“สุภัทร” แจงทำตามมติ กกอ. เปิดชื่อหลักสูตรที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เหตุจำนวนอาจารย์ผู้สอนไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ สกอ.กำหนด ชี้ไม่กระทบผู้ที่จบการศึกษาแล้ว เตรียมนัดหารือ 40 มหา'ลัยต้นก.พ.นี้ หาแนวทางแก้ไข ท้า ม.รามฯ ฟ้องจะได้เป็นบรรทัดฐาน ลั่นทำหน้าที่เอาผิดกับตนเองได้ แต่อย่าเอาผิดกับลูกน้อง
    เมื่อวันพฤหัสบดี นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาฯ กกอ.) กล่าวถึงกรณีหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานหลักสูตรจากผลการประเมินการประกันคุณภาพภายใน (IQA) เฉพาะในองค์ประกอบที่ 1 เรื่องจำนวนและคุณสมบัติอาจารย์ การบริหารจัดการหลักสูตร ตามเกณฑ์มาตรฐานเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามมติ กกอ. เพราะอยากให้มหาวิทยาลัยเร่งปรับปรุงคุณภาพ ขณะเดียวกันเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูล ผู้เรียนเองก็จะได้ทราบว่าหลักสูตรที่เรียนมีการปรับปรุงหรือยัง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จบการศึกษาไปแล้ว ไม่มีผลกระทบ ยังคงมีศักดิ์และสิทธิ์ในปริญญาเหมือนเดิม 
    ทั้งนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มีนโยบายให้ สกอ. เปิดเผยข้อมูลหลักสูตรต่อสาธารณะ และอยากให้มีการเผยแพร่เป็นระยะที่สั้นขึ้น เพื่อให้ข้อมูลมีความทันสมัย สามารถตรวจสอบได้ แต่การดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะต้องเป็นไปตามมติ กกอ. และกระบวนการการประเมิน การประกันคุณภาพภายในของ สกอ.นั้น มหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลใส่ในระบบของ สกอ. หลังสิ้นสุดปีการศึกษาภายใน 120 วัน กระบวนการกรอกข้อมูลทั้งหมดมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะดำเนินการด้วยตนเอง  และหากมีความเปลี่ยนแปลงก็สามารถแก้ไขได้ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยใดตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อย และกดเสร็จสิ้นกระบวน ระบบจะล็อก ไม่สามารถเข้าไปแก้ข้อมูลได้  สกอ.ก็จะยึดตามข้อมูลล่าสุด
     “ขณะเดียวกัน นพ.ธีระเกียรติยังสอบถามกรณีที่ สกอ.โดนต่อว่าเรื่องข้อมูลถูกชักเข้าชักออก ซึ่งผมได้ชี้แจงแล้วว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือชักเข้าชักออก แต่เป็นการเรียงข้อมูลให้ดูง่ายขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผมจะเชิญมหาวิทยาลัยทั้ง 40 แห่งมาพูดคุยเพื่อจะหาทางช่วยเหลือปรับปรุงหลักสูตรในกรณีที่มีปัญหา พร้อมทั้งหาแนวทางในการช่วยแก้ไขด้วย สำหรับผมการเชิญประชุมไม่ได้มีการตำหนิอะไร แต่หลายคนคงตำหนิผม ผมรู้ดีว่าหลายคนคงไม่คิดว่าผมเป็นเพื่อนอีกแล้ว แต่ผมเป็นข้าราชการ ผมมีหน้าที่ทำตรงไปตรงมา ถ้าท่านเห็นว่าการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะตามมติ กกอ.เป็นความผิด ผมก็ไม่คิดมากอะไร สามารถเอาผิดกับผมได้ แต่อย่าเอาผิดกับลูกน้องผม” เลขาฯ กกอ.กล่าว 
    เลขาฯ กกอ.กล่าวต่อว่า สาเหตุที่หลักสูตรส่วนใหญ่ไม่ผ่านการประเมินการประกันคุณภาพภายในนั้น เกิดจากจำนวนอาจารย์ผู้สอนต่อนักศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ สกอ.กำหนด และมีความเป็นไปได้ว่าระหว่างการประเมิน จะมีอาจารย์ลาออกหรือเกษียณอายุราชการ เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าอาจารย์จากมหาวิทยาลัยอื่นๆ สามารถมาสอนในวิชาที่ขาดได้หรือไม่นั้น โดยส่วนตัวมองว่าสามารถทำได้ เพราะผู้เรียนเป็นเด็กไทยเหมือนกัน แต่จะติดเรื่องกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งหรือไม่นั้น เช่น การนำอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเอกชนมาสอนมหาวิทยาลัยรัฐ เพื่อแก้ปัญหาอาจารย์ประจำหลักสูตรไม่ครบ ก็ต้องไปดูรายละเอียดต่อไป เป็นต้น
    ส่วนกรณีที่ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะเอาผิดทางกฎหมายกับ สกอ. และขณะนี้ทราบว่ามีอีกหลายแห่งไม่พอใจนั้น นายสุภัทรกล่าวว่า ไม่อยากตอบประเด็นนี้ แต่ทุกคนมีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง หน้าที่ของตนในฐานะข้าราชการ และเป็นส่วนหนึ่งภายใต้การกำกับของ กกอ. ซึ่งมติ กกอ.คือการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งตนได้ดำเนินการตามนั้น หากถามว่าปิดข้อมูลได้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็เคยเห็นผลของการปกปิดข้อมูลแล้วว่าเป็นอย่างไร การไม่เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้เรียนได้รู้แล้วเป็นอย่างไร ครั้งนี้ กกอ.จึงตัดสินใจให้เผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ และขอย้ำว่าเป็นข้อมูลในปีการศึกษา 2558-2559  ส่วนข้อมูลปีการศึกษา 2560 ยังไม่แล้วเสร็จ โดยคาดว่าข้อมูลล็อตแรกจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2561 
    "ส่วนตัวผมยังไม่ได้คุยกับนายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี ม.รามคำแหง แต่การที่ ม.รามคำแหง บอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับ สกอ. ผมก็ไม่โกรธ และยืนยันว่าดำเนินการตามมติ กกอ. ซึ่งหากดำเนินการทางกฎหมายได้ ก็จะเป็นบรรทัดฐานของการปฏิบัติราชการ ว่าการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ เป็นการรักษาผลประโยชน์ของสาธารณะแล้วผิดวินัยราชการก็ให้ออกไป" นายสุภัทรกล่าว.