11 ก.ค. 61 - ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จ.ภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงว่า การค้นหาผู้ประสบเหตุเรือล่มยังดำเนินการต่อเนื่อง เร่งค้นหาอีก 2 ราย ขณะนี้มีศพ ที่ รพ.วชิระภูเก็ต จำนวน 45 ราย สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลทราบชื่อนามสกุลแล้ว 43 ราย สรุปยอดนักท่องเที่ยว ลงเรือฟินิกซ์ จำนวน 89 คน รอดชีวิต 42 คน เสียชีวิต 45 ราย สูญหาย 2 ราย
โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเผาศพ จำนวน 5 ศพ ทางจังหวัดจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพทุกคืน ที่วัดโฆษิตวิหาร อ.เมือง จ.ภูเก็ต และทำการเผาศพอย่างต่อเนื่อง มีการนำศพออกจากประเทศไทยแล้ว 2 ราย การเผาศพหรือเอาศพกลับขึ้นกับความสมัครใจของญาติ ในวันนี้ ทำการเผาอีก 7 ศพ ทางจังหวัดพร้อมอำนวยความสะดวกช่วยเหลือทุกอย่าง และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป จัดพิธีเรียกขวัญ ส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตสู่สุคติ ที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
ทั้งนี้ การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเรือล่ม จังหวัดภูเก็ต ได้เริ่มเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาทันทีที่รับแจ้ง มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเรือล่มและประสานงานบูรณาการร่วมกับศรชล.เขต3 ภาคเอกชน เรือประมงพาณิชย์ส.พัฒนา 11 และ ส.พัฒนา 12 ได้ทำการช่วยชีวิตนักท่องเที่ยว และร่วมค้นหากันตลอดในจุดวิกฤตินั้นเรือเล็กเข้าถึงไม่ได้ต้องใช้เรือลำใหญ่ออกให้การช่วยเหลือ นำขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเอกชน แพปลาพิชัย แพปลาจิตไพบูลย์ รวมทั้งมีทีมกู้ภัย หลายหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือ
"เหตุการณ์นี้ ทางจังหวัดภูเก็ต ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ขอบคุณทีมอาสาสมัคร ดำน้ำเอกชน ครูสอนดำน้ำ ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ ขอบคุณทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทางจังหวัดจะมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป นอกจากนี้ ขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อทางการจีน ที่ ส่งเจ้าหน้าที่ กงสุล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย มาร่วมสนับสนุนชุดกู้ภัย ชุดดำน้ำ มาช่วยค้นหาในครั่งนี้ การค้นหายังไม่ยุติ ทำกันต่อเนื่องจนกว่าจะครบทั้งหมด ถ้าจะยุติการค้นหาเมื่อไหร่ต้องเป็นการตกลงร่วมกันกับทางการจีน" นายนรภัทร ระบุ
ด้าน พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชการทัพเรือภาค 3 กล่าวว่า ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล.เขต 3) ร่วมปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต การค้นหาในวันนี้ ชุดปฏิบัติการใต้น้ำได้ปฏิบัติการแล้ว เพื่อนำร่างผู้ที่ติดใต้ท้องเรือขึ้นมาวันนี้ พร้อมกับเร่งค้นหาอีก 2 ราย ที่สูญหายด้วย โดยค้นหาบริเวณเกาะพีพี ขึ้นไปทางกระบี่ พังงา และสตูล ซึ่งเป็นบริเวณที่พบศพผู้ประสบเหตุล่าสุด 2 ราย
พ.อ.ศานติ ศกุนตนาค เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 45 (มทบ.45) กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 โดย มทบ.41 และ มทบ.45 สนับสนุนค้นหาผู้สูญหาย ทางเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งต่างๆในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และลาดตระเวนเดินเท้า ร่วมกับภาคประชาชน วิทยุเครื่องแดง ประมงพื้นบ้าน ตามเกาะแก่งต่างๆ มีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ในฐานะผู้แทนอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าประสานงานกับศรชล.เขต 3 ในการร่วมประสานงานช่วยเหลือด้านนี้
"ในส่วนที่ยังค้นหาอีก 2 รายนั้น คาดว่าอาจติดอยู่ใต้ท้องเรือ อาจต้องพลิกเรือ การพลิกเรือต้องระมัดระวังให้เรือเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งตามกฏหมาย เมื่อเรือจม เจ้าท่าต้องทำการกู้เรือขึ้นมา เรื่องนี้เกี่ยวข้องมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และเรือเป็นหลักฐานทางคดี การกู้เรือต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง เนื่องจากจุดที่เรือจมมีความลึก 45 เมตร ต้องใช้นักประดาน้ำ ใช้เครน 400 ตัน นำเข้ามาจากมาเลเซีย โอบอุ้มมาให้เรือตั้งตรงสูบน้ำออกเก็บหลักฐานทุกอย่างให้ดีที่สุดและเก็บรักษาไว้ในเขตหวงห้าม การทำงานมีข้อจำกัดในสภาพอากาศ ต้องใช้เวลาในการเก็บกู้ 15 วัน การเตรียมเครื่องมืออีก 10 วัน การกู้เรือเป็นสิทธิ์ของเจ้าของเรือ และประกันภัย เรือลำนีมีการทำประกันภัยตัวเรือไว้อยู่แล้ว " นายภูริพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเหตุเรือล่มแล้ว การสอบสวนใช้ข้อมูลหลักฐานแวดล้อม สภาพอากาศ สภาพตัวเรือ องค์ประกอบอีกหลายด้าน เข้ามาสอบสวนการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งการตัดสินใจนำเรือเข้าหรือออกทะเลขึ้นกับกัปตันเรือตัดสินใจ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |