"บิ๊กจิน" อยากให้ดีเอสไอเป็นทีมหลักคุมคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครท ปัดข่าวเชื่อมโยงการเมือง "ศรีวราห์" ย้ำรอหนังสือยืนยันจากอธิบดีดีเอสไอก่อนถึงจะโอนคดีให้ตามขั้นตอน เผยเชิญ "ชูวิทย์" ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อการสืบคดี "เฮียชู" เผยขายกิจการให้เสี่ย "ก." มอบหลักฐานเอกสารซื้อขายให้ตำรวจแล้ว ผลการคัดแยกพบเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 6 ราย
เมื่อวันที่ 18 มกราคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ว่า การกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับผิดชอบคดีสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ที่เข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ หลังพบเหยื่อที่เป็นหญิงสาวต่างด้าวไม่ต่ำกว่า 3 ราย ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ทางดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการรวมสำนวนคดี แต่โดยส่วนตัวอยากให้ร่วมกันทำงานในรูปแบบคณะทำงานที่มีดีเอสไอเป็นทีมหลัก เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดในการสืบค้นข้อเท็จจริง รวมทั้งยังประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศ และเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
รมว.ยุติธรรมกล่าวยืนยันว่า ไม่หวั่นไหวที่พบมีรายชื่อแอบอ้างอักษรย่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ และเน้นย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เชื่อมั่นว่าไม่มีผลกับการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ ส่วนกระแสข่าวว่าขบวนการค้ามนุษย์ที่วิคตอเรียอาจมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบข้อมูล แต่ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำข้อคิดเห็นมาเสนอ โดยจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับแล้ว 11 หมายจับ ว่า ควบคุมตัวได้แล้ว 8 หมาย ส่วนที่ออกหมายจับเพิ่ม (17 ม.ค.) อีก 3 หมาย ประกอบไปด้วย น.ส.สุพัตรา สาราด อายุ 25 ปี, น.ส.ญาณิศา พรหมบุตร อายุ 31 ปี และ น.ส.ประเทือง ตู่ตระสังค์ อายุ 38 ปี แคชเชียร์แขก ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัว
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับคดีวิคตอเรียเป็นคดีพิเศษ และให้โอนสำนวนคดีให้กรมสอบสวนคดีนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ยังต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากดีเอสไอ หลังจากเมื่อวานที่ดีเอสไอไปขอรับสำนวนจากพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เป็นหนังสือจาก พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ โดยทางการแล้วต้องเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงจะดำเนินการได้ ซึ่งตามขั้นตอนใช้เวลา 3 วัน แต่หากระหว่างนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาก็สามารถดำเนินการไปจนถึงขั้นตอนการฝากขัง ไม่มีปัญหาตำรวจโอนสำนวนให้ดีเอสไอแน่นอน ทุกอย่างต้องถูกต้องตามขั้นตอน คาดจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า
รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตเจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ระบุว่า ขายกิจการให้นายกัมพล หรือเสี่ยกำพล ว่า เป็นเพียงการบอกเล่าของนายชูวิทย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ยังไม่มีน้ำหนักหรือหลักฐานเพียงพอออกหมายเรียกหรือหมายจับ โดยตามหลักฐานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าเสี่ยกำพลยังอยู่ในประเทศไทย
ส่วน พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงผลการคัดแยกเหยื่อด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอว่า ผลจากการคัดอยากยืนยันเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แน่ชัด จำนวน 6 ราย จากทั้งหมดที่ส่งไปตรวจ 11 ราย หลังเข้ากระบวนการตรวจเอ็มอาร์ไอ
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันพุธ ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1, พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น.4 เดินทางมายัง บก.ป. พร้อมเชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้ดำเนินรายการ “ชูวิทย์ตีแสกหน้า” อดีตผู้ก่อตั้งและเจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท เข้าให้ข้อมูล ภายหลังนายชูวิทย์ได้ออกรายการโทรทัศน์เปิดเผยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินกิจการ และการให้บริการในสถานบริการดังกล่าว โดยใช้เวลาสอบสวนกว่า 5 ชั่วโมง
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า นายชูวิทย์ได้ให้การว่า ไม่ได้ขายหุ้นในบริษัทที่ประกอบการสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ให้กับ น.ส.ศศิธร ซึ่งจากคำให้การของนายชูวิทย์เป็นประโยชน์ต่อการสืบคดีอย่างยิ่ง
ด้านนายชูวิทย์กล่าวว่า ตนเข้ามาให้การในฐานะที่เคยเป็นเจ้าของวิคตอเรีย ซีเครทมาก่อน ในจำนวนผู้หญิงที่ทำงานบริการ พบทั้งหมด 113 คน โดยมีผู้หญิงจำนวน 82 คน ที่ทางดีเอสไอเตรียมส่งฟ้องดำเนินคดีข้อหาค้าประเวณี ในจำนวนนั้นมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 5 คน ดังนั้นก็กลายเป็นว่าจะไปดำเนินคดีกับเหยื่อด้วย ซึ่งทำให้เกิดความสับสนในคดี ในฐานะที่เป็นผู้สื่อข่าวและเคยเป็นเจ้าของวิคตอเรียรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล มีอิทธิพลบางประการเกิดขึ้นแล้ว โดยผู้ที่เป็นเจ้าของปัจจุบันในขณะนี้ยังไม่มีใครพูดชื่อนี้เลย ตนเคยพูดถึงชื่อนี้หลายครั้งหลายครา แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐานสาวไม่ถึงตัวการที่แท้จริง ก็ไม่ต้องไปปราบปรามแล้วในขบวนการค้ามนุษย์ เพราะนอกจากหลักฐานการประชุม หลักฐานทางการเงิน และมีพยานเห็นมากมายก็ยังดำเนินการไม่ได้เลย
อดีตเจ้าของวิคตอเรียกล่าวว่า ในชั้นสอบสวนตนได้ให้ข้อมูลกับทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ไปหมดแล้ว ตนเป็นคนชัดเจนว่าขายกิจการให้ใครไป ยืนยันว่าไม่ใช่นางศศิธรที่ตนยังไม่เคยเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่จะมีการมอบเป็นนอมินียังไงก็แล้วแต่ ตนขายกิจการให้กับเสี่ย ก. การที่จะขายกิจการอาบอบนวดนั้นต้องมีการนัดเจอกัน พูดคุยกัน พาดูสถานที่ มีการเจอหน้ากัน ไม่ใช่ว่าจำไม่ได้ ซึ่งตอนที่โอนซื้อขายกิจการกันนั้นก็มีลูกน้องตนตามไปดูอยู่ ไปถามลูกน้องของตนก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน หลักฐานเอกสารการซื้อขายกิจการทั้งหมดที่นำมามอบให้วันนี้ เป็นหลักฐานที่ชัดและก็ตรงที่สุด ไม่มีการใส่ร้าย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |