"อาคม"เร่งเทงบเฉียด 2 แสนล้านผุดมอเตอร์เวย์ 4 สาย เผยลดเวลาเดินทางได้ 1 เท่าตัว พร้อมกางแผนสถานีกลาง-ศูนย์ซ่อมเครื่องบินใหญ่สุดในอาเซียน หนุนโลจิสติกส์ภูมิภาค ปักหมุดลงทุนปลุกสนามบินรอง 7 แห่งภายใน 5 ปี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผย ภายหลังเป็นประธานการจัดนิทรรศการละการเสวนาสร้างความรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปีและยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งของไทยพ.ศ. 2558 - 2565 วงเงินลงทุน 2ล้านล้านบาทว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมลงทุนพัฒนาโครงการมอเตอร์เวย์ไปแล้วกว่า 1.43 แสนล้านบาท ประกอบด้วย1.มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด คืบหน้าไปแล้วมากกว่า 60% เปิดบริการปี 2563 2.มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา คืบหน้าไปแล้วกว่า 42% เปิดใช้ปี 2563 3.มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี คืบหน้า 10% เปิดใช้ปี 2564
นอกจากนี้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมายังได้ลงทุนขยายถนน 4 ช่องจราจรไปแล้ว 59 โครงการรวม 1,050 กม. ควบคู่ไปกับการลาดยางถนนลูกรังกว่า 3,365 กม. และก่อสร้างสะพานอีก 193 แห่ง อย่างไรก็ตามในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (2561-2565) กระทรวงคมนาคมจะผลักดันแผนลงทุนมอเตอร์เวย์เพิ่มอีก 1.76 แสนล้านบาท รวม 4 โครงการ ได้แก่ 1.มอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ 2.มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-ชายแดนมาเลเซีย 3.โครงการต่อขยายโทลล์เวย์ช่วงรังสิต-บางปะอิน 4.ทางหลวงยกระดับช่วงบางขุนเทียน-มหาชัย ควบคู่ไปกับการขยายถนน 4 ช่องจราจรอีก 1,429 กม.และลาดยางอีก 3,085 กม.
นายอาคมกล่าวต่อว่าการพัฒนาเส้นทางมอเตอร์เวย์จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากถนนปกติลงได้มากกว่า 1 เท่าตัวหรือคิดเป็น 100% เช่น มอเตอร์เวย์ช่วงบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม.หากใช้เส้นทางปกติจะใช้เวลา 2 ชม.แต่ถ้าใช้มอเตอร์เวย์จะอยู่ที่เพียง 1 ชม. เช่นเดียวกับมอเตอร์เวย์ช่วงบางปะอิน-โคราชที่จะใช้เวลาเดินทางเพียง 90 นาทีจากเดิมใช้เวลา 3-4 ชม.
อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมยังส่งเสริมด้านศักยภาพโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมต่อการค้ากับเพื่อนบ้านและเส้นทางเศรษฐกิจอาเซียนโดยเฉพาะการพัฒนาสถานีกลาง (Grand station)ที่ใหญ่สุดในอาเซียนในพื้นที่บางซื่อ การก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์ขนส่งสินค้าประชิดชายแดน 18 แห่ง ซึ่งในช่วง 2-3 ปีนี้ศูนย์บริเวณชายแดนเชียงของและชายแดนนครพนมจะเปิดใช้ได้ ควบคู่ไปกับการก่อสร้างลานเทกองสินค้า (Container Yard)ตามเส้นทางรถไฟทางคู่ รวมถึงศูนย์เชื่อมต่อสินค้าจากรถไฟลงท่าเรือ (SRTO) รวมถึงการลงทุนพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน(MRO) ในพื้นที่อีอีซีซึ่งจะใหญ่เป็นอันดับต้นๆของอาเซียนอีกด้วย
นายอาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมยังมีแผนลงทุนสนามบินเมืองรองเพื่อต้อนรับตลาดท่องเที่ยวไทยที่ขยายตัวแบบก้าวกระโดด โดยในช่วง 5 ปีนี้จะเร่งพัฒนา 6 แห่งได้แก่ สนามบินสกลนคร สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินลำปาง สนามบิยแพร่ สนามบินตรัง สนามบินหัวหิน และสนามบินนครศรีธรรมราช
"ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนไปแล้วประมาณ 8-9 แสนล้านบาท เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเชื่อมต่อบก น้ำ ราง อากาศ และนภาพรวมในขณะนี้ยังเหลือโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการประมาณ 10%ดังนั้นจะเร่งผลักดันโครงการที่เหลือในการออกร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเปิดประมูลต้นปีหน้า อย่างไรก็ตามบทบาทการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐมีส่วนสำคัญทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จีดีพีมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/61 จีดีพีอยู่ที่ 4.8% โดย 30% มาจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน"นายอาคม กล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 84 กิโลเมตร ซึ่งตั้งแต่ปี 58-61 กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)ขออนุมัติในเส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ ตามแผนแม่บทฯ รวม 349.8 กม.จากเป้าหมายทั้งหมด 464 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการนั้น นับเป็นความคืบหน้ามากที่สุดในรอบ 20 ปี ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้า 7 สาย ระยะทาง 169.9 กิโลเมตร ประกอบด้วย สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ, สายสีเขียวเข้ม ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ, สายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต, สายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์), สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต, สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
ทั้งนี้ มีโครงการที่เตรียมประกวดราคา 3 สาย ระยะทาง 62.9 กิโลเมตร ประกอบด้วย สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม, สายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, ช่วงสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และวายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง รวมถึงเตรียมเสนอ ครม. อนุมัติ 3 โครงการ ระยะทาง 29.3 กิโลเมตรประกอบด้วย สายสีแดงอ่อน ช่วงบางขุนนนท์-ศิริราช, สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |