รัฐบาลฟิลิปปินส์และสหรัฐจะเริ่มต้นการเจรจาต่อรองเพื่อทำความตกลงการค้าเสรีในเดือนกันยายนปีนี้ โดยคาดว่าน่าจะประสบความสำเร็จแบบเดียวกับสิงคโปร์ เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โครงการคอนโดมิเนียมตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนแออัดริมแม่น้ำในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ / AFP
โฮเซ มานูเอล โรมูอัลเดซ เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำสหรัฐอเมริกัน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ว่าการเจรจารอบแรกจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันในเดือนกันยายน โดยคาดว่าจะเน้นในด้านแรงงาน, ทรัพย์สินทางปัญญา และการเกษตร แต่เขายอมรับว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเจรจาต่อรองที่จะต้องใช้เวลา ซึ่งอาจจะเป็น 1 หรือ 2 ปี
สหรัฐเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของฟิลิปปินส์ โดยโรมูอัลเดซเผยว่า ในปี 2559 ฟิลิปปินส์ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เขาเชื่อว่า ความตกลงการค้าเสรีกับชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลก น่าจะได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นประเทศคู่ค้าที่มีขนาดเล็กกว่ามาก หากเทียบกับคู่ค้าของสหรัฐอย่างจีนและยุโรป ที่กำลังเป็นเป้าหมายของนโยบายทางการค้า "อเมริกาต้องมาก่อน" ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตามข้อมูลของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐนั้น การค้าและการบริการแบบ 2 ทางประจำปีระหว่างฟิลิปปินส์กับสหรัฐ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 27,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2559
ทั้ง 2 ฝ่ายเคยหารือกันเบื้องต้นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ภายหลังทรัมป์พบกับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ระหว่างอาเซียนซัมมิตที่กรุงมะนิลา หากการเจรจาสำเร็จ ความตกลงนี้ก็จะเป็นเอฟทีเอฉบับที่ 2 ที่รัฐบาลทรัมป์ทำกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อจากสิงคโปร์
ปัจจุบันสินค้าราว 75% ที่ฟิลิปปินส์ส่งออกไปยังสหรัฐได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรอยู่แล้ว แต่ฟิลิปปินส์เข้าถึงตลาดสหรัฐมากขึ้นทั้งภาคสิ่งทอ, นาฬิกา และผลิตภัณฑ์ภาคการเกษตร ซึ่งรวมถึงสาหร่ายทะเลที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของฟิลิปปินส์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |