ทัพ"ตราไก่"ฝรั่งเศส ทะยานเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศ เวิลด์ คัพ 2018 หลังสยบ ทีม"ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยี่ยม ไปหวุดหวิด 1-0 ในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อคืนวันอังคาร
    ฝรั่งเศส เจอกับ เบลเยี่ยม ในรอบเซมิไฟนอล เหมือนศึกบ้านพี่เมืองน้อง ของสองชาติที่ใช้ภาษาร่วมกันอยู่ โดย 40 เปอร์เซนต์ของประชากร เบลเยี่ยม พูดภาษาฝรั่งเศส ขณะที่พรมแดนระหว่างสองประเทศยาวติดต่อกันเกือบ 400 ไมล์ แม้แต่ เอแด็ง อาซาร์ ขุนพลคนสำคัญของเบลเยี่ยม ยังยอมรับว่า ที่จริงตัวเขาและพี่น้องของเขาเชียร์ทีมชาติฝรั่งเศสมากกว่าเบลเยี่ยมเสียอีก
    ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส บอสทีมตราไก่ที่เคยนำทีมชาติคว้าแชมป์โลกมาแล้วในฟร็องซ์  98 หมายมั่นปั้นมือว่าจะพาทีมเข้าไปชูถ้วยได้อีกในฐานะผู้จัดการทีมก่อนเกมกำชับลูกทีมต้องทุ่มหมดทุกสิ่งทุกอย่าง และเปิดเกมมาทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กันไม่หยุด เบลเยี่ยม ที่นัดเจอ บราซิล ตั้งรับแล้วรอโต้กลับ วันนี้ เปิดหน้าแลกแบบไม่มีกลัว แต่กว่าสกอรแรกจะมาก็ต้องรอถึงครึ่งหลัง โดยกลับจากพักครึ่งได้แค่ 5 นาที ฝรั่งเศส ออกนำจาก ซามูเอล อุมตีตี โฉบเข้าไปโหม่งได้ก่อน มารูอาน เฟลลานี่ ขวิดบอลเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเด็ดขาด
    หลังจากนั้นเกมเดือดขึ้น เบลเยี่ยม โหมบุกหนัก มีโอกาสลุ้นอยู่หลายครั้ง แต่พลาดไปหมด ขณะที่ ฝรั่งเศส ก็ได้ลุ้นเพิ่มสกอร์อยู่หลายครั้ง แต่ทำยังไงก็ยิงผ่านมือ ติโบท์ กูร์ตัวส์ ไม่ได้
    ต่อเวลา 6 นาที ฝรั่งเศส ชนะไปหวุดหวิด 1-0 เป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าสูรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ เบลเยี่ยม ยังได้เตะต่อในเกมเพลย์ออฟชิงที่ 3