บ.กำลังสำรอง ฯ ที่สามารถให้สิทธิเท่าทหารในประจำการ ในฐานะกำลังพลสำรอง ของกองเรือยุทธการ  ในการถูกเรียกพลช่วยสนับสนุนงานด้านบรรเทาสาธารณภัย  แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือ และ กำลังพล ต่างบริจาคเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวของ "จ่าแซม" ที่ต้องขาดหัวหน้าครอบครัวไป เพื่อช่วยชีวิตคน๐

                ในระหว่างภารกิจเรื่องหนักๆ ทว่า มีข่าวหวานของ "บิ๊กทหาร" ผู้มีอดีตอย่างยิ่งใหญ่ อย่าง "พ่อใหญ่จิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผบ.ทบ. เจ้าของฉายา "ขงเบ้ง" ได้เข้าพิธีจดทะเบียนสมรสกับ น.ส.อรทัย สรการ วัย 53 ปี โดยในงานพิธีมีแต่คนในครอบครัว ไม่มีเงาของ ลูกน้องเก่า หรือ นักการเมือง แม้แต่คนเดียว  จนเหมือนว่า ลูกน้องจะเข้าถึงตัวนายไม่ติด ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะมีการผลัดเวรกันไปดูแล  ยิ่งหลังๆ ไม่เห็นเงา "เสธ.หมึก" พล.ท.พิรัช  สวามิวัศดิ์  อดีตทหาร จปร.7 ที่อยู่ข้างตัวนายมาตลอด  และเคยประกาศว่า "ถึงชีวิตก็ให้นายได้" แต่วันนี้ดูเหมือนว่าจะต่างไปจากเมื่อก่อน  ถึงขนาดมีข่าวว่างานนี้เหล่าบรรดาลูกน้องรอบกาย เป็นห่วง "บิ๊กจิ๋ว" แต่ก็เข้าไม่ถึงตัว จึงทำได้แค่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ และอวยพรให้นายมีความสุขในบั้นปลายชีวิต๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"